จากคดีอื้อฉาวเสื่อมเสียวงการสีกากี กรณีแก๊ง ตชด. นอกรีต นำโดย ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร กับพวก ร่วมกันอุ้มนางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี เจ้าของโรงงานตัดเย็บกางเกงยีนส์ พร้อมบุตรชาย 2 คน จากห้องพักคอนโดมิเนียมย่านบางพลัด ไปกักขังที่อาคารอารีย์เรสซิเด้นท์ ในซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 เขตพญาไท
เพื่อรีดค่าไถ่กว่า 8 ล้านบาท ต่อมาชุดสืบสวนกก.สส.น.7 นำกำลังบุกช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมจับกุม ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกรวมทั้งสิ้น 12 คน ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ดำเนินคดี แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-6 ก.พ. เป็นต้นมา พร้อมกับส่งตัวเข้าเรือนจำทันที ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนมีสิทธิ์ขออำนาจศาลฝากขังได้ทั้งสิ้น 7 ครั้ง รวมระยะเวลา 84 วัน
ปรากฏว่าล่าสุด
ครบกำหนดฝากขังตามคำสั่งศาลแล้วไม่สามารถนำคดีพิจารณาตามขั้นตอนได้ เนื่องจากต้องรอมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกก่อน ในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจ ทำให้ต้องปล่อยตัวแก๊ง ตชด.นอกรีตทั้งหมด ยังดีที่มีหมายอายัดตัวในคดีอื่น
ปล่อยตัวรตอ.ณัฏฐ์กับลูกน้อง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 เม.ย. ว่า
เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ ปล่อยตัว ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผู้ต้องหาในคดีอุ้มรีดเรียกค่าไถ่นางเพียงจิต พึ่งอ้น เจ้าของโรงงานตัดเย็บกางเกงยีนส์ ออกจากเรือนจำ หลังครบกำหนดการฝากขัง 7 ผลัด เป็นเวลา 84 วัน แต่ไม่สามารถส่งสำนวนสั่งฟ้องต่อศาลได้ อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.ณัฏฐ์ยังไม่พ้นอิสรภาพ เนื่องจาก พ.ต.ท.บรรลือศักดิ์ แสงสว่าง สว.สส.สน. ปทุมวัน และ พ.ต.ท.ธนดล พิพัฒน์สวัสดิ์ สว.สส.สน. จักรวรรดิ นำหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ สน.ปทุมวัน ไปรออายัดตัวเพื่อนำไปสอบสวนดำเนินคดีต่อทันที โดยควบคุมตัวขึ้นรถยนต์ ฮอนด้าแจซ สีแดง ทะเบียน ษย 7607 กรุงเทพมหานคร ไปลงบันทึกควบคุมตัวไว้ที่ สน.บางรัก
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า
วันนี้ครบกำหนดฝากขัง 7 ผลัด หรือ 84 วัน ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ฝากขังไว้ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ในระหว่างการสอบสวนเมื่อคดียังไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล และไม่มีหมายศาลแจ้งมาให้ควบคุมตัวต่อ ทางเรือนจำจะต้องปล่อยตัว ผู้ต้องหาออกไป เนื่องจากหมดอำนาจการควบคุมตัว อย่างไร ก็ตาม กรณีนี้ทางเรือนจำกลางคลองเปรม ได้รับการประสานจาก สน.ปทุมวัน ซึ่งทำเรื่องขออายัดตัว ร.ต.อ.ณัฏฐ์ไปดำเนินคดีในข้อหาอื่นต่อ ดังนั้นเมื่อครบกำหนดฝากขังทางนี้แล้ว เรือนจำได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ปทุมวัน มารับตัวไปดำเนินคดีต่อทันที
ทางด้าน พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน. ปทุมวัน เปิดเผยถึงคดีของ สน.ปทุมวัน ว่า
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 51 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูก ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากรับแจ้งความแล้วพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนและส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา เมื่อ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า ร.ต.อ.ณัฏฐ์ กับพวกมีความผิดจริง จึงส่งสำนวนให้ สน.ปทุมวัน ดำเนินการออกหมายจับกุม โดย ป.ป.ช.ส่งสำนวนคืนมาเมื่อ วันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติ หมายจับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวก ส่วนที่ต้องส่งตัวไปฝากขัง สน.บางรัก เนื่องจาก สน.ปทุมวัน ห้องขังคับแคบ มีผู้ ต้องหาจำนวนมาก
พ.ต.อ.วัลลภ ปทุมเมือง รอง ผบก.น.6 กล่าวว่า
คดีนี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวัน 3 ราย คือ น.ส.ดวงกมล อูนสิริ นายทวีเกียรติ วงศ์วิทย์พงศ์ และ น.ส.จุรีพร บุญยะเมธานันท์ แต่ละคนมาแจ้งความว่าถูก ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกรวม 8 คน กักขังหน่วงเหนี่ยวยัดยาบ้า ซึ่ง สน.ปทุมวัน ได้นำหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.446/2551 ลงวันที่ 18 เม.ย. 51 ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจและกักขังหน่วงเหนี่ยวไปรอจับกุมตัว ร.ต.อ.ณัฏฐ์มาดำเนินคดี หลังจากที่ทราบว่า ร.ต.อ.ณัฏฐ์หมดอำนาจการควบคุมตัวในคดี สน.บางพลัดในวันนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวน สน. ปทุมวัน มีอำนาจการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง จากนั้นต้องส่งตัวเข้าเรือนจำต่อไป ซึ่งนอกจาก ร.ต.อ.ณัฏฐ์ที่ได้รับ การปล่อยตัวออกมาแล้ว ผู้ต้องหาในคดีเดียวกันนี้ที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษธนบุรีอีก 7 คน ประกอบด้วย จ.ส.ต.เชาวลิต สุมน ส.ต.ต.อาคม สุดใจ ส.ต.ท.เนรมิต จัตุมิตร ส.ต.ท.มานพ สุขคงมิตร ส.ต.ท.อัครเดช คชกฤษ ส.ต.ต.ชาตรี พันการุ่ง และ ส.ต.ต.รุ่งโรจน์ เกร็จจุ ก็ได้รับการปล่อยตัว และถูกอายัดมาดำเนินคดีเช่นกัน โดยแยกฝากขังไว้ใน สน.ต่างๆใน บก.น.6
ด้าน พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในคดีแก๊ง ตชด. นอกรีต เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า
พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำสำนวนอ่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าขั้นตอนการดำเนินการต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือคดีอาญาที่ ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกก่อไว้ ซึ่งมีการตั้งข้อหาไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนคดีความผิดที่เป็นข้าราชการตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดทางวินัย พนักงานสอบสวนต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา ทราบว่าทาง ป.ป.ช.จะสรุปสำนวนในเรื่องดังกล่าวนี้ในวันที่ 24 เม.ย. หลังจากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการในความผิดที่ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ก่อขึ้นในแต่ละ สน. ซึ่งมีอยู่อีกหลายคดี คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะว่าขณะนี้ทาง สน.ปทุมวันได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีเพิ่มเติมแล้ว ส่วนคดีดังกล่าวทางอัยการก็เตรียมส่งฟ้องศาลอยู่แล้ว เพียงแต่ติดขัดเรื่องการพิจารณาความผิดทางวินัยของ ป.ป.ช.เท่านั้น