นอภ.ลับแลสรุปน้ำป่าทะลัก คนหาย20รายเสียชีวิต5ราย

นอภ.ลับแล ทำหนังสือรายสรุปความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก 7 ตำบล เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 200 ราย และสูญหาย 20 ราย สาเหตุชาวบ้านขาดประสบการณ์-ประมาท แพร่ถูกตัดขาด5หมู่บ้านยังเข้าช่วยไม่ได้ การรถไฟจัดรถถบัสขนคนขึ้นเชียงใหม่ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก หลังประกาศหยุดเดินรถหลังน้ำท่วมที่อุตรดิตถ์

วันที่ 23 พ.ค.นายธงชัย เตยะธิติ นายอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้มีหนังสือความเร่งด่วน ที่อต 0417 /13 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยสรุปความเสียหายสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากระหว่างเวลา 22.00-23.00 น.ของวันที่ 23 พ.ค. โดยระบุว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 7 ตำบล คือ ต.นานกกก ต.แม่พูล ต.ฝายหลวง ต.ชัยชุมพล ต.ทุ่งยั้ง ต.ไผ่ล้อม และต.ศรีพนมมาศ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เนื่องจากหนีน้ำไม่ทัน บาดเจ็บ 200 ราย สูญหายเบื้องต้น 20 คน

ส่วนความเสียหายไร่นา ถนน สวนผลไม้ กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ แต่คาดว่ามีจำนวนมหาศาล โดยพื้นที่ที่เสียหายมากที่สุดอยู่ในหมู่ 6, 7, 8 , 11 ต.แม่พูล ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำและเกิดดินถล่ม รวมทั้งน้ำท่วมฉับพลัน เบื้องต้นทางอำเภอได้จัดกำลังช่วยเหลือขึ้นที่เทศบาลตำบลหัวดง พร้อมกับระดมเจ้าหน้าที่ทั้งจากทางอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทหาร เข้าให้การช่วยเหลือ ส่วนปัญหาที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่ในขณะนี้ คือ ระบบการสื่อสารและเส้นทางที่ถูดตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ทำให้เครื่องจักรกลหนักที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือไม่สามารรถเข้ามาได้

อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวนมากในขณะนี้เนื่องจากประชาชนขาดประสบการณ์ ไม่คิดว่าจะมีภัยอย่างนี้เกิดนี้ในพื้นที่ของตนเอง จึงเกิดความประมาท

ย้ายนักโทษเรือนจำอุตรดิตถ์ไปสองแคว

นายพิทยา สังฆนาคิน รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการอพยพย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำที่ประสบปัญหาน้ำท่วมว่า ขณะนี้ได้อพยพผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งระดับน้ำสูงประมาณ 85 เซนติเมตร และรถไม่สามารถเข้าไปถึงภายในเรือนจำได้ในระยะ 800 เมตร ออกไปควบคุมไว้ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก โดยผู้ต้องขังหญิงจำนวน 79 คนได้ควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงจังหวัดพิษณุโลก ส่วนผู้ต้องขังชายทยอยนำนักโทษที่มีโทษสูงประมาณ 200 คน ออกไปยังเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกและเรือนจำกลางพิษณุโลกแล้วเช่นกัน

"ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนได้ส่งกำลังและรถมาช่วยลำเลียงผู้ต้องขังในครั้งนี้ เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีของนักโทษ นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้จัดส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่องไปช่วยในเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากทางจังหวัดอุตรดิตถ์งดจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งจังหวัด คาดว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดังกล่าวจะส่งถึงในเวลาประมาณ 19.00 น." นายพิทยา กล่าวอีกว่า ภายในเวลา 22.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) กรมจะทำการย้ายนักโทษในเรือนจำอุตรดิตถ์ทั้งหมดออก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 700 คน เพราะระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ" รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

แพร่ถูกตัดขาด5หมู่บ้านยังเข้าช่วยไม่ได้

พ.ต.อ.สมเกียรติ ปราดเปรียว ผกก.สภ.อ.เมืองแพร่ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมใน 5 หมู่บ้าน ในตำบลช่อแฮ และตำบลป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ โดยเฉพาะบ้านนาตอง หมู่ 9 น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากอยู่กลางหุบเขา สภาพเป็นแอ่งกระทะ มีบ้านเรือน 137 ครัวเรือน 403 คน และต้องขาดจากการติดต่อ หากจะเดินเท้าเข้าไปใช้เวลาประมาณ 2 วัน แต่ขณะนี้ได้ให้ทางหน่วยกู้ภัย ตำรวจบางส่วนเดินทางล่วงหน้าไปแล้ว

ทางด้านนายสามารถ ลอยฟ้า ปลัดจังหวัดแพร่ ได้นำเจ้าหน้าที่และเรือท้องแบนเข้าไปขนย้ายราษฎรในตำบลร่องกาศ อ.สูงเม่น ที่มีน้ำท่วมสูงค่อนข้างลำบาก ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ถูกส่งมาช่วยเหลือ ต้องบินวกกลับ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี เพราะฝนตกหนัก

หรับผู้เสียชีวิตเบื้องต้นที่พบศพแล้ว 3 ศพ คือ ด.ญ.จรวยพร แก้วมณี อายุ 7 ปี นายสมัย เทียนทอง อายุ 45 ปี และนางชุ่ม ยาสุปี อายุประมาณ 70 ปี โดยศพทั้งหมดไหลมากับน้ำป่า และพบที่หมู่ 6 บ้านไน ตำบลป่าแดง อ.เมืองแพร่ ส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหายขณะนี้มี 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอสูงเม่น อำเภอเด่นชัย และอำเภอวังชิ้น

กฟภ.ยันเริ่มจ่ายไฟให้ชาวอุตรดิตถ์4โมงเย็น

นายประเจิด สุขแก้ว ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ได้งดจ่ายไฟฟ้าทั้งจังหวัด ตั้งแต่เวลา 07.00 น.วันที่ 23 พค และได้เร่งซ่อมแก้ไข โดยเฉพาะจุดที่เสาไฟฟ้าล้ม ขณะนี้ได้จัดเครื่อปั่นไฟฟ้าสำรองจ่ายไฟฟ้าให้กับชาวบ้านชั่วคราวไปก่อน คาดว่าจะจ่ายไฟให้ทั้งจังหวัดภายใน 16.00 น.วันนี้

สำหรับในส่วนของจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน มีเสาไฟฟ้าล้มรวม 14 ต้น ทำให้ไฟดับทั้งหมด ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ 900 ครัวเรือน จึงระดมกำลังแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยกำชับให้แล้วเสร็จภายใน 6 ชม.ข้างหน้านี้

การรถไฟฯจัดรถบัสขนคนขึ้นเชียงใหม่

นายศักดิ์สิงห์ วงศ์สงวนสอดศรี หัวหน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก กล่าวว่า การรถไฟฯได้ตัดสินใจงดขบวนรถไฟขึ้นเหนือทุกขบวน โดยขบบวนรถไฟขึ้นเหนือเที่ยวสุดท้ายขบวนรถเร็ว 101 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ได้มาถึงที่สถานีรถไฟพิษณุโลกเวลา 13.00 น. การรถไฟได้ประสานกับขนส่งจังหวัดพิษณุโลกจัดรถบัสมารับผู้โดยสารจำนวน 200 คน เพื่อเดินทางต่อไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางสายสุโขทัย-ตากแทน และยังไม่ทราบกำหนดแน่ชัดว่าจะเปิดให้บริการรถไฟได้อีกเมื่อไหร่

ทั้งนี้ ตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 23 พ.ค.49 ขบวนรถไฟขึ้นเหนือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ได้มาจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟพิษณุโลกไปเที่ยวหนึ่งแล้ว โดยผู้โดยสารต่างช่วยเหลือตัวเองเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่