ลองสูบบุหรี่เพียงแค่มวนเดียว อาจเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2549 16:08 น.
เอเจนซี หลายคนอาจคิดว่าการลองสูบบุหรี่แค่เพียงมวนเดียว ไม่ก่อให้เกิดผลเสียใดๆต่อร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การสูบบุหรี่ แม้จะแค่เพียงมวนเดียวก็ตาม สามารถก่อให้เกิดอันตรายสะสมต่อตัวเราไปได้หลายปี
นักวิทยาศาสตร์พบว่า การสูบบุหรี่ แม้จะแค่เพียงมวนเดียวก็จะนำไปสู่ผลกระทบซ่อนเร้นในระยะยาว ซึ่งสามารถเพิ่มความอ่อนแอในมนุษย์เราได้ถึง 3 ปี หรืออาจทำให้กลายเป็นคนติดบุหรี่ไปเลยก็ได้
เรารู้ว่าพัฒนาการจากการสูบบุหรี่เพียงแค่มวนเดียวไปจนถึงการติดบุหรี่นั้นใช้เวลาหลายปีทีเดียว เจนนิเฟอร์ ฟิดเลอร์ จากยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ลอนดอน กล่าว
แต่ในครั้งแรกนั้น เราพบว่า มันอาจมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ระหว่างการลองสูบบุหรี่ครั้งแรก กับการสูบบุหรี่จนเป็นนิจ นั่นคือผลกระทบซ่อนเร้นหรือความอ่อนแอของผู้สูบซึ่งเป็นผลมาจากสารนิโคติน เธอกล่าวเสริม
ฟิดเลอร์และทีมงานของเธอ ทำการทดลอง วิเคราะห์ผลกระทบของการสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวจากเด็กกว่า 2,000 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 11 ถึง 16 ปี เป็นระยะเวลา 5 ปี
จากผลสำรวจพบว่า เด็กวัย 11 ปี จำนวน 260 คน ที่เคยสูบบุหรี่มาแล้ว เพียงมวนเดียวนั้น มี 18 เปอร์เซ็นต์กลายมาเป็นนักสูบบุหรี่ตัวยงเมื่อพวกเขามีอายุ 14 ปี แต่มีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ไม่เคยได้สูบบุหรี่อีกเลยใน 3 ปีถัดมา
ผลการทดลองยังระบุอีกว่า การทดลองช่วงแรกๆนั้นเป็นคำทำนายที่แม่นยำสำหรับการสูบบุหรี่จนเป็นเรื่องธรรมดาในเวลาต่อมา ฟิดเลอร์ กล่าวรายงานการค้นพบนี้กับหนังสือควบคุมยาสูบ เมื่อวันพฤหัสบดี(18)
เหล่านักวิทยาศาสตร์ ไม่มั่นใจเกี่ยวกับสาเหตุที่การสูบบุหรี่แค่เพียงมวนเดียว ส่งผลกระทบได้มากมายถึงขนาดนี้ แต่พวกเขากล่าวว่า การรับสารนิโคตินเข้าไปในร่างกายนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการตอบสนองในสมองได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เด็กๆ รู้สึกอ่อนแอ และหดหู่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะกลับไปพึ่งพาบุหรี่อีกครั้งหนึ่ง
บุหรี่มวนแรกที่พวกเขาสูบจะกำจัดความกลัวในเรื่องของการสำลักควันหรือวิธีการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เคยป้องกันไม่ให้พวกเขาสูบบุหรี่
ฌอน คิง จากมูลนิธิเพื่อการวิจัยมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การค้นพบนี้มีนัยที่สำคัญมากต่อการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่
การวิจัยใดก็ตาม ที่ช่วยคลายความยุ่งเหยิงให้กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องเยาวชนติดสารนิโคติน ก็นับได้ว่างานวิจัยนั้น จะเป็นกุญแจสำคัญต่อการพัฒนาหนทางที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันพวกเขาไม่ให้ริเริ่มสูบบุหรี่เป็นครั้งแรก หล่อนกล่าว