บรรยากาศแห่งความรื่นเริงบันเทิงใจในเทศกาลสงกรานต์ของคนไทย แผ่กระจายไปทั่วประเทศ โดยผู้คนทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ในทุกจังหวัด ต่างออกมาสาดน้ำเล่นสงกรานต์กันอย่างครึกครื้นสนุกสนาน ลืมความเครียดจากปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจตกสะเก็ด หรือปัญหาน้ำมันราคาสูงบ้าเลือดไปชั่วขณะโดยบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ในวันที่ 12 เม.ย.
ซึ่งถือเป็นวันสุกดิบของเทศกาลสงกรานต์นั้น ที่จังหวัดหนองคาย
มีนักท่องเที่ยวแห่ข้ามโขงเข้าไปเที่ยวในประเทศลาว ช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์นี้ ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน ทำให้เงินสะพัดในลาวกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้นายสายพิณ นาคเสน ประธานชมรมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระบบทวิภาคีหนองคายกล่าวว่า ช่วงวันหยุด 12-16 เม.ย. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวประเทศลาวจำนวนกว่า 2 แสนคน โดยกลุ่มทัวร์ในจังหวัดหนองคาย ยังคิดค่าบริการลูกทัวร์ตามปกติ แต่ฝั่งลาวมีการปรับราคาค่ารถตู้แท็กซี่ จากเดิมคันละ 1,000 บาทเป็น 1,500 บาท เครื่องดื่ม อาทิ สุราและเบียร์ก็ปรับขึ้นเกือบเท่าตัว เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าถือว่า 1 ปีมีครั้งเดียวที่จะขายดี คิดเป็นเงินสะพัดในลาวถึง 200 ล้านบาท
ในส่วนของจังหวัดหนองคาย ในเช้าวันที่ 13 เม.ย.
จะมีพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของชาวหนองคายและชาวลาว จากวัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย แห่ไปรอบเมืองให้ประชาชนสรงน้ำ ส่วนในวันที่ 14 เม.ย. จะมีการแห่ขบวนรถบุปผชาติไปตามถนนประจักษ์ถึงวัดโพธิ์ชัย นอกจากนี้ตามหาดทรายหลายแห่งที่เกิดขึ้นริมฝั่งโขง อาทิ หาดจอมมณี อ.เมืองหนองคาย หาดหัวทราย อ.ศรีเชียงใหม่ ฯลฯ ก็มีผู้คนแห่ไปเล่นน้ำสงกรานต์กันคับคั่ง
ที่จังหวัดนครพนม ในหลายหมู่บ้านทั้งในตัวจังหวัดและตามอำเภอต่างๆ
มีผู้คนเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันคึกคัก บางจุดที่ใกล้แม่น้ำโขง ก็พากันลงไปเล่นน้ำโขงตามสันดอนทรายที่เกิดจากน้ำโขงลดลง เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้แห้งแล้ง โดยปีนี้ทางจังหวัดจัดงานสงกรานต์บุญปีใหม่ไทย-ลาว ที่ถนนข้าวปุ้น และสงกรานต์ของชาวผู้ไทย ที่ อ.เรณูนคร ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมากและยังพากันไปกราบไหว้พระธาตุพนม ที่ อ.ธาตุพนม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันขึ้นปีใหม่ด้วย