ฮือฮาคนจากทุกสารทิศแห่ลอดใต้โบสถ์ไม้สักเก่าแก่อายุร้อยปีที่อุตรดิตถ์
ร่ำลือกันทั่วว่าลอดโบสถ์ไม้สักวัดดงสระแก้วแล้วเป็นการสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตา คนป่วยก็จะหายป่วย หากธุรกิจย่ำแย่ก็จะกระเตื้องขึ้นจนมีคนแห่มากันแน่นขนัด เข้าคิวกันยาวเหยียด เจ้าอาวาสเผยมีชาวสมุทร ปราการล้มป่วยแล้วธุรกิจก็ใกล้เจ๊ง ฝันว่าได้ลอดใต้โบสถ์ไม้สัก เลยเสาะหาจนมาถึงวัดดงสระแก้ว พอลอดโบสถ์กลับไปก็หายป่วย ธุรกิจก็ดีขึ้น บอกกันปากต่อปากจนมีคนแห่มากันแน่นวัด
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ที่วัดดงสระแก้ว หมู่ 5 บ้านดงสระแก้ว ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ติดถนนสายดงสระแก้ว-ไผ่ล้อม มีชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศกว่า 300 คน แห่กันมาลอดใต้ฐานอุโบสถไม้สักอายุเกือบ 100 ปี โดยเชื่อว่าใครได้ลอดใต้ฐานอุโบสถแห่งนี้เหมือนเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตา และเมื่อมีการอธิษฐานขอพรในระหว่างการลอดใต้ฐานจะได้พรตามที่ขอเอาไว้โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคชนิดต่างๆ ก็จะหายป่วย รวมถึงผู้ที่ประสบความล้มเหลวทั้งสู้ชีวิตและธุรกิจก็จะคลี่คลายไปได้
สำหรับพระอุโบสถแห่งนี้
สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ทรงล้านนาประยุกต์ ยกพื้นสูงประมาณ 60 ซ.ม. สร้างเมื่อปีพ.ศ.2460 มีความสวยงามแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานทองเจือ ตั้งตามชื่อผู้ที่จัดสร้างพระประธานถวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ชาวบ้านเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียด จุดธูปเทียนอธิษฐานขอพรหน้าเสมาแล้วลอดอุโบสถ 3 หรือ 9 รอบ เมื่อลอด 1 ครั้งให้ตีฆ้องที่ทางวัดเตรียมเอาไว้ จำนวน 1 ครั้งจนครบจำนวนที่ลอด เพิ่มเติมเสริมบารมีด้วยการใส่บาตรพระประจำวันเกิด
นางบุญมา ทองกมล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/4 หมู่ 1 ต.นานกกก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า
ป่วยเป็นโรคต่อมทอนซิลอักเสบมา 7-8 ปี พูดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และเป็นๆ หายๆ มาตลอด จนกระทั่งในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ไม่สามารถพูดออกเป็นเสียงได้เลย ต้องใช้ปากกากับกระดาษเขียนสื่อสารกับญาติพี่น้อง ทางญาติแนะนำว่าให้มาลอดอุโบสถที่วัดดงสระแก้ว เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยลอด 3 ครั้งและตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้พูดได้เหมือนคนปกติ และพอกลับไปบ้านไม่กี่วัน ตนก็ออกเสียงพูดได้เป็นปกติ
คนแห่มุดแก้เคล็ด โบสถ์ 100ป วัดเก่าแก่เมืองลับแล
นางทอง สิโนรักษ์ อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/2 หมู่ 2 ต.ป่างิ้ว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย กล่าวว่า
ทราบข่าวว่าใครที่ป่วยเป็นโรคหรือมีอาการปวดขา ปวดกระดูกและไขข้อหัวเข่า หรือดวงชะตาไม่ค่อยดี ทำการค้าไม่ค่อยขึ้น เมื่อได้มาลอดใต้ถุนอุโบสถที่วัดดงสระแก้ว พร้อมอธิษ ฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์ ก็จะหายจากอาการเจ็บป่วย โดยตนป่วยเป็นโรคเดินไม่ค่อยได้เพราะเกิดเข่าอ่อน เหมือนคล้ายจะเป็นโรคอัมพฤกษ์ อยากให้หายจากโรคนี้จึงได้ชักชวนลูกหลานมาร่วมลอดโบสถ์ในครั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง เมื่อได้ลอดแล้วก็รู้สึกดีขึ้นกว่าครั้งแรก และจะหาโอกาสมาลอดใต้ถุนโบสถ์อีกในวันอื่นเพื่อให้ครบ 9 รอบ
พระครูปภากรสิทธิคุณ เจ้าคณะตำบลไผ่ล้อม เจ้าอาวาสวัดดงสระแก้ว กล่าวว่า
เหตุผลที่ญาติโยมให้ความศรัทธาเลื่อมใสต่อการลอดฐานอุโบสถนั้น มีมาตั้งแต่ที่อาตมายังไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ แต่ความศรัทธาครั้งนั้นมีไม่มากเท่าในปีนี้ โยมคนแรกที่มาลอดอุโบสถเป็นคน จ.สมุทรปราการ ไม่ทราบชื่อว่าอะไร ประกอบธุรกิจกำลังจะล่มจม และสุขภาพไม่ดี ได้ฝันว่าได้เดินทางไปลอดอุโบสถไม้สัก แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน เมื่อตื่นจากฝันก็ได้เสาะแสวงหาไปเรื่อยจากภาคกลางและมาที่วัดดงสระแก้ว และได้ทำพิธีลอดใต้ฐานพระอุโบสถที่นี่ ได้อธิษฐานตามที่ตั้งใจเอาไว้ เมื่อเดินทางกลับถึงบ้านในเวลาต่อมาธุรกิจเริ่มดีขึ้น หนี้สินที่มีอยู่ก็หมดไป ส่วนโรคร้ายที่มีอยู่กับตัวก็บรรเทาเบาบางลงไป โยมคนดังกล่าวก็ได้เล่าบอกต่อให้กับผู้อื่นฟัง ต่อมามีคนเริ่มมาลอดอุโบสถกันเรื่อยจนมากขึ้นทุกวันอย่างที่เห็น
"ในเมื่อมีคนอยากมาลอดอุโบสถ ทางวัดไม่สามารถไปขัดใจอะไรได้ จึงได้นำเสื่อมาปูเป็นทางยาวให้ หัวเข่า ขาและมือจะได้ไม่ถลอก และอำนวยความสะดวกในเรื่องของดอกไม้ธูปเทียน รู้สึกดีใจที่คนหันมาเข้าวัดด้วยความศรัทธา มีหลายคนมาทำพิธีลอดแล้วหายตามที่ตั้งใจไว้ซึ่งทางวัดก็ได้แต่รับฟัง แต่ก็อยากให้โยมทำด้วยปัญญา ไม่อยากให้เกิดความงมงาย" พระครู ปภากรสิทธิคุณ กล่าว
เจ้าอาวาส กล่าวด้วยว่า
องค์หลวงพ่ออู่ทองที่เห็นอยู่ภายในอุโบสถเป็นองค์จำลอง ของจริงองค์เป็นทองคำมีน้ำหนักประมาณ 200 ก.ก. ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอู่ทอง จึงเรียกหลวงพ่ออู่ทอง ความสูง 43 นิ้ว หน้าตักกว้าง 34 นิ้ว ถูกขโมยไปจากวิหารเมื่อปี 2520 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้คืนมา แต่ทางวัดก็ได้มีการหล่อรูปจำลองขึ้นใหม่ขนาดเท่าองค์เดิมที่สูญหายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
ระหว่างชาวบ้านกำลังทำพิธีลอดอุโบสถไม้สักอยู่นั้น มีผู้หญิงวัยกลางคนมานั่งอยู่ที่บริเวณใบเสมาหน้าพระอุโบสถ พยายามจะทำพิธีเข้าทรงแต่ก็ถูกทางคณะกรรมการวัดห้ามปราม หญิงวัยกลางคนดังกล่าวจึงรีบหนีออกไปจากวัดทันที ในขณะเดียวกันก็มีญาติโยมชายหญิงหลายคนพยายามใช้มือลูบหาตัวเลขที่บริเวณด้านข้างอุโบสถ พระลูกวัดพบเห็นได้ร้องขอให้ยุติ พร้อมประกาศผ่านไมโครโฟนเป็นระยะห้ามลูบหรือขูดขอตัวเลขจากตัวอาคารไม้สักของอุโบสถอย่างเด็ดขาด