ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ วันที่ 1 พ.ค.กลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างมารวมตัวทำกิจกรรม เรียกร้องภาครัฐเพิ่มสวัสดิการให้ลูกจ้าง โดยที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่ช่วงเช้า
สภาองค์กรลูกจ้างแห่งประเทศไทย 12 แห่ง ร่วมกับ 1 สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจและกระทรวงแรงงาน จัดงานวันแรงงานแห่งชาติ 2551 หรือ “วันเมย์เดย์” ซึ่งปีนี้ย้ายสถานที่จัดงานจากท้องสนามหลวง มาจัดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยเน้นให้ความรู้กับผู้ใช้แรงงานและงดงานรื่นเริง ภายใต้สโลแกน “แรงงานพัฒนา พาชาติก้าวไกล สู่อนาคตไทย อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ” มีผู้ใช้แรงงานมาร่วมงานหลายพันคนและได้ยกป้ายเรียกร้อง อาทิ ชิมไปบ่นไป ลูกจ้างจะตายอยู่แล้ว, รักลุงหมัก-รักแรงงาน, หยุดเลือกปฏิบัติการจ้างงานคนพิการ ฯลฯ แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่มีอะไรหวือหวารุนแรง โดยก่อนที่จะมีการเปิดงาน นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ได้เป็นประธานในพิธีทาง ศาสนาถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน
โดยขึ้นเวทีพร้อมกับนางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมบัติ เมทะนี ดาราชื่อดังที่ผันตัวเองมาเล่นการเมือง และผู้นำแรงงาน 13 องค์กร โดยนายมิ่งขวัญกล่าวกับผู้ใช้แรงงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจต้อนรับนายกรัฐมนตรีพม่าจึงมอบหมายให้มาแทน จากนั้นนายอุดมศักดิ์ บุพนิมิตร ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ได้ยื่นข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน 8 ข้อ และนายมิ่งขวัญได้รับปากว่า เรื่องขึ้นค่าจ้าง 9 บาท ได้ปรึกษากับนาง อุไรวรรณแล้ว จะผลักดันให้เร็วที่สุด วันที่ 2 พ.ค.นี้นางอุไรวรรณจะทำหนังสือส่งมา ตนจะทำให้ทุกคนสมความ ปรารถนา ถ้ารับปากแล้วมาจากใจจริงแน่นอน ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 8 ข้อ ที่เสนอมา จะลงมาดูด้วยตัวเองร่วมกับ รมว.แรงงาน ทุกท่านจะต้องได้ขึ้นค่าจ้าง 9 บาทแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายมิ่งขวัญประกาศยืนยันกับผู้ใช้แรงงานว่าจะได้ 9 บาทตามข้อเรียกร้อง ได้มีเสียงคนถามขึ้นไปบนเวทีว่า “เมื่อไหร่จะได้”
นายมิ่งขวัญได้ตอบกลับว่า จะติดตามให้เร็วที่สุด พร้อมพูดสร้างบรรยากาศว่า “ขอเสียงหน่อย” ซึ่งก็เรียกเสียงเฮจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานพากับปรบมือแสดงความดีใจ แต่บางคนตะโกนบอกว่า “อย่าหาเสียง” ให้ทำจริงตามคำพูด ซึ่งนายมิ่งขวัญได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ ให้สัญญา ก่อนจะเดินทางกลับกลุ่มคนพิการได้เข้ายื่นข้อเรียกร้องขอให้รัฐบาลปรับปรุงกฎหมายเลือกปฏิบัติต่อคนพิการด้านอาชีพ และแก้กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้พากันเดินทางไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีกลุ่มสมัชชาผู้ใช้แรงงาน 1550 ชุมนุมทวงถามข้อเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 233 บาท และให้แก้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 โดยนำรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับคืนมาทำปฏิรูป โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้ทางการส่งคนมารับขอเรียกร้อง ซึ่งนายนคร ศิลปอาชา รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ และกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ฝากถึงนายมิ่งขวัญและรัฐบาลว่า หากไม่ทำตามคำพูดขอให้มีอันเป็นไป ก่อนจะสลายตัวไปในเวลา 13.00 น.