นักท่องเที่ยวบริเวณหาดบางแสน โวย “น้ำทะเลเขียว” ส่งกลิ่นเหม็น สาหร่ายเกยตื้นทอดยาวกว่า 7 กิโลเมตร ด้านนักวิชาการชี้เป็นเหตุธรรมชาติ
จากปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีและสาหร่ายเกยตื้นบริเวณชายหาดบางแสน
ส่งผลให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่กล้าล่งเล่นน้ำและต้องการที่จะทราบสาเหตุเพื่อทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน นางสาวกานต์รวี รากวงษ์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสน กล่าวว่า ปกติตนและครอบครัวจะเดินทางมาที่หาดบาง แสนทุกช่วงเทศกาลเช็งเม้ง เพื่อมาพักผ่อน และมาเล่นน้ำทะเล แต่มาปีนี้เมื่อเห็นสภาพน้ำทะเลที่มีสีเขียวขุ่นพร้อมทั้งมีสาหร่ายจำนวนมาก ทำให้ไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเล เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลเรื่องน้ำทะเล และสาหร่ายเหล่านี้
ถึงแม้ว่าในเรื่องของน้ำที่มีสีเขียวขุ่นอาจจะแก้ไขไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ
แต่เรื่องของความสะอาดและกลิ่นเหม็นของสาหร่าย ควรแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นางต๋อย กิจวิมลตระกูล แม่ค้าขายอาหารบริเวณชายหาดบางแสน กล่าวว่า ตนอยู่ที่บางแสนมานานแล้ว พบว่า น้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเกิดขึ้นทุกปีตอนช่วงเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวบางรายจะมาถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นบ้าง และบางรายจะไม่กล้าลงเล่นน้ำ โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่า การที่น้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เกิดจากสาหร่าย ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างไร นอกเสียจากนักท่องเที่ยวจะมีอาการแพ้ และหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทุกปี ที่บริเวณชายหาดบางแสนก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตามปกติ
ผศ.ดร.สมถวิล จริตควร อาจารย์ประจำภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากแพลงก์ตอนพืชชนิดหนึ่งที่ทำให้น้ำทะเลเกิดการเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียว ส่งผลทำให้ออกซิเจนในน้ำทะเลลดลง เป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดในน้ำทะเลบริเวณนั้นตาย และเกิดการเน่าเสียของน้ำ นอกจากนี้ สาหร่ายที่ลอยมาติดตามชายหาด ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนนักท่องเที่ยว แต่สาหร่ายที่พบนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ส่วนเรื่องของอันตรายที่เกิดจากน้ำ อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากน้ำทะเลอาจมีการปนเปื้อนจากสารเคมี
“หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชายหาดบางแสนในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ขอให้พยายามหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำทะเล เพราะแต่ละบุคคลมีภูมิต้านทานแตกต่างกัน บางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้ ทั้งนี้ให้มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หนึ่งปีเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ซึ่งหากมาดูในตอนกลางคืน จะพบว่าน้ำทะเลนั้นเรืองแสงได้” ผศ.ดร.สมถวิล กล่าว
ส่งผลให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่กล้าล่งเล่นน้ำและต้องการที่จะทราบสาเหตุเพื่อทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน นางสาวกานต์รวี รากวงษ์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสน กล่าวว่า ปกติตนและครอบครัวจะเดินทางมาที่หาดบาง แสนทุกช่วงเทศกาลเช็งเม้ง เพื่อมาพักผ่อน และมาเล่นน้ำทะเล แต่มาปีนี้เมื่อเห็นสภาพน้ำทะเลที่มีสีเขียวขุ่นพร้อมทั้งมีสาหร่ายจำนวนมาก ทำให้ไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเล เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลเรื่องน้ำทะเล และสาหร่ายเหล่านี้
ถึงแม้ว่าในเรื่องของน้ำที่มีสีเขียวขุ่นอาจจะแก้ไขไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ
แต่เรื่องของความสะอาดและกลิ่นเหม็นของสาหร่าย ควรแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว นางต๋อย กิจวิมลตระกูล แม่ค้าขายอาหารบริเวณชายหาดบางแสน กล่าวว่า ตนอยู่ที่บางแสนมานานแล้ว พบว่า น้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเกิดขึ้นทุกปีตอนช่วงเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวบางรายจะมาถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นบ้าง และบางรายจะไม่กล้าลงเล่นน้ำ โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่า การที่น้ำทะเลเปลี่ยนสีนั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เกิดจากสาหร่าย ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างไร นอกเสียจากนักท่องเที่ยวจะมีอาการแพ้ และหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทุกปี ที่บริเวณชายหาดบางแสนก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตามปกติ
ผศ.ดร.สมถวิล จริตควร อาจารย์ประจำภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากแพลงก์ตอนพืชชนิดหนึ่งที่ทำให้น้ำทะเลเกิดการเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียว ส่งผลทำให้ออกซิเจนในน้ำทะเลลดลง เป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตบางชนิดในน้ำทะเลบริเวณนั้นตาย และเกิดการเน่าเสียของน้ำ นอกจากนี้ สาหร่ายที่ลอยมาติดตามชายหาด ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนนักท่องเที่ยว แต่สาหร่ายที่พบนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ส่วนเรื่องของอันตรายที่เกิดจากน้ำ อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากน้ำทะเลอาจมีการปนเปื้อนจากสารเคมี
“หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชายหาดบางแสนในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ขอให้พยายามหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำทะเล เพราะแต่ละบุคคลมีภูมิต้านทานแตกต่างกัน บางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้ ทั้งนี้ให้มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หนึ่งปีเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ซึ่งหากมาดูในตอนกลางคืน จะพบว่าน้ำทะเลนั้นเรืองแสงได้” ผศ.ดร.สมถวิล กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
