เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า
ในฐานะที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นหน่วยงานปฏิบัติที่รองรับ พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ พ.ศ. 2551 ซึ่งจะประกาศใช้ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนสำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ที่ตั้งขึ้นใหม่ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดรับบุคลากร เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจภาพยนตร์เกือบ 100 คน ส่วนงบ ประมาณได้ทำเรื่องเสนอต่อนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว. วัฒนธรรม เพื่อขอรับงบบริหารงานภาพยนตร์ 2 ทาง คือ เสนอของบฯกลางจากคณะรัฐมนตรีปีแรก 70 ล้านบาท หรือเรียกเก็บจากค่าธรรมเนียมให้บริการ โดยจะหักร้อยละ 50 เพื่อนำมาบริหารงาน เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจภาพยนตร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
เลขาธิการ กวช.กล่าวอีกว่า
ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ สวช. จะทราบว่าภารกิจการดูแลงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์มีอะไรบ้าง โดยทาง สตช.จะนำรายชื่อภาพยนตร์ โรงภาพ-ยนตร์ และงานอื่นๆ มามอบให้กับ สวช.ศึกษาข้อมูลเพื่อ เข้าสู่การปฏิบัติงานจริงภายใน 90 วัน
อย่างไรก็ตาม แม้ ในช่วง 90 วันต่อจากนี้ไป
เป็นช่วงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูลและแนวทางปฏิบัติงาน หากมีผู้ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา สวช.จะต้องเข้าไปตักเตือนและทำความเข้าใจเท่านั้น ยังไม่มีการลงโทษรุนแรง ยกเว้นผู้ที่ตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่ทำตามกฎหมาย เช่น ลักลอบผลิตขายภาพยนตร์ทั้งในรูปแบบซีดี ดีวีดี แม้จะอยู่ในช่วง 90 วัน แต่ถือว่ากระทำความผิดในกฎ-หมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการละเมิดลิขสิทธิ์ทาง ปัญญา มีความผิดและรับโทษหนักเช่นกัน รวมไปถึงบรรดาโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีใบอนุญาตฉาย หรือมีแต่ไม่ แสดงให้เห็น มีโทษเช่นกัน ดังนั้น จึงขอให้โรงภาพยนตร์ ทุกแห่งที่ไม่มีใบอนุญาตฉายรีบดำเนินขอใบอนุญาตให้ ถูกต้องด้วย