ประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการกีฬาไทยที่ต้องจารึกไว้ คือ การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ 2008 ในประเทศไทย ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ซึ่งมีขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 19 เม.ย. หลังจากที่ไฟกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ถึงประเทศไทย เมื่อเวลา 02.25 น. วันที่ 18 เม.ย. โดยไทยเป็นประเทศที่ 12 บนเส้นทางการวิ่งคบเพลิงรอบโลก ซึ่งมีระยะทางยาวเกือบ 140,000 กม.
ทั้งนี้ ที่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา วงเวียนโอเดียน ในเวลา 15.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิก ในประเทศไทย ได้เป็นประธานงาน พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ผู้แทนจากคณะกรรมการจัดวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิกของจีน นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายเจียง เสี่ยว อู๋ รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวสุดๆ
ก่อนการวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง มีท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตั้งเค้าทำท่าว่าจะตก ทว่าเมื่อถึงช่วงเวลางานจะเริ่ม ปรากฏว่า
สภาพอากาศกลับร้อนอบอ้าวตามเดิม พล.ต. จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ที่มาร่วมในงานด้วย กล่าวว่า เรื่องฝนจะตกไม่ต้องห่วง ก่อนหน้างานจะเริ่ม 2 วัน ได้บนขอให้งานทุกอย่างผ่านพ้นลุล่วงไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ ยังได้ทราบจากกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีน สมาคมพ่อค้าไทยจีน ว่า จะร่วมบริจาคเงินไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
การวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ 2008
เริ่มขึ้นหลังจากที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับในนามรัฐบาลไทย และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต้อนรับในนามกรุงเทพมหานคร จากนั้น การจุดคบเพลิงโอลิมปิกก็เริ่มขึ้น โดยนายเจียง เสี่ยว อู๋ รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ได้จุดไฟแล้วส่งต่อให้นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ก่อนส่งต่อให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รับมอบคบเพลิง นำไปส่งต่อให้แก่นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเริ่มออกวิ่งเป็นคนแรก
จากนั้น ขบวนวิ่งไฟโอลิมปิกได้ออกวิ่งไปตามเส้นทางที่กำหนด คือ
เส้นทางวัฒนธรรม จากวงเวียนโอเดียน ผ่านโรงแรมเอ็มไพร์ โรงแรมไชน่าทาวน์ สี่แยกสี่กั๊กพระยาศรี สะพานมอญ กรมการรักษาดินแดน ป้อมมุมพระราชวัง ประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ป้อมสังขรขันฑ์ ประตูสวัสดิ์โสภา ของพระบรมมหาราชวัง แยกวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สนามหลวง เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง ถนนอู่ทองใน ไปจนถึงลานพระราชวังดุสิตหรือลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม ตามลำดับ ซึ่งมี “น้องไก่” ปวีณา ทองสุก เจ้าของเหรียญทองยกน้ำหนักโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ รับหน้าที่วิ่งเป็นคนสุดท้าย รวมระยะทางทั้งหมด 10.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.45 ชม. ตลอดเส้นทางมีกลุ่มชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีน รอชมและส่งเสียงเชียร์อยู่ตลอดเส้นทางนับแสนคน รวมทั้งร่วมวิ่งในขบวนด้วยอย่างคึกคักและยิ่งใหญ่ พร้อมส่งเสียงเป็นภาษาจีน ใจความ “ประเทศจีน สู้สู้” ตลอดเส้นทาง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
สำหรับผู้ร่วมวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ 2008 ในประเทศไทย มีบุคคลจากหลากหลายอาชีพที่ล้วนมีชื่อเสียง อาทิ
เช่น แจ๊ค-คริสโตเฟอร์ เบญจกุล ดาราน้ำใจงามที่ช่วยเหลือผู้อื่นจนตัวเองประสบอุบัติเหตุหวิดพิการ นายบัณฑูร ล่ำซำ บิ๊กแบงก์ธนาคารกสิกรไทย นายไกรสร จันศิริ นายมนัส บุญจำนงค์ นายพรวุฒิ สารสิน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล พล.ร.อ.เกาะหลัก เจริญรุกข์ สมรักษ์ คำสิงห์ ร้อยตรีหญิงอุดมพร พลศักดิ์ วิจารณ์ พลฤทธิ์ นายเจตริน วรรธนะสิน เป็นต้น
ขณะที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าได้มีการจัดเวทีขนาดใหญ่ มีประชาชนกว่า 5,000 คน มายืนรอการเดินทางมาถึงของไฟคบเพลิงโอลิมปิกอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากไฟคบเพลิงโอลิมปิกเดินทางมาถึง ในเวลา 18.05 น. ได้มีพิธีปิดอย่างเป็นทางการ โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ดร.ณัฐ อินทรปาณ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี ประจำประเทศไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายเจียง เสี่ยว อู๋ รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ร่วมงาน “น้องไก่” ปวีณา ทองสุก ผู้วิ่งคนสุดท้าย ได้จุดไฟลงยังกระถางคบเพลิงบนเวที จากนั้นผู้แทนของจีนได้มอบคบเพลิงโอลิมปิกให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และมอบเกียรติบัตรให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน จากนั้นเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากประเทศไทยและจีน ก่อนที่จะมีการดับไฟที่กระถางคบเพลิง ทั้งนี้ ไฟคบเพลิงโอลิมปิกจะได้เดินทางต่อยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียต่อไป โดยออกเดินทางไปในช่วงดึกของวันที่ 19 เม.ย. เวลา 23.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
ขณะที่การวิ่งคบเพลิงผ่านมาถึงบริเวณหน้าประตู 2 พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ มาทอดพระเนตร พร้อมใช้กล้องส่วนพระองค์ถ่ายรูปพิธีวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิก ซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงของการส่งคบเพลิงไม้ที่ 66 ที่วิ่งโดยนายสมโภช วรพัวพิมล ไปยังนายอิสระ ว่องกุศลกิจ สร้างความปลาบปลื้มให้กับคณะผู้วิ่งและประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการวิ่งคบเพลิงครั้งนี้ ได้มีมือดีฉกเอาคบเพลิงที่แจ๊ค-คริสโตเฟอร์ เบญจกุล ดารานักแสดง ซึ่งเป็นผู้วิ่งในไม้ที่ 2 ไป หลังจากที่ได้จุดไฟคบเพลิงต่อให้ ร.ต.ต.วิชัย สุริยนต์ ผู้วิ่งคนที่ 3 ไปแล้ว โดยแจ๊ค-คริสโตเฟอร์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจที่ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่วิ่ง ก่อนมาวิ่งก็พยายามหัดวิ่ง เพราะที่ผ่านมาตนต้องใช้เครื่องพยุงมาตลอด แต่หลังจากวิ่งเสร็จ ช่วงเวลานั้นค่อนข้างชุลมุนมาก มีประชาชนจำนวนมากเข้ามายื้อยุดฉุกกระชาก และแย่งคบเพลิงของตนไป ทำให้ตนเสียดาย และเสียใจมาก ไม่น่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเลย อยากให้ผู้เอาไปนำมาคืนด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการฉกคบเพลิงโอลิมปิกของแจ๊ค-คริสโตเฟอร์ เบญจกุล ว่า
หลังทราบเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับคริสโตเฟอร์ สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นายคริสโตเฟอร์ ได้ขอให้ตนช่วย กรณีนี้ถือว่าเป็นการลักทรัพย์ แม้ว่าไม่กระทบโอลิมปิกที่จีน แต่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ความผิดที่เกิดขึ้นไม่สามารถยอมความได้ ถ้าใครรับคบเพลิงไป ถือว่าเป็นการรับของโจรด้วย เรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายทินกร นำบุญจิตต์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำไฟคบเพลิงสำรองมามอบให้กับคริสโตเฟอร์แทนไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
การจ้องแย่งชิงไฟคบเพลิงจากผู้วิ่งมีเกิดขึ้นแทบทุกจุด โดยหลังจากที่ ผู้วิ่งทำหน้าที่เสร็จแล้ว จะมีผู้คนเข้ามาห้อมล้อมเป็นจำนวนมาก เพื่อขอถือสัมผัสบ้าง ขอถือคบเพลิงบ้าง บางคนก็อาศัยจังหวะชุลมุนแย่งคบเพลิงไป แต่ดีที่ผู้วิ่งยึดไว้ได้ นอกจากนี้ ในบางช่วงของการรับส่งไฟคบเพลิง ไฟคบเพลิงบางส่วนก็มีปัญหาไฟดับลงไป ทำให้เจ้าหน้าที่ของจีนต้องลงมาแก้ปัญหาเป็นระยะ
ทางด้านกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านจีน ที่ประกาศตัวที่จะเข้ามาทำการประท้วงก่อนหน้านี้ ได้เกิดขึ้น
หลังจากนายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ออกวิ่งจากวงเวียนโอเดียนได้เพียงไม่กี่อึดใจ มีหญิงชาวไทยอายุประมาณ 35 ปี กับชายชาวต่างประเทศ ชูป้ายภาษาอังกฤษ เขียนว่า “วันดรีม วันทิเบต” อยู่ริมถนนแล้วถูกคนจีนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปกระชากป้ายผ้าดังกล่าว จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกัน โดยผู้ประท้วงทั้งคู่ยังร้องตะโกนต่อต้านจีนอย่างต่อเนื่อง จนหวิดประหมัดกันขึ้น ซึ่งผู้ประท้วงระบุว่า เป็นการตั้งใจมาประท้วงด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้อยู่กลุ่มใด และต้องการประท้วงอย่างสันติ เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของจีนที่มีต่อทิเบต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเคลียร์สถานการณ์และนำตัวคนทั้ง 2 ออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ที่หน้าสำนักงานสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายทิเบตเสรีและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งชาวไทยและต่างชาติประมาณ 200 คน รวมทั้งนายใจ อึ๊งภากรณ์ นางอังคณา นีละไพจิตร และ ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ ประธานมูลนิธิโลกสีเขียว ที่ถอนตัวไม่ร่วมวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกมาร่วมชุมนุมด้วย โดยกลุ่มสนับสนุนทิเบตได้ยืนชูป้ายต่อต้านจีน บางคนใช้สีเขียนข้อความบนร่างกาย และชูรูปผู้เสียชีวิตในทิเบต ที่คอห้อยป้ายกระดาษมีชื่อของผู้ถูกรัฐบาลจีนจับกุมไว้ และร้องตะโกนว่า “ฟรี ทิเบต” ขณะเดียวกันมีกลุ่มนักศึกษาจีนประมาณ 300 คน เดินถือธงชาติจีนและป้ายสนับสนุนกีฬาโอลิมปิกมายืนอยู่ใกล้กัน และตะโกนว่า “วันไชน่า วันดรีม วันเวิลด์” บางคนยั่วยุผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนทิเบตด้วยการชูนิ้วกลางให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันให้ทั้ง 2 กลุ่มแยกไปอยู่คนละฝั่งถนน เพราะหวั่นว่าจะเกิดการกระทบกระทั่ง เมื่อขบวนคบเพลิงวิ่งมาถึงทั้ง 2 กลุ่มต่างร้องตะโกนใส่กันด้วยเสียงดังลั่น ผู้สนับสนุนทิเบตบางคนได้ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ฟูมฟายขอให้จีนปลดปล่อยผู้ถูกจับกุม
ขณะเดียวกันเครือข่ายทิเบตเสรี องค์กรนักศึกษา องค์กรณ์พัฒนาเอกชน และองค์กรสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีคบเพลิงโอลิมปิกวิ่งผ่านกรุงเทพฯ ว่า
ขอประณามรัฐบาลจีนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในทิเบต เครือข่ายไม่ได้มีจุดยืนในการบอยคอตการจัดกีฬาโอลิมปิก และขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนและคณะกรรมการโอลิมปิกยกเลิกการวิ่งคบเพลิงในกรุงลาซา เนื่องจากกังวลว่าจะมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง รัฐบาลจีนต้องไม่ทำให้การแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เปื้อนเลือด และขอสนับสนุนให้มีการส่งคณะตรวจสอบสิทธิมนุษยชนเข้าไปในทิเบต โดยรัฐบาลจีนต้องเปิดให้มีการเจรจาอีกครั้งกับรัฐบาลพลัดถิ่นของทิเบตนำโดยองค์ดาไล ลามะ