จากคดีพระไกรสร มนุญโญ อายุ 51 ปี พระนักพัฒนาชื่อดัง เจ้าสำนักสงฆ์ธรรมสถานสุทธิวงศ์อุดมสุข
ตั้งอยู่ บ้านทุ่งลุง หมู่ 2 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มรณภาพอย่างมีปริศนาภายในสำนักสงฆ์ ยังไม่มีการสรุปทางคดีว่า สาเหตุการมรณภาพเกิดจากการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม และทรัพย์สินของพระไกรสรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีลูกศิษย์ในต่างประเทศที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมบริจาคและถวายเงินรวมทั้งปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ใช้ในกิจกรรมทางศาสนา และก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสงฆ์อาพาธ
โดยพระไกรสรได้เขียนพินัยกรรมเป็นหนังสือมอบหมายให้ ลูกศิษย์ที่เคยร่วมงานกันมาต่อเนื่องยาวนาน เป็นผู้จัดการเรื่องทรัพย์สินเพื่อการก่อตั้งมูลนิธิ
แต่ปรากฏว่ามีการจัดแบ่งทรัพย์สินของพระไกรสรให้ญาติและบุคคลต่างๆไปบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ทรัพย์สินและเงินของกลางบางส่วนหายไป ขณะเดียวกันพบว่ามีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการมรณภาพของพระชื่อดังด้วย ความคืบหน้าเรื่องนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาคนสพ.ไทยรัฐ รายงานเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า
พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา หัวหน้าทีมคณะทำงานตรวจสอบเงินสกุลต่างประเทศที่ลูกศิษย์พระไกรสรร้องเรียนว่า มีเงินจำนวนนับล้านบาทสูญหายระหว่างการตรวจสอบคดีการมรณภาพของพระไกรสร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รวบรวมเงินสกุลต่างประเทศที่เจ้าหน้าที่พบในบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมด มาทำบันทึก พร้อมเชิญนายโสภณ จะยะสกุล ผจก.อาวุโสธนาคารกรุงไทย สาขานิพัทธ์อุทิศ 2 หาดใหญ่ มาร่วมตรวจนับ ผลการตรวจนับมีเงินสิงคโปร์ฉบับละ 1,000 เหรียญสิงคโปร์ 250 ใบ, ฉบับละ 100 เหรียญ 1 ใบ, ฉบับละ 50 เหรียญ 59 ใบ, ฉบับละ 10 เหรียญ 755 ใบ, ฉบับละ 5 เหรียญ 5 ใบ, ฉบับละ 2 เหรียญ 211 ใบ, ฉบับละ 1 เหรียญ 13 ใบ เงินมาเลเซีย ฉบับละ 100 ริงกิต 10 ใบ, ฉบับละ 50 ริงกิต 130 ใบ, ฉบับละ 10 ริงกิต 25 ใบ, ฉบับละ 5 ริงกิต 4 ใบ, ฉบับละ 1 ริงกิต 8 ใบ, เงินดอลลาร์สหรัฐฯฉบับละ 100 ดอลลาร์ 5 ใบ, ฉบับละ 20 ดอลลาร์ 3 ใบ, ฉบับละ 10 ดอลลาร์ 2 ใบ, ฉบับละ 1 ดอลลาร์ 6 ใบ, ฉบับละ 10 ดอลลาร์ 6 ใบ รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท หลังตรวจนับได้ทำบันทึกและเก็บรักษาเงินไว้ในตู้เซฟ สภ.หาดใหญ่ รอตรวจสอบหลักฐาน จากนั้นจะเชิญตัวแทนของคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพระไกรสรมาตรวจสอบที่มาของเงิน เพื่อถ่ายโอนให้ตัวแทนของคณะสงฆ์ต่อไป
ตร.โชว์6ล้าน เงินพระไกรสร
ด้านนายธีระชิด ช่วยเกิด ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา กล่าวว่า
การที่มีพระมรณภาพเป็นเรื่องที่ทางคณะสงฆ์จะต้องดำเนินการ ขั้นแรกต้องดูหนังสือสุทธิว่าสังกัดวัดไหน และเจ้าอาวาสของวัดต้นสังกัดมีสิทธิ์ดำเนินการในเรื่องการจัดงานศพ ส่วนทรัพย์สินก็ต้องเข้าไปดูว่า มีทรัพย์สินส่วนตัว หรือทรัพย์สินของวัดอะไรบ้าง ทำพินัยกรรมยกให้ใครหรือไม่ ถ้าไม่มีพินัยกรรมทรัพย์สินก็ต้องตกเป็นของสงฆ์ ญาติไม่มีสิทธิ์เข้ามาจัดการ ในส่วนของหนังสือคำสั่งก่อนมรณภาพที่พระไกรสรเขียนมอบให้ น.ส.ทิพปภาพร โชครัตนตรัย น้องสาวบุญธรรม เป็นคนจัดการทรัพย์สินทั้งหมดนั้นก็ต้องไปว่ากันที่ศาล ส่วนกรณีที่ทางตำรวจมีการตรวจสอบและแบ่งทรัพย์สินของพระไกรสรเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2550 ขณะที่ยังจัดงานศพไม่เสร็จนั้นจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ตนไม่ขอออกความเห็น ให้ไปคิดกันเอาเอง ซึ่งแม้ว่าในวันนั้นตนจะถูกปลัดจังหวัดสงขลาเชิญไปร่วมเป็นพยาน แต่ก็ไม่ทราบว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง และไม่ได้ร่วมลงชื่อเป็นพยานด้วย
ขณะเดียวกันบรรดาลูกศิษย์ชาวต่างชาติยังข้องใจเรื่องเงินสดจำนวน 3.8 แสนบาท ซึ่งเป็นธนบัตรไทยที่ตำรวจ สภ.ทุ่งลุง ยึดมาจากกุฏิของพระไกรสร และญาตินำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพที่วัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวงในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
จึงพากันไปสอบถามพระเทพวีราภรณ์ รักษาการเจ้าคณะภาค 18 ในฐานะเจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระเทพวีราภรณ์กล่าว ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายการจัดงานศพ อย่างไรก็ตาม การนำเงินมรดกไปจัดงานศพเจ้าของทรัพย์ สามารถทำได้ แต่ควรมีรายละเอียดบัญชีค่าใช้จ่าย เรื่องนี้พระในวัดโคกสมานคุณไม่ทราบถึงการใช้จ่ายเงินดังกล่าวเลย การที่นำศพพระไกรสรมาจัดพิธีที่วัดเพราะเห็นว่าท่านเป็นพระที่ประชาชนนับถือ มีชื่อเสียง มีลูกศิษย์มาก ไม่มีญาติอยู่ที่นี่ จึงนำศพมาตั้งสวดพระอภิธรรมให้ แต่ เรื่องตัวเงินญาติเขาเป็นคนถือ พระไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย