เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 พ.ค. นายหล้า อุสามาลี อายุ 75 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 2 ต.ป่าสัก อ.แม่จัน จ.เชียงราย จูงมือ ด.ช.จักริน อุสามาลี วัย 7 ขวบ มีศักดิ์เป็นเหลนเข้าพบนายราวิน เสริมวิทยากูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าว จ.เชียงราย แจ้งความประสงค์ขอให้ช่วยเป็นสื่อกลางประกาศหาตัวนางนงคราญ อุสามาลี หรือฐิติมา ภิระบรรณ์ อายุ 32 ปี หลานสาว และเป็นแม่ของ ด.ช.จักริน ที่หายตัวไปตั้งแต่ ด.ช.จักริน อายุได้ 11 เดือน ทิ้งภาระให้ตนรับผิดชอบดูแลหนูน้อยมาตลอด ทั้งที่ความเป็นอยู่ก็ลำบากยากแค้นแสนสาหัส มีเพียงเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาท เป็นรายได้เท่านั้น
นายหล้ากล่าวด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองอีกว่า นางนงคราญ แม่หนูน้อยมีศักดิ์เป็นหลานสาวตน เพราะเป็นลูกของลูกชายตน
โดยลูกชายได้ตายไปนานหลายสิบปีแล้ว เมื่อนางนงคราญ อายุ 16 ปี ได้ออกจากบ้านไปทำงานที่กรุงเทพฯ ต่อมาก็อุ้มท้องกลับมาคลอด ด.ช.จักริน ที่บ้านโดยไม่รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร และนางนงคราญอยู่เลี้ยงลูกได้เพียง 11 เดือน ก็ทิ้งลูกหนีออกจากบ้านไปทำงานที่ภาคใต้ ไม่เคยติดต่อหรือส่งเงินมาให้ลูกแม้แต่บาทเดียว ตนต้องเลี้ยงดูเหลนอย่างอดมื้อกินมื้อ เพราะมีความเป็นอยู่ที่ยากจน มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ต้องอาศัยหลานคนอื่นๆคอยส่งข้าวปลาอาหารให้กินพอประทังชีวิตไปวันๆ
เฒ่าชรากล่าวอีกว่า ขณะนี้ ด.ช.จักรินกำลังจะเรียนชั้น ป. 2 ร.ร.บ้านหัวแม่คำ ต.แม่คำ มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
แถมเด็กเติบโตขึ้นทุกวัน ต้องกินต้องใช้มากขึ้น ลำพังตนเองสุขภาพก็อ่อนล้าไปตามวัย เริ่มเจ็บป่วยบ่อย ไม่รู้จะตายวันไหน คงไม่สามารถเลี้ยงดูเหลนได้อีกต่อไป จะอาศัยชาวบ้านที่เคยหยิบยื่นมาช่วยเหลืออีกก็คงไม่ไหว เพราะเศรษฐกิจก็แย่ ทุกคนต้องหาเช้ากินค่ำไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้อีก จึงอยากวิงวอนขอให้ สื่อมวลชน ช่วยเป็นสื่อกลางในการส่งข่าวถึงนางนงคราญ หลานสาว ได้ติดต่อกลับบ้านด่วนเพื่อจัดการกับ ด.ช.จักรินว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าไม่สามารถเดินทางกลับได้ ก็ขอให้โทรศัพท์ไปที่เบอร์ 08-6658-8908 เป็นเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนบ้านที่ให้การช่วยเหลือดูแลเหลนมาตลอด
ส่วน ด.ช.จักรินกล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากพบหน้าแม่ เพราะตั้งแต่จำความได้ยังไม่เคยเห็นหน้าแม่เลย ด้วยความคิดถึงจึงขอวิงวอนให้แม่กลับมาบ้านหรือไม่ก็ส่ง ข่าวให้ทราบว่าแม่อยู่ที่ใด ไม่เช่นนั้นตนจะไปอยู่กับมูลนิธิโสสะที่ยื่นมืออ้าแขนชุบชีวิตรับเลี้ยงดูแทน เพราะนายหล้า ทวดชรามากแล้วไม่สามารถที่จะรับภาระเลี้ยงดูต่อไปได้