รับโอนหมอนวด-อะโกโก้-แท็กซี่ เข้าประกันสังคม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2549 19:27 น.
ก.แรงงานรับโอนแรงงานนอกระบบ 15.5 ล้านคน จากสธ.เข้าประกันสังคม ปี 2550 เผยเป็นกลุ่มหญิงบริการ หมอนวด หนุ่ม-สาวชาวอะโกโก้ รวมแท็กซี่ เตรียมเรียกเก็บ 1,200 บาทต่อปี คุ้มครองเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ขณะที่ สมศักดิ์ ยันไม่ได้ทำเพื่อหาเสียง แต่มีผลหลังเลือกตั้งส.ส.เสร็จ พินิจ ย้ำรัฐไม่ถังแตกแต่ที่โอนเป็นเพราะความต้องการของประชาชน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายพินิจ จารุสมบัติ รมว.กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และนพ.สงวน นิตยารัมพงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า ที่ได้ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานดำเนินการรับโอนแรงงานนอกระบบอายุ 15-60 ปี จำนวน 15.5 ล้านคน จากโครงการ30 บาทรักษาทุกโรค ของสธ. เข้าระบบประกันสังคมในปี 2550 โดยตั้งเป้าขยายความคุ้มครองแรงงานนอกระบบให้ได้ 1 ล้านคน ในกลุ่มแรงงานหญิงบริการ หมอนวด อะโกโก้ แท็กซี่ แพทย์ พยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลเอกชน เป็นต้น และขยายครอบคลุมให้ทั่วประเทศต่อไป โดยจะเรียกเก็บเงินสมทบจากผู้ประกันตนรายละ 1,200 บาทต่อคนต่อปี เฉลี่ยเดือนละ 100 บาท ทั้งนี้รัฐบาลต้องจ่ายสมทบในอัตราที่เท่ากัน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าโครงการนี้เป็นการออมเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่การหาเสียงหรือนโยบายประชานิยมก่อนการเลือกตั้ง เพราะประชานิยม มักไม่คำนึงผลเสียในอนาคต แต่เรื่องนี้คาดการณ์ผลบวกในอนาคตไว้แล้ว โดยให้มีผลคุ้มครอง 4 กรณีคือ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ และเสียชีวิตโดยรูปแบบหลักเกณฑ์การจัดเก็บเงินสมทบอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี แต่คาดว่าจะมีผลสามารถปฏิบัติ หลังการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว เพราะขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนฯและเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น
นอกจากนี้ได้สั่งการให้ สปส.ตั้งคณะทำงานร่วมกับ สปสช.ศึกษาการขยายความคุ้มครองประกันสังคมเพื่อขยายความคุ้มครองทั้ง 7 กรณี ที่ครอบคลุมเรื่องสงเคราะห์บุตร ชราภาพและประกันว่างงาน เช่นเดียวกับแรงงานในระบบด้วย
ด้านนายพินิจ กล่าวว่า การที่ สปสช.โอนผู้มีสิทธิในโครงการ 30 บาทจำนวน 15.5 ล้านคนเข้า ประกันสังคมไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลหรือกองทุน 30 บาทถังแตกแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลต้องจ่ายสมทบให้ผู้ประกันตนหัวละ 1,200 บาทต่อปี เรื่องนี้เป็นความต้องการประชาชนไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลผลักภาระให้ประกันสังคม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีคำสั่งมอบหมายอำนาจให้นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายสมศักดิ์ รมว.แรงงาน เป็นประธานบอร์ดประกันสังคมแทนนายสมชาย ซึ่งต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งอยู่แล้ว โดยนายสมชาย กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าเรื่องนี้เป็นการปฏิบัติตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2545 ที่กำหนดให้มีรองปลัดกระทรวงเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจ (คัสเตอร์)เพื่อทำหน้าที่บริหารงานภารกิจ จึงเป็นการทำตามกรอบของกฎหมายที่มีอยู่ โดยขณะนั้นนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ได้สงวนที่จะนั่งในฐานะประธานบอร์ดเอง ซึ่งคงเห็นว่าเป็นระบบใหม่ จึงดูแลบริหารเอง แต่เมื่อผ่านมาในระยะหนึ่งแล้วตนเห็นว่ารองปลัดกระทรวงแรงงานที่เป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจ มีความสามารถที่จะบริหารในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจ จึงได้มอบหมายสั่งการให้รองปลัดกระทรวงที่รับชอบกำกับดูแลให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ด้านนายสุรินทร์ กล่าวถึงการแต่งตั้งให้ เป็นประธานบอร์ดประกันสังคมว่าเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งตนจะทำหน้าที่บริหารสำนักงานประกันสังคมให้ดี
ทั้งนี้ตนเห็นว่าสำนักงานประกันสังคม เกิดขึ้นจากการผลักดันให้เกิดขึ้นและถือเป็นองค์กรของลูกจ้าง นายจ้าง ที่เป็นหลักในการส่งเงินสมทบ จึงเป็นกองทุนที่เกิดจากหยาดเหงื่อแรงกาย จึงต้องบริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าของเงิน ทั้งนี้ในระบบจากรายงานผลการดำเนินการต่างๆเพื่อเสนอต่อปลัดกระทรวงแรงงาน ที่อาจมีข้อเสนอแนะ เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดี