หนุ่มสาวนิยมสักยันต์แห่ร่วมพิธีไหว้ครู

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ตำหนักพ่อแก่ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

นายทองใบ มูลสาร อายุ 47 ปี เจ้าของตำหนัก จัดพิธีไหว้ครูฤาษี ครูสักยันต์ ครูอักษร ครูรักษา และครูพักลักจำ เพื่อเสริมบารมี ตลอดจนรำลึกถึงครูบาอาจารย์ที่ได้ประสิทธิ์เลขยันต์ ตัวอักษร รูปลักษณ์ต่าง ๆ ที่สักด้วยหมึกสีดำบนร่างกาย โดยมีบรรดาลูกศิษย์ทั้งชาย-หญิง แห่เข้าร่วมพิธีกันคับคั่ง นายทองใบเปิดเผยว่า วัยรุ่นที่แห่กันมาให้สักยันต์นั้น ตนไม่ได้บังคับ ก่อนสักให้จะถามก่อนว่าพ่อแม่อนุญาตหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะไม่สักให้ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนจะไม่สักให้เด็ดขาด ความจริงการสักยันต์ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ใช่การเพ้นท์สีบนผิวหนัง แต่เป็นศาสตร์ มีมาแต่ยุคโบราณ ไม่ใช่แค่คนอายุมากเท่านั้นที่นิยม คนรุ่นใหม่จำนวนมากก็สนใจ สังคมต่างหากที่กีดกัน ตราหน้าว่าสังคมรังเกียจ เป็นพวกกุ๊ยข้างถนน เป็นนักเลง หัวขโมย ไม่มีชาติตระกูล พวกวัยรุ่นต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปสักยันต์กัน
 
“การสักยันต์ต้องใช้เหล็กแหลมสักให้หมึกเข้าไปในผิวหนัง ทั้งเจ็บ ปวด บางคนเป็นไข้เพราะเกิดจากผิวหนังระบม ฉะนั้นคนที่ตัดสินใจมาสักยันต์ ต้องมีใจรักหรือศรัทธาในศาสตร์นี้จริง ๆ ต้องมีความเชื่อมั่นว่า ศาสตร์การสักยันต์โบราณ เป็นศาสตร์ที่สามารถบรรจุเลขยันต์ ตัวยันต์ฝังในร่างกาย อีกทั้งสามารถบรรจุเวทมนต์คาถาไว้ในร่างกายได้ ผู้สักยันต์ไม่ต้องท่องคาถากำกับเมื่อต้องการให้เกิดความขลัง หรือคุ้มกันภัยที่จะเกิดขึ้น เพียงแต่ใช้วิถีการดำรงชีวิตที่อยู่ในศีล 5 และในธรรม ต้องสาบานว่าจะไม่ประพฤติชั่วทั้งปวง เพียงเท่านี้มนต์คาถา เลขยันต์ที่บรรจุอยู่ในร่างกายก็สามารถคุ้มครองตัวให้แคล้วคลาดปลอดภัยได้ แต่หากไปทำชั่วก็จะต้องคำสาปแช่งด้วยการถูกคมหอก คมดาบ คมกระสุน ส่วนการไหว้ครูวันนี้ ถือว่าเป็นวันที่ศิษย์ทุกคนควรรำลึกถึงอาจารย์ และเป็นการเสริมบารมีให้ด้วย” เจ้าของตำหนักพ่อแก่อธิบายศาสตร์การสักยันต์ให้ฟังอย่างลึกซึ้ง.