มท.2 จี้ทุกหน่วยเร่งฟื้นฟูเหยื่อน้ำป่า-ดินถล่ม/ยึดแนวสึนามิช่วยชาวเหนือ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2549 20:59 น.

แพร่ เสริมศักดิ์ จี้ทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติเร็วที่สุด ยึดรูปแบบการฟื้นฟูหลังสึนามิ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับเตรียมพิจารณายกเว้นภาษีให้เหยื่อน้ำป่า-ดินถล่มถ้วนหน้า

การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกน้ำป่าพัดจนได้รับความเสียหายยับเยินที่จังหวัดแพร่ โดยเฉพาะเส้นทางเข้า 5 หมู่บ้านของต.ป่าแดง และ ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ยังคงดำเนินไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากน้ำได้พัดพาเอาโคลนตม / ทราย และซากบ้านเรือนรวมทั้งท่อนซุงจากต้นไม้ที่หักโค่นถล่มลงจากเทือกเขา โดยพยายามที่จะเคลียร์เส้นทางสาย 1022 เพื่อเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในบ้านน้ำจ้อม หมู่ 8 บ้านนาตอง หมู่ 9 ต.ช่อแฮ และ บ้านน้ำกาย หมู่ 5 บ้านปากกาย ผาตึม หมู่ 7 บ้านห้วยหยวก หมู่ 8 ต.ป่าแดง อ.เมืองแพร่ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ล่าสุดกรมทางหลวงได้ใช้เครื่องจักรเก็บสิ่งกีดขวางดังกล่าวออกจากเส้นทางไปได้ถึง 10 กม.แล้ว ในบางช่วงที่สะพานขาดได้ใช้สะพานแบล์ริ่งหรือสะพานเหล็กมาติดตั้ง ซึ่งรถยนต์สามารถเดินทางเข้าถึงบริเวณรีสอร์ทสวนอนุสรณ์แล้ว และในการทำความสะอาดเส้นทางยังพบรถยนต์จมอยู่ใต้ดินอีก 1 คัน แต่ไม่มีคนติดอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การช่วยเหลือจะผ่านพ้นไปแล้วถึง 3 แล้วแต่หลายคนยังคงเฝ้ารอคอยการลำเลียงญาติพี่น้องออกจากหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด ซึ่งวันนี้ (26 พ.ค.49) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และ เฮลิคอปเตอร์ได้เข้าไปลงที่บ้านน้ำกาย เพื่อช่วยเหลือนายประกิจ ผาทอง กำนันต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ซึ่งเข้าไปทำสวนแล้วเกิดน้ำป่าจนไม่สามารถออกมาภายนอกได้จนล้มป่วยด้วยโรคประจำตัว ซึ่งมีการติดต่อขอความช่วยเหลือมา 2 วันถึงจะได้คิวที่จะลำเลียงออกมาทางเฮลิคอปเตอร์

นายปรีชา เทียนทอง ลูกจ้างบริษัทเดินสายโทรศัพท์ จ.พะเยา ที่ต้องเดินทางกลับบ้านด่วนเมื่อมีคนแจ้งข่าวไปว่า น้ำป่าได้พัดบ้านพังเสียหายไปหมดแล้ว และนางเรณู เทียนทอง มารดา พร้อมด้วยเด็กหญิงจรวยพร แก้วมณี อายุ 7 ปี หลานสาวหายไปกับน้ำ โดยเขาเดินทางกลับมาภายในวันที่เกิดน้ำป่า และเดินเท้าเข้าไปตามหาแม่ เป็นระยะทางถึง 25 กม. แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีบ้านเหลืออยู่แล้ว ต่อมาหน่วยกู้ภัยไปพบศพแม่ที่บ้านกวาง ต.บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ห่างจากบ้านไปลำลำห้วยแม่ก๋อน แม่สายถึง 50 กม.

นายปรีชา กล่าวว่า เสียใจแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่นึกว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น และหวังว่าชั่วชีวิตนี้เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่เกิดกับครอบครัวของตนอีก ส่วนการสร้างบ้านขึ้นมาใหม่คงไม่มีปัญญา เพราะมีรายได้น้อย คงต้องรอดูการช่วยเหลือของทางการก่อน แต่ไม่อยากไปอยู่ที่อื่นเพราะที่บ้านนาตองเป็นบ้านเกิดและมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ช่วงนี้อาศัยอาคารโรงเรียนนอนไปก่อน

ล่าสุดเวลา 14.00 น.วันนี้ (26 พ.ค.49) นายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รักษาการ รมช.มหาดไทยเดินทางมามอบเงินช่วยเหลือครอบครัวที่เสียชีวิตคือนางกัยญา วังตา อายุ 33 ปี ญาติของนายหวั่น สายสิน อายุ 78 ที่เสียชีวิตที่บ้านน้ำกาย นางสาวรุ่งทิวา กันทา อายุ 25 ปี ญาติของนายสุรชัย เสนาธรรม อายุ 44 ปีที่เสียชีวิตที่บ้านห้วยหยวก และนายปรีชา เทียนทอง อายุ 25 ปี ลูกชายของนางเรณู เทียนทอง เข้ารับเงินช่วยเหลือหลังแม่เสียชีวิตไปพร้อมกับเด็กหญิงจรวยพร แก้วมณี หลานสาวถูกถูกน้ำพัดไปไกล

หลังจากมอบเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตแล้วได้นำถึงยังชีพแจกให้กับชาวบ้านใน ชุมชนหลังพระธาตุช่อแฮ ซึ่งถูกภัยน้ำป่าด้วยเช่นกันจำนวน 200 ชุด หลังจากนั้นได้เดินทางเข้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิม

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์บัญชาการใหญ่อยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยจะเร่งให้การทำงานฟื้นฟูให้กับมาอยู่ในสภาพเดิมให้เร็วที่สุด ทั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัย โดยจะใช้วิธีการเช่นเดียวกับเหตุการณ์สึนามิ คือจะให้มูลนิธิเข้ามาดำเนินการในการสร้างบ้าน เช่นที่ไอทีวีดำเนินการไปแล้วได้ผลดีมากที่ภาคใต้ พร้อมทั้งชดเชยความเสียหาย นอกจากนั้นจะมีการส่งเสริมอาชีพต่อไป และงดการจ่ายภาษีสำหรับผู้ประสบภัย

หลังจากนั้นนายเสริมศักดิ์ ได้เดินทางเข้าไปดูการทำงานของกรมทางหลวงที่กำลังทำเส้นทางใหม่เข้าไปยัง 5 หมู่บ้านที่ถูกตัดขาด โดยในขณะที่นายเสริมศักดิ์ เข้าไป รถแบกโฮได้ขุดค้นพบรถปิคอัพอีก 1 คัน เป็นรถกระบะสีแดงทะเบียนพิษณุโลก ในลักษณะพังยับเยิน