พายุ-ลูกเห็บถล่ม อีสานบ้านพังราบ

เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 14 เม.ย. นายณรงค์ชัย ทิพกนก นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกตรวจพื้นที่หลังมีพายุฤดูร้อนอย่างรุนแรงในเขตบ้านเสียว ต.หัววัว พบเสาไฟฟ้าหักหลายต้น มีผู้บาดเจ็บ 20 คน บ้านเรือนเสียหาย 422 หลัง ในจำนวนนี้มีปั๊มน้ำมันชื่อสหรุ่งเรือง เลขที่ 207 หมู่ 6 ต.หัววัว ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันประจำหมู่บ้าน พายุพัดหลังคาเสียหาย อาคารโรงเก็บรถพังทับรถปิกอัพหมายเลขทะเบียน บธ 1492 กาฬสินธุ์

นายณรงค์ ภูบัวทอง อายุ 50 ปี เจ้าของปั๊มเล่าว่า

เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 13 เม.ย. เกิดพายุฝน นอกจากนี้ยังมีลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้นตกลงมาด้วย นับเป็นครั้งแรกของหมู่บ้านที่โดนภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอพายุขนาดนี้ และไม่เคยเห็นลูกเห็บตกมาก่อน เสียหายหนักทั้งหมู่บ้าน สำหรับความเสียหายของตนทั้งปั๊มน้ำมันและรถปิกอัพคิดเป็นเงินประมาณ 4 แสนบาท

ขณะเดียวกัน มีผู้เสียชีวิต 1 คน โดยนางมุทิตา ภูกะฐิน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 1 ต.หัววัว เปิดเผยว่า

มีอาชีพทำนาและทำงานโรงงานเย็บผ้านวม ตอนหัวค่ำมีพายุฝนตกหนัก นายชัยยง ภูกะฐิน อายุ 36 ปี สามีไปที่คอกวัวที่อยู่ข้างบ้านคอยดูแลวัวที่เพิ่งตกลูกออกมา ระหว่างนั้นเห็นสังกะสีแผ่นใหญ่ปลิวมา สักพักมีชาวบ้านหลายคนวิ่งมาข้างบ้านไปทางคอกวัวตนจึงออกไปดู เห็นทุกคนช่วยกันหามนายชัยยงขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เนื่องจากถูกสังกะสีกระแทกใส่อย่างแรงจนหน้าท้องฉีกเป็นแผลเหวอะหวะขวางลำตัว เห็นอวัยวะภายในและไส้ทะลักออกมาและเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล

นายณรงค์ชัย ทิพกนก นายอำเภอยางตลาด กล่าวว่า

เป็นความเสียหายและสูญเสียอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่ ได้ตั้งศูนย์ฉุกเฉินที่โรงเรียนบ้านเสียว บริการด้านการแพทย์ บำบัดสภาพจิตใจของราษฎร และแจกสิ่งของที่จำเป็น ขณะเดียวกัน อบจ.กาฬสินธุ์ตั้งโรงทานช่วยด้านอาหารน้ำดื่มและพัฒนาสังคมจังหวัดนำถุงยังชีพมาช่วยเหลือ นอกจากนี้จะให้อาสาสมัครนำวัสดุก่อสร้างมาช่วยซ่อมแซมบ้านที่เสียหาย ส่วนครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิตจะมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง สำหรับความเสียหายยังมีอาคารเรียน ศูนย์เด็กเล็ก และโรงงานผลิตผ้าห่มและหมอนรายใหญ่สำหรับส่งออกต่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านด้วย
 

ที่ จ.เลย นายสุเทพ มณีโชติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย เผยว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตกในเขต ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย และพายุเกิดขึ้นอีกครั้งช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 14 เม.ย. บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 7 หลัง พืชผลการเกษตรเสียหายจำนวนมาก

นอกจากนี้ ที่ อ.สีดา และ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พายุฤดูร้อนทำให้บ้านเรือนพัง ต้นไม้โค่นขวางถนนสายสีดาประทาย เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต้องใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นไม้ก่อนลากออกไป ส่วนที่ อ.บัวใหญ่ มีประกวดเทพีสงกรานต์ที่ลานอเนกประสงค์หน้าสระใหญ่ในเขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ พายุฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนนางงามและกรรมการ นักร้องนักดนตรีต่างเปียกโชก มุดลงไปหลบใต้เวทีและต้องให้คะแนนตัดสินนางงามกันใต้เวทีประกวด

ส่วน จ.สกลนคร เทศบาลเมืองสกลนครต้องเลื่อนงานฉลองวันสงกรานต์ประกอบด้วยงานถนนอาหาร งานประกวดเทพีสงกรานต์ งานประกวดเทพีผู้สูงอายุ จากวันที่ 13 เม.ย. ออกไปจัดในคืนวันที่ 14 เม.ย. เนื่องจากเกิดพายุถล่ม ขณะเดียวกัน ที่ อ.พรรณนานิคม บ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหาย 62 หลัง บางหลังเสาปูนหักจนล้มครืนลงมาทั้งหลัง ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ นอกจากนี้ต้นไม้นับสิบต้นโค่นทับสายไฟฟ้าขาดทำให้ไฟฟ้าดับทั้งคืน

ภาคเหนือที่ จ.เชียงราย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า

เมื่อตอนหัวค่ำวันที่ 13 เม.ย. เกิดพายุฝนและลูกเห็บในเขตเทศบาลนครเชียงราย ต้นไม้ขนาดเล็กล้มขวางถนน ป้ายโฆษณาริมถนนพหลโยธิน และเต็นท์บริการนักท่องเที่ยวของ สภ.เมืองเชียงราย บริเวณสี่แยกแม่กรณ์ปลิวกระเด็นไปตามแรงลม ตู้โทรศัพท์สาธารณะข้างตู้ยามแม่กกโดนต้นไม้ล้มทับพังทั้งหลัง

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า
 
ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้ ประเทศเวียดนามตอนบน ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในขณะที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง ประชาชนต้องระวังอันตราย