อย.เร่งตรวจ กาแฟเสียตัว

หลังจากที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี

ออกมาเตือนภัยสาวควรระวังตัว หลังมีเหยื่อกาม 2 รายเข้าร้องเรียนถูกหนุ่มที่มาตีสนิท ชงกาแฟซองและน้ำส้มผงให้ดื่ม แต่เครื่องดื่มดังกล่าวกลับเป็นเครื่องดื่มที่กระตุ้นอารมณ์เพศจนตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนได้ง่ายนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เม.ย. น.ส.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผอ.กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อย.ได้ประสานกับมูลนิธิปวีณาฯเพื่อขอตัวอย่างเครื่องดื่มชนิดผงดังกล่าว มาตรวจวิเคราะห์ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง และมีการเติมสารที่ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ หากตรวจพบว่ามีการเติมสารหรือยาแผนปัจจุบันลงไปในกาแฟจะถือว่ามีความผิด จัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุก 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ อย.จะจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ที่ อย.
 

“เบื้องต้นสงสัยว่าเครื่องดื่มชนิดดังกล่าวอาจจะเป็นกาแฟลักษณะเดียวกันกับที่ อย.เคยบุกตรวจจับมาแล้วเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง อย.ได้สั่งเก็บสินค้าออกจากตลาดทั้งหมดแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทผู้นำเข้า แต่เนื่องจากมีความผิดหลายกระทง อย.จึงเตรียมเสนอคณะกรรมการอาหาร เพื่อขอมติเพิกถอนทะเบียนตำรับ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 24 เม.ย.นี้” น.ส.ทิพย์วรรณกล่าว
 

ผอ.กองควบคุมอาหารกล่าวอีกว่า กาแฟดังกล่าวมีความผิดคือ

1. แสดงชื่ออาหารไม่ตรงตามที่ยื่นขออนุญาตนำเข้าจาก อย. 2. โฆษณาอวดอ้างว่าสามารถช่วยเพิ่มพลังเพศ จัดเป็นการแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และ 3. เป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีการผสมสารซิลเดนาฟิล (Sildenafil) เป็นยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ตามกฎหมายกำหนดไม่ให้เติมสารหรือยาแผนปัจจุบันลงในอาหารทุกชนิด มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ สารหรือยาแผนปัจจุบันที่มักเติมลงในอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่มักนำมาใช้กับเหยื่อผู้หญิงเพื่อล่อลวงไปข่มขืน มักจะเป็นยากล่อมประสาท ยานอนหลับ ซึ่งไม่มีสรรพคุณกระตุ้นความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด แต่อาจทำให้ผู้ดื่มรู้สึกเคลิ้มได้ และยิ่งมีบรรยากาศสลัวเป็นใจ ก็ทำให้ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายโดยไม่รู้สึกตัว

ส่วนสารที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศมีเพียงชนิดเดียว คือสารซิลเดนาฟิล
 
แต่ส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่กระตุ้นหรือเพิ่มความรู้สึกทางเพศ ที่สำคัญผู้จะรับประทานสารดังกล่าวได้ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งเท่านั้น เพราะยามีอันตรายและมีผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ปวดท้อง ปวดข้อกระดูก กล้ามเนื้อ ท้องเสีย กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ คัดจมูก เป็นต้น และหากมีการปนเปื้อนสารไม่บริสุทธิ์ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
 

ด้าน ศ.นพ.วชิร คชการ เลขาธิการสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะในพระบรมราชินูปถัมภ์
 
ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเครื่องดื่มปลุกเซ็กซ์ด้วยว่า ยาปลุกเซ็กซ์ตามวงการแพทย์ยังไม่มี มีเพียงยาที่ขยายหลอดเลือด เช่น ยาซิดินาฟิล ที่ผู้ชายบางคนนิยมกิน แต่ไม่ใช่กินแล้วจะกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เป็นเพียงแค่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น ดังนั้น หากกาแฟที่วางขายมีการผสมยาไวอากร้า หากผู้หญิงดื่มเข้าไปจะไม่มีทางเสียตัวโดยเด็ดขาด หากไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย แต่หากกาแฟหรือน้ำส้มมีการผสมยากล่อมประสาท ซึ่งจะทำให้ผู้ดื่มมีอาการสะลึมสะลือ ไม่รู้สึกตัว เสี่ยงต่อการทำให้ผู้หญิงถูกพาไปมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ยาตัวนี้จะไม่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศอย่างแน่นอน ดังนั้น ที่บอกว่ากาแฟหรือน้ำส้มสามารถปลุกเซ็กซ์ได้นั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะยาปลุกเซ็กซ์ไม่มี แต่หากผสมยากล่อมประสาทก็อาจเป็นไปได้
 

ต่อมาในวันเดียวกัน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า

หลังจากแถลงข่าวเตือนภัยหญิงสาวให้ระวังถูกผู้ชายหลอกให้ดื่มกาแฟ หรือน้ำส้มที่กระตุ้นอารมณ์เพศไปแล้วนั้น ก็ได้ประสานงานไปยังนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข เพื่อนำตัวอย่างน้ำส้มและกาแฟผงที่ใช้กับผู้หญิงไปตรวจสอบในวันที่ 8 เม.ย.เวลาบ่าย 2 โมง ว่ามีสารหรือตัวยาอะไรผสมอยู่บ้าง ถ้ามีสารเคมีหรือตัวกระตุ้นอารมณ์เพศผสมอยู่ จะมีผลต่อร่างกายอย่างไร นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบว่ามีจำหน่ายที่ไหนและหาทางป้องกันอย่างไรได้บ้าง