หญิงชาวนา เฮงที่1 แจ็กพอต รับ34ล้าน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. โดยผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 พร้อมแจ็กพอตเลขชุด

รวมเป็นเงินถึง 34 ล้านบาท ที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 11 ต.ห้วยสะแก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ สภาพเก่า ภายในบริเวณบ้านมีนายเกษม ดวงกันยา นายก อบต.ห้วยสะแก กำลังแสดงความยินดี กับนางต้าน พิมเสน อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน ผู้มีโชคครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องหลายสิบคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  

นางต้าน เศรษฐินีเพียงชั่วข้ามคืน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า มีอาชีพทำนา

มีที่นาอยู่ 40 ไร่ และเช่าทำนาอีก 40 ไร่ มีสามีชื่อนายไพร พิมเสน อายุ 61 ปี มีลูก 2 คน คนโตเป็นชายอายุ 39 ปี อาชีพทำนาเช่นกัน ส่วนลูกสาว อายุ 37 ปี มีอาชีพให้เช่ารถ จยย.อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ครอบครัวมีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย และมีหนี้สินพอสมควร เมื่อปี 2549 สามีเคยได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นด้านการทำนา จากนายดิเรก ถึงฝั่ง อดีต ผวจ.เพชรบูรณ์ ในขณะนั้น ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก นับเป็นความภาคภูมิใจที่พ่อเมืองมาเยี่ยมถึงบ้าน เหมือนคำโบราณว่า “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” ต่อมาสามียังได้รับรางวัลเกษตรกรทำนาดีเด่นภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ ในปีเดียวกันด้วย

ปกติตนและสามีจะชอบเข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ โดยเฉพาะวันพระไม่เคยขาด

สามียังเป็นไวยาวัจกร วัดใหม่ชัยมงคล ที่อยู่ใกล้บ้าน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนและสามีไปซื้อปุ๋ยที่ร้านสิทธิชัยขายปุ๋ย ตลาดสามแยกวังชมพู และขอติดค่าปุ๋ยกับนายสิทธิชัย ธนนิรชรกุล หรือเฮียทุย เจ้าของร้าน ซึ่งมีความสนิทสนมกัน หลังจากซื้อปุ๋ยแล้วก็เดินไปที่แผงขายลอตเตอรี่ของป้านิด บริเวณศาลาพักรถท่ารถสองแถว วังชมพู-นาเฉลียง เพราะชอบเสี่ยงดวงซื้อลอตเตอรี่งวดละ 2-3 คู่เป็นประจำ ครั้งนี้เลือกซื้อลอตเตอรี่มา 2 คู่ ต่างหมายเลขกัน ในราคาคู่ละ 95 บาท จากนั้นก็กลับบ้านไปทำงานตามปกติ

ระหว่างไปทำนาที่หมู่ 8 ต.ห้วยสะแก อยู่ห่างจากบ้านราว 8 กม. ได้กล่าวขึ้นมาลอยๆ กับต้นมะขามยักษ์

ขนาด 3 คนโอบ อายุนับร้อยปีที่ขึ้นอยู่ใกล้ที่นาว่า “ขอให้ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ทีเถอะ จะนำหมอลำซิ่งมาเล่นแก้บนให้กลางวันแสกๆ” โดยมะขามยักษ์ต้นนี้เคยมีชาวบ้านมาถูขอเลขและถูกรางวัลเลขท้าย 2-3 ตัว เป็นประจำ แต่ระยะหลังเกือบ 2 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ยินข่าวว่าใครถูกหวยอีก กระทั่งก่อนหวยออก 3 คืน ได้ฝันเห็นพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปนานแล้วมาเข้าฝันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยแม่หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังมาฝากด้วย ในฝันพ่อถามว่า “แว่นตาของพ่ออยู่ไหน” รุ่งเช้าจึงไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บิดามารดา

กระทั่งเย็นวันที่ 1 มิ.ย. หลังหวยออก ตนและสามีไปซื้อของที่ตลาดสามแยกวังชมพูอีกครั้ง

และแอบชะโงกดูใบตรวจที่แผงของป้านิด พร้อมหยิบลอตเตอรี่ทั้ง 2 คู่ขึ้นมาดู ปรากฏว่าคู่แรกไม่ถูก ส่วนคู่หลังหมายเลข 414875 ถูกรางวัลที่ 1 จึงแอบกระซิบบอกสามี และรีบนำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลไปให้นายสิทธิชัย เจ้าของร้านปุ๋ยดู นายสิทธิชัยแนะนำว่าให้เก็บเงียบไว้ และเซ็นชื่อที่อยู่ไว้ด้านหลังลอตเตอรี่ด้วย จากนั้นจึงรีบกลับบ้านไปเล่าให้ญาติพี่น้องฟัง พอรุ่งเช้าได้โทรศัพท์ไปหานายเกษม ดวงกันยา นายก อบต.ห้วยสะแก และนางสุจิตร ภรรยา ที่มีความสนิทกัน เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องการขึ้นเงิน 2 สามีภรรยาเดินทางมาหาพร้อมนำหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐมาตรวจสอบด้วย ปรากฏว่านอกจากจะถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 มิ.ย. 51 จำนวน 4 ล้านบาทแล้ว ยังถูกรางวัลแจ็กพอต ชุดที่ 29 ได้รับเงินพิเศษอีก 30 ล้าน รวมเป็นเงินมหาศาลถึง 34 ล้านบาท

“ป้าดีใจมาก จะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. 400,000 บาท หนี้ธนาคารออมสิน 50,000 บาท หนี้เงินออมทรัพย์สัจจะหมู่บ้าน 100,000 บาท ใช้หนี้ค่าปุ๋ยเฮียทุย 20,000 บาท นอกจากนี้ จะนำเงินไปซื้อรถไถนา 600,000 บาท แบ่งให้ลูกทั้ง 2 คน ให้น้องชายและพี่ชายรวมทั้งหลานๆไปใช้หนี้สินที่มีให้หมด จากนั้นจะซ่อมแซมหลังคาบ้านที่รั่ว พร้อมสร้างยุ้งข้าวใหม่ ส่วนรถยนต์คันใหม่คงไม่ซื้อเพราะมีรถกระบะอยู่แล้ว 2 คัน แม้จะเก่าแต่ยังใช้งานได้ เงินที่เหลือจะเก็บไว้เป็นเงินออม รวมทั้งจะบริจาคเงิน 100,000 บาท ไปสร้างหอระฆังที่วัดใหม่ชัยมงคลที่ยังสร้างไม่เสร็จ และอีก 30,000 บาท ไปเทพื้นคอนกรีตหอประชุม ร.ร.ชัยมงคล ที่ยังไม่เสร็จอีกเช่นกัน แม้จะมีเงินหลายสิบล้านบาท แต่จะขอยึดอาชีพทำนาต่อไปเพราะรักอาชีพนี้ จะขอเป็นชาวนาไปจนวันตาย” นางต้าน เศรษฐินีคนใหม่กล่าว