ผนึกห้างฯ-ตลาดสดจัดกุ้งธงฟ้า

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า

ได้หารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า ตลาดสด เพื่อจัดโครงการรณรงค์เพิ่มการบริโภคกุ้ง แก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เพราะปีนี้กุ้งขาวที่ออกมามีขนาดเล็กลงทำให้ส่งออกไปต่างประเทศที่ต้องการกุ้งคัดขนาดได้ จึงต้องวางแผนระบายกุ้งออกสู่ตลาดในประเทศ ผ่านห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ เช่น บิ๊กซี เทสโก้โลตัส คาร์ฟูร์ แมคโคร  ฟู้ดแลนด์ และอีกหลายทาง ที่จะจัดโครงการกุ้งธงฟ้า ผู้ค้าร่วมใจ เปิดตัวพร้อมกันวันที่ 5 มิ.ย.นี้
 
“ตอนนี้กุ้งขาวขนาด 60 ตัวต่อ กก. ๆ ละ 145 บาท ขนาด 70 ตัว กก.ละ 135 บาท  ขนาด 80 ตัว กก.ละ 125 บาท  เห็นว่าราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยกระจายกุ้งจากกลุ่มผู้เลี้ยงไปสู่ผู้บริโภคในราคาถูกกว่าท้องตลาด ขณะเดียวกันจะนำกุ้งกระจายไปยังตลาดสด และให้พาณิชย์จังหวัดแต่ละจังหวัดจัดตลาดจำหน่ายเพิ่มด้วย โดยที่ผ่านมาการบริโภคกุ้งภายในประเทศตกปีละ 40,000 ตัน ขณะที่ปีนี้คาดว่ากุ้งขาวจะออกสู่ตลาดถึง 400,000 ตัน จึงต้องกระตุ้นการบริโภคภายในเพิ่ม หลังจากราคาส่งออกตกต่ำเพราะกุ้งตัวเล็ก”
 
นอกจากนี้ วันที่ 30 พ.ค. นี้ จะประชุมร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สมาคมอาหาร  และภัตตาคารไทย

เพื่อกำหนดราคาที่เกษตรกรจะจำหน่ายกุ้งให้กับห้างสรรพสินค้าและสมาคมภัตตาคารไทยโดยตรงแบบไม่ผ่านคนกลาง รวมทั้งจะขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าเพิ่มสัดส่วนการซื้อกุ้งจากผู้ผลิตสินค้ากุ้ง (ซัพพลายเออร์) จากเดิมเฉลี่ยเดือนละ 150 ตัน เป็น  200-300  ตัน เชื่อว่าจะทำให้กุ้งขาวกระจายไปยังส่วนกลางและภูมิภาคอย่างเพียงพอ และราคาน่าจะเพิ่มขึ้น
 
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยสมาชิกตัวแทนจากสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ 11 สมาคม

เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันราคากุ้งหลังจากที่ราคากุ้งได้ตกต่ำลงมาก เพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 25%  รวมทั้งยังถูกสหรัฐ ใช้มาตรการเอดีหรือประกาศภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกุ้งไทยเป็น 6.09% ทำให้ไทยไม่สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ โดยเฉพาะ เวียดนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับเรื่องแทนนายกรัฐมนตรี
 
นายเอกพจน์ กล่าวอีกว่า กลุ่มเกษตรกร  ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือโดยรับประกันราคากุ้งภายใน 15 วัน

ไม่เช่นนั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศจะรวมตัวกันออกมาเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป โดยเกษตรกร ต้องการให้รัฐบาลเร่งประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยเร็วเพื่ออนุมัติให้มีการรับประกันราคากุ้งที่ตกต่ำ ทั้งนี้รัฐบาลต้องรีบประกันราคากุ้งให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องเร่งเจรจากับสหรัฐ เพื่อให้ยกเลิกการใช้มาตรการเอดีกับไทย เพราะสหรัฐ เป็นตลาดส่งออกกุ้งที่ใหญ่ที่สุดของไทย คือ 60% เพราะแม้ว่าเราจะช่วยตัวเองด้วยการลดปริมาณผลผลิตกุ้งในไตรมาสแรกของปี 51 ลงไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาตกต่ำได้.