ชาวนา-เจออีก! โจรลักพันธุ์ข้าว

ชาวนาตกเป็นเหยื่อแก๊งโจรมิจฉาชีพเข้าไปลักพันธุ์ข้าวที่เตรียมไว้หว่านในแปลงนารายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายดาวเรือง กิจสนิท อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 2 ต.วังพัฒนา อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพทำนา หลังได้รับทราบจากชาวบ้านว่ามีคนร้ายบุกขโมยข้าวเปลือกที่ใช้เป็นพันธุ์ข้าวเตรียมหว่านในแปลงจนหมด เมื่อไปถึงพบนายดาวเรือง กิจสนิท และนางสำรวย กิจสนิท อายุ  58  ปี สองผัวเมียเจ้าของบ้านกำลังนั่งกอบเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่คนร้ายทำตกหล่นเรี่ยราดอยู่บนคันนาข้างบ้านด้วยสีหน้าหดหู่ 

นายดาวเรืองเปิดเผยว่า

ครอบครัวของตนทำนาทั้งหมด 80 ไร่ ล่าสุดได้เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังไปแล้ว 1 ครั้ง ได้เงินมาเกือบ 500,000 บาท โดยก่อนเก็บเกี่ยวได้ไปซื้อพันธุ์ข้าวพิษณุโลก 2 มาจาก จ.สุพรรณบุรี จำนวน 60 ถัง เป็นเงินทั้งหมด 8,000 บาท เพื่อเตรียมไว้หว่านปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 โดยนำพันธุ์ข้าวใส่ถุงปุ๋ยไปแช่น้ำไว้ในแปลงนาจำนวน 23 ถุง จากนั้นได้ยกตากแดดไว้ที่คันนารอบแปลงนาที่ไถแปรเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดจะหว่านในช่วงเช้าวันที่ 29 มี.ค.นี้
 

ชาวนาที่ตกเป็นเหยื่อโจรมิจฉาชีพ กล่าวอีกว่า

กระทั่งกลางดึกที่ผ่านมาได้ยินเสียงสุนัขเห่าเสียงดัง ตนสะดุ้งตื่น แต่ไม่กล้าออกไปดูนอกบ้าน เนื่องจากเพิ่งขายข้าวเอาเงินเก็บไว้ในบ้านยังไม่ได้ฝากธนาคาร กลัวว่าจะถูกคนร้ายปล้น ตื่นนอนมาตอนเช้าก็ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นเตรียมออกไปหว่านพันธุ์ข้าว ปรากฏว่าเมื่อเดินไปถึงแปลงนาก็ต้องตกใจ เมื่อพันธุ์ข้าวที่ใส่ถุงปุ๋ยวางไว้บนคันนาถูกคนร้ายขโมยไปจนหมด  เหลือเพียงเศษเมล็ดข้าวที่ร่วงกระจายเป็นหย่อมๆ นอกจากนี้ ยังพบรอยล้อรถลักษณะเหมือนรถเข็น คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ขนพันธุ์ข้าว
 

“พันธุ์ข้าวที่ถูกขโมยไปไม่เสียดายเท่าไหร่ เพราะยังพอหาซื้อใหม่ได้ แม้ราคาจะแพงขึ้นก็ตาม แต่ที่รู้สึกเสียใจคือเรายึดอาชีพทำนามาตลอดชีวิต แต่ไม่สามารถรักษาพันธุ์ข้าวที่เปรียบเสมือนแม่โพสพของชาวนาไว้ได้ ชาวนาต้องทำงานหนักเหน็ดเหนื่อย กลับมาถึงบ้านก็นอนหลับเป็นตายด้วยความอ่อนเพลีย ทำให้เครื่องไม้เครื่องมือการเกษตรหายอยู่บ่อยๆ ก่อนหน้านี้เครื่องยนต์รถไถนาราคาตกเครื่องละ 30,000 บาท ก็ถูกขโมยไป แต่ก็ไม่เคยเสียใจร้องไห้เท่ากับพันธุ์ข้าวหาย” นายดาวเรืองกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
 

ต่อมาผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับกรณีโจรขโมยพันธุ์ ข้าวของนายดาวเรืองว่า

ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.บางซ้าย ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เนื่องจากชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทั้งนี้ ได้สั่งให้ชุดสืบสวนบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับตำรวจท้องที่ออกติดตามคนร้ายโดยด่วน ส่วนตัวจะนำเงินไปช่วยเหลือเบื้องต้นในการซื้อพันธุ์ข้าว ทราบว่าราคาประมาณ 8,000 บาท เราอยู่ในสังคมก็ต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้ชาวนารวมกลุ่มกันจัดเวรยามออกตรวจตรา โดยจะจัดส่งตำรวจเข้าไปร่วมเพื่อป้องกันเหตุอีกทางหนึ่ง
 

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ต.ทรงพล พูลพิพัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางซ้าย ได้เดินทางไปตรวจสอบนาข้าวที่เกิดเหตุ จากนั้นเปิดเผยว่า

 ได้นัดให้ผู้เสียหายไปให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพัก อย่างไรก็ตามเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าคนร้ายน่าจะนำพันธุ์ข้าวที่ขโมยไปขายต่อให้เจ้าของนารายอื่น หรืออาจเอาไปทำพันธุ์ข้าวหว่านในนาตัวเอง
 

ขณะเดียวกัน นอกจากชาวนาเผชิญกับโจรอาละวาดลักข้าวรายวันแล้ว ยังต้องประสบปัญหาเพลี้ยระบาดนาข้าวเสียหาย โดยเฉพาะที่ ต.ลาดชิด และ ต.ลาดน้ำเค็ม อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลอย่างหนัก ทั้งนี้ นายมานิตย์ พุ่มพวง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 8 ต.ลาดชิด เปิดเผยว่า ตนและญาติๆรวมทั้งชาวนาในหมู่บ้านทำนาปรังรวมกันกว่า 12,000 ไร่ แต่ต้องประสบปัญหาแมลงศัตรูข้าว โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลกัดกินต้นข้าวเสียหายหมด ทั้งๆที่เหลืออีกราว 20 วัน ก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว เชื่อว่าเพลี้ยกระโดดน่าจะลุกลามมาจากในพื้นที่ ต.ลาดงา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเริ่มระบาดหนักเมื่อ 3 วัน ที่ผ่านมา
 

ด้านนายวิเชียร พวงลำเจียก กรรมการสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า

 ตนทำนาปรัง 10 ไร่ในพื้นที่ ต.ลาดน้ำเค็ม อ.ผักไห่ ต้นข้าวอายุกว่า 2 เดือน กำลังประสบปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและหนอนกอกัดต้นข้าว ทั้งนี้ ได้จ้างให้คนมาฉีดพ่นยากำจัดศัตรูพืช เฉพาะค่าแรงตกไร่ละ 50 บาท ส่วนค่ายาฆ่าแมลงไม่ต่ำกว่า 2,500 บาทต่อไร่ หากผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ทันในช่วงที่ราคาข้าวยังสูง