ป้าอ้วนสู้ข้าวยากหมากแพง

เปิดตัว "ป้าอ้วน" แม่ค้าเมืองกรุงเก่าสู้ยุคข้าวยากหมากแพง ยังกัดฟันขายกับข้าวถุงละ 10 บาท ข้าวเปล่า 5 บาท ทั้งส่งลูกเรียน-เลี้ยงแม่วัยชรา รับเห็นใจลูกค้าขาประจำไม่อยากขายแพงตามสภาวะเศรษฐกิจ เผยเคล็ดลับพออยู่ได้กำไรแค่วันละไม่กี่ร้อยบาท
 
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.อยุธยา ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ข้าวขึ้นราคา แต่ยังมีแม่ค้าขายข้าวแกงถุงละ 10 บาท

โดยขายมานานนับสิบปี อยู่บริเวณตลาดหน้าสถานีรถไฟอยุธยา ม.10 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปพิสูจน์ บริเวณริมถนนตรงข้ามกับหน้าสถานีรถไฟอยุธยามุ่งหน้าไปยังท่าเรือข้ามฟากฝั่งซ้ายมือ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากกำลังยืนเข้าแถวซื้อแกงถุงและข้าวอยู่ที่ร้านซึ่งวางอยู่เกือบติดดิน ซึ่งประชาชนต่างเลือกหาแกงถุงมัดสำเร็จรูปอย่างพออกพอใจ รวมทั้งขนมหวานนานับชนิด โดยจ่ายเงินเพียงถุงละ 10 บาทส่วนขนมหวานถุงละ 7 บาท แต่ถ้าซื้อ 3 ถุงก็จ่ายเพียง 20 บาท สังเกตเห็นประชาชนต่างซื้อหากันคนละ 3-5 ถุง และส่วนใหญ่ยังซื้อข้าวสวยที่ใส่ถุงขายเพียงราคาถุงละ 5 บาทเท่านั้น


สอบถามแม่ค้าคนดังกล่าวทราบชื่อคือ นางเอมอร หรือป้าอ้วน บุตรสิงห์ อายุ 51 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ม. 8 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเปิดเผยว่า ตนขายข้าวแกงมากว่า 14 ปีแล้ว ทุกวันจะต้องตื่นขึ้นมาทำแกง โดยมีนายสวง บุตรดี อายุ 56 ปี สามี และลูกสาวช่วยทำ จากนั้นก็จะให้ลูกสาวซึ่งทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ขับรถจากภาชี มาขายอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟ ค่าน้ำมัน 3 วัน 1 พันบาท ส่วนกำไรจากการขายแกงมีรายได้เพียงวันละ 300-500 บาทเท่านั้น อาศัยขายมาก และยังกลับไปทำแกงขายต่อที่บ้านตอนเย็น แต่ราคาถุงละ 15 บาท เนื่องจากปริมาณการขายน้อยกว่าตอนเช้า แต่จะตักมากกว่า โดยกับข้าวที่ขายนั้นก็มีให้เลือกมากกว่า 10 อย่าง เมนูที่คนนิยมมากเห็นจะเป็นน้ำพริกปลาร้า นอกนั้นก็เป็นแกงพื้นบ้านเช่นพะโล้ แกงไก่หน่อไม้ แกงเขียวหวานเนื้อ ขนมจีนน้ำยา ลาบหมู ยำกบ ผัดเผ็ดปลาช่อน เป็นต้น 
 


ป้าอ้วน ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ขายราคาเพียง 10 บาท เนื่องจากเห็นใจคนที่มาซื้อเห็นหน้ากันมาบางคนเป็น 10 ปีแล้ว

ตอนนี้ข้าวสารก็ขึ้นจากราคากระสอบละ 700 บาทเป็น 1600 บาทแล้ว แต่ข้าวสวยที่ขายก็ยังถุงละ 10 บาท ส่วนขนมหวานเดิมขายถุงละ 5 บาทเท่านั้น แต่ทางแม่ค้าที่ตนระบมาขอขึ้นราคาเป็นต้นทุน 6 บาท ตนเลยต้องขาย 7 บาท แต่ซื้อ 3 ถุงก็คิดเพียง 20 บาทเท่านั้น ในส่วนของข้าวสวยที่ขายนั้น แทบจะไม่ได้อะไรเลยหุงมาวันละ 2 หม้อประมาณ 10 ก.ก. ทุกอย่างขายหมดทุกวันไม่เกิน 8 โมงเช้าเศษๆ พอขายเสร็จก็ซื้อของกลับไปบ้านไปนั่งทำขายตอนเย็น เข้านอนตอนสามทุ่มกว่าๆ แล้วก็ตื่นมาทำแกงมาขายต่อตอนเช้า ทุกวันนอกจากส่งลูกเรียนแล้วยังต้องเลี้ยงดูแม่อายุกว่า 70 ปีที่สุขภาพไม่ค่อยดี เห็นคนอื่นเขาลำบากก็ไม่อยากไปซ้ำเติมเขา

คิดว่าจะขายต่อไปอีกสักพักในราคา 10 บาท แต่ไม่รู้ว่าจะทนได้เท่าไหร่

เพราะน้ำมันรถและวัตถุดิบต่างๆก็ขึ้นราคาหมดแล้ว ตนคิดว่าถ้าคนเราเอาแค่พออยู่พอกินเชื่อว่าพออยู่ได้ ไม่ถึงกับรวย ด้านนางแสง แจ่มจันทร์ อายุ 56 ปีแม่ค้าขายแกงที่อยู่ตรงข้ามกับร้านป้าอ้วน เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ทำแกงมาขายวันละสองหม้อเท่านั้น เป็นแกงเผ็ดและแกงจืด ขายเฉพาะคนที่ซื้อเพื่อใส่บาตรพระที่มารอรับบิณทบาตร โดยขายในราคาแกงถุงละ 10 บาท และข้าว 5 บาท ซึ่งก็เหลือแทบทุกวัน และเห็นว่าคนใส่บาตรน้อยลงไปด้วย ส่วนที่ป้าอ้วนขายราคา 10 บาทได้นั้นเพราะขายปริมาณมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าป้าอ้วนจะขาย 10 บาทได้อีกนานเท่าใด

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์