เผยทอมแห่ตัดเต้า! อยากเหมือนชายแท้

ตะลึง “ทอม” แห่ตัดเต้า ยอดพุ่งกระฉูด  เหตุอยากเท่ มีบุคลิกแมน ๆ

ระบุแปลงเพศเป็นชายไม่ถึง 2% ยันไม่นิยมตัดมดลูกหรือรังไข่ เพราะไม่อยากมีขน หรือผิวกร้านเหมือนชาย ด้าน “ ไชยา” รับอุทธรณ์ “หมอเทพ” แต่ไม่ทบทวนคำสั่งระงับตัดอัณฑะ ชี้ฟ้องศาลปกครองเป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วน แพทยสภา จี้ “มือตัด” ส่งเวชระเบียนตรวจใน 15 วัน พร้อมขอความเห็น 4 ราชวิทยาลัย ประกอบพิจารณา ก่อนถกจริยธรรม พร้อมประชุมนัดแรก 8 เม.ย. ร่างข้อบังคับการแปลงเพศ ขณะที่ “ครูหยุย” เต้น ต้องบรรลุนิติภาวะ และผ่านการประเมินจากจิตแพทย์เท่านั้น

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข

กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของประตูน้ำการแพทย์ (ประตูน้ำโพลีคลินิกเดิม) จะมายื่นอุทธรณ์เพราะไม่ยอมรับคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องขอให้ระงับการตัดอัณฑะในสถานพยาบาลว่า ถ้ามายื่น อุทธรณ์ตนก็คงรับไว้พิจารณา แต่ก็คงต้องว่าไปตามมติของคณะกรรมการสถานพยาบาลที่ออกมา เมื่อถามว่าหากไม่มีการทบทวนคำสั่ง นพ.เทพ ระบุว่าจะไปฟ้องศาลปกครอง นายไชยา กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิที่จะฟ้อง แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ทำไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งตนอาจเรียกแพทย์ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูล
 
ที่แพทยสภา วันเดียวกัน นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา

แถลงผลการประชุมอนุกรรมการจริยธรรม ว่าที่ประชุมได้นำประเด็นการตัดอัณฑะเข้าพิจารณานัดแรก ซึ่งเรื่องนี้ทางกองการประกอบโรคศิลปะ ทำหนังสือสอบถามถึงแนวทางการปฏิบัติและจริยธรรมกรณี การตัดอัณฑะเพื่อหวังผลให้มีลักษณะเหมือนผู้หญิง โดยส่งข้อมูลแพทย์ 1 คนในคลินิกย่านประตูน้ำ และชายอายุ 26 ปี ที่ตัดอัณฑะด้วยความสมัครใจให้พิจารณา ที่ประชุมมีมติให้ขอเวชระเบียนของคนไข้รายนี้ และขอเวชระเบียนผู้เข้ารับการตัดอัณฑะ 300-500 คน ตามที่มีการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน เพื่อนำมาพิจารณาว่าทำถูกต้องตามหลักจริยธรรมหรือไม่ นอกจากนี้ยังทำหนังสือขอความเห็นไปยังราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องอีก 4 แห่ง เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะนำไปที่ประชุมอนุกรรมการจริยธรรมโดยเร็ว
 

นพ.อำนาจ กล่าวต่อว่า สำหรับการขอเวชระเบียนจากคลินิกนั้น จะส่งหนังสือไปให้ แพทย์เจ้าของคลินิกในวันที่ 4 เม.ย.

โดยให้เวลาในการส่งข้อมูลมาภายใน 15 วัน และเนื่องจากการตัดอัณฑะเป็นส่วนหนึ่งของการแปลงเพศ อนุกรรมการร่างข้อบังคับเกี่ยวกับการแปลงเพศ ได้นัดประชุมติดตามความคืบหน้าของร่างข้อบังคับฯในวันที่ 8 เม.ย. นี้ในเวลา 13.00 น. การจะตัดสินว่า แพทย์ที่ตัดอัณฑะผิดหรือไม่ผิด  จะต้องให้โอกาสแพทย์ชี้แจง จะเข้าให้ข้อมูลด้วยตนเองหรือทำหนังสือชี้แจงก็ได้ ทั้งนี้แพทยสภาจะเร่งดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองประชาชน และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ที่ตัดอัณฑะมาร้องเรียนกับแพทยสภา ส่วนกรณีที่แพทย์ย่านประตูน้ำระบุว่าหากตัดอัณฑะผิด การตัดเต้านมก็น่าจะผิดด้วย แต่ว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการตัดเต้านมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฮอร์โมน เพียงแต่ทำให้หน้าอกแบนราบ ส่วนการตัดอัณฑะจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในร่างกายโดยตรง
 
ด้าน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย หนึ่งในอนุกรรมการร่างข้อบังคับเกี่ยวกับการแปลงเพศ ของแพทยสภา กล่าวว่า
 
เนื่องจากการผ่าตัดแปลงเพศ หรือการตัดอัณฑะ เป็นเรื่องที่ผู้ทำมีส่วนได้เสีย ทำไปแล้วไม่สามารถเอาของเดิมกลับคืนมาได้ ดังนั้นต้องดูเทียบเคียงเรื่องนี้กับต่างประเทศ แม้คนไข้จะตัดสินใจได้เองแต่อาจจะต้องมีจิตแพทย์ประเมินด้วย นอกจากนี้ต้องมาดูเรื่องอายุ การยินยอม ซึ่งตนเห็นว่าคนที่จะทำควรบรรลุนิติภาวะไปแล้วและต้องผ่านการประเมินจิตใจก่อน ส่วนการตัดอัณฑะที่มีมานานแล้ว แต่สังคมเพิ่งจะรับรู้นั้น ปัญหาบางอย่างหรือบางเรื่องคนในแวดวงเดียวกันรู้แต่ไม่พูด และปกปิดกันจนเกินเหตุ วงการแพทย์รู้แต่ก็ไม่จัดการ เป็นเพราะบ้านเมืองขาดความกล้าหาญนั่นเอง
 
ส่วน น.ส.มันทนา อดิสยเทพกุล สาวหล่อผู้ก่อตั้งกลุ่มเลสล่า หรือชมรมหญิงรักหญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ

กล่าวถึงการตัดเต้านมในส่วนของหญิงรักหญิง หรือทอม ว่า ปัจจุบันทราบว่ามีสมาชิกที่เป็นทอมไปตัดเต้านมเพิ่มขึ้น ใน 100 คนคาดว่าที่ผ่าตัดเต้านมแล้วประมาณ 10-20 คน ซึ่งที่ผ่านมามีหลายคนสอบถามเรื่องนี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่าตัดที่ไหน อย่างไร ส่วนตัวยังไม่ได้ตัด แต่คิดว่าจะตัดเร็ว ๆ นี้ ทอมส่วนใหญ่ที่ตัดเต้านม ไม่ได้อยากเป็นผู้ชาย มีเพียงไม่ถึง 2% เท่านั้น ที่อยากเป็นและไปแปลงเพศ แต่บางคนรู้สึกว่าหน้าอกใหญ่เกินไป ซึ่งหน้าอกแสดงถึงสัญลักษณ์ของผู้หญิง เมื่อไม่ชอบหน้าอกใหญ่ก็อยากทำให้เล็กลง เพราะอยากเท่ มีบุคลิกแมน ๆ บาง คนอาจจะใช้ผ้ารัด หรือสก๊อตเทปพัน ซึ่งเดิมค่าผ่าตัดแพงมากประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป แต่ปัจจุบันราคาถูกลงเหลือเพียง 5 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับ รพ.ที่ให้บริการ
  
น.ส.มันทนา กล่าวต่อว่า การตัดเต้านม ในผู้หญิงออกอาจจะแตกต่างจากผู้ชาย เพราะไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

เมื่อตัดแล้วไม่ต้องนอน โรงพยาบาลวันเดียวก็ออกได้ ในกรณีนมเล็ก ตัดหัวนมแล้วคว้านเนื้อข้างในออก แต่ถ้าเต้านมใหญ่จะผ่าใต้ฐานหน้าอก ผ่าแล้วจะมีรอยยาวตรงใต้ราวนม ส่วนใหญ่ 99% จะไม่มีผลข้างเคียงอย่างอื่น มีบ้างที่ช่วงแรก ๆ ยกของหนักไม่ได้ อย่างไรก็ตามมีเพียง 1% ที่มีปัญหากรณีรักษาแผลไม่ดี ส่วนการตัดรังไข่หรือมดลูกออกเพื่อให้ร่างกายมีความเป็นชายมากขึ้นนั้น ไม่มีใครทำเพราะทอมไม่ได้อยากมีขนมาก และผิวกร้านเหมือนผู้ชาย แค่ไม่อยากมีหน้าอก ใส่เสื้อกล้าม หรือเสื้อรัดรูปได้อย่างมั่นใจ ยกเว้นในกรณีที่มีข้อบ่งชี้เช่น เป็นเนื้องอก หรือช็อกโกแลตซีสต์เท่านั้นจึงจะมีการตัดทิ้ง.