แฉกะเทยวัยรุ่น ตุ๊ด-แต๋ว แห่ตัดลูกอัณฑะ

เรื่องราวความก้าวหน้าของบรรดาตุ๊ด แต๋ว กะเทย วัยรุ่นที่อยากจะเปลี่ยนเพศจากชายกลายเป็นหญิง โดยใช้ วิธีการแบบใหม่ไม่ต้องเฉาะเจ้าโลกออกทั้งยวงครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายนที ธีระโรจนพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มเกย์การเมืองไทย เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองของกลุ่มเด็กชายรักชายว่า ถูกรบเร้าจากบุตรหลานให้ไปลงนามยินยอมรับทราบในการผ่าตัดต่อมลูกหมากในคลินิกต่างๆที่มีทั่วประเทศ ทั้ง กทม. เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี โดยเฉพาะใน กทม.นั้น มีคลินิกชื่อดังย่านประตูน้ำ รับทำศัลยกรรมตัดอัณฑะ เป็นที่รับรู้กันแพร่หลายในกลุ่มชาวเกย์ กะเทย โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียง 4,000- 5,000 บาท

บรรดากะเทยวัยรุ่นส่วนใหญ่ได้รับทราบข้อมูลต่อๆกันมาว่า

การผ่าตัดลูกอัณฑะ หรือตัดไข่ออกแล้วจะทำให้ผิวพรรณดี สวยงามเหมือนเพศหญิง ไม่มีขนเยอะ อกไม่ผายเหมือนผู้ชาย ลูกกระเดือกไม่โผล่ เป็นต้น ทำให้บรรดาผู้ปกครองของวัยรุ่นเหล่านี้ มีความเป็นห่วงบุตรหลาน เนื่องจากเด็กที่รักร่วมเพศเหล่านี้ บางรายอายุ 14-15 ปี ก็ไปเข้าคิวเพื่อรอให้ถึงอายุ 16 ปี ก่อนจะตัดสินใจผ่าตัดทิ้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจเป็นความคิดชั่ววูบ เพราะกลุ่มรักร่วมเพศ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแปลงเพศทุกรายไป แพทย์ที่ดำเนินการผ่าตัดให้ ควรมีจรรยาบรรณในเรื่องดังกล่าว เพราะยังอยู่ในวัยเด็ก ควรให้บรรลุนิติภาวะเสียก่อน 


“เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ องค์กรเครือข่ายอัตลักษณ์ทางเพศ ประกอบด้วยกลุ่มเกย์การเมือง บางกอกเรนโบว์ กลุ่มแสงจากใจ กลุ่มสวิง กลุ่มบ้านสีม่วง ฯลฯ จำนวน 10 คนจะเดินทางไปที่แพทยสภา เพื่อให้ยับยั้งและตรวจสอบการดำเนินการ ของผู้ประกอบวิชาชีพที่ดำเนินการผ่าตัดลูกอัณฑะให้กับกลุ่มชายรักชายที่ยังเป็นเด็กอยู่ เนื่องจากไม่มั่นใจในระบบการตรวจสอบของคลินิกผ่าตัดเหล่านี้ว่า ได้ทำการทดสอบทางจิตวิทยาเด็กเหล่านั้นหรือไม่ว่าเป็นกะเทย แท้ที่ต้องการแปลงเพศในอนาคต หรือเป็นเพียงเกย์คิง และเกย์ควีน ที่ไม่จำเป็นต้องแปลงเพศก็ได้ หรือเป็นอารมณ์ ชั่ววูบ ที่วันนี้อยากทำใจจะขาด แต่ในอนาคตพวกเขาอาจไม่ได้ต้องการอย่างแท้จริง หากเป็นเช่นนี้ใครจะรับ ผิดชอบ” นายนทีกล่าว



ผอ.กลุ่มเกย์การเมืองไทยกล่าวอีกว่า จากการพูดคุยถึงผลกระทบที่ตามมาภายหลังจากที่ผ่าตัดลูกอัณฑะออกไปแล้วพบว่า ในอนาคตจะต้องกินฮอร์โมนทดแทนไปเรื่อยๆ
 
เนื่องจากลูกอัณฑะเป็นอวัยวะผลิตฮอร์โมนเพศชาย เมื่อฮอร์โมนหายไป ก็ต้องทานฮอร์โมนเพศหญิงทดแทน และต้องทานไปตลอดชีวิต ส่วนนี้เด็กที่ตัดสินใจผ่า ได้รับทราบข้อมูลหรือไม่ และจะมีเงินดูแลตัวเองไปตลอดหรือไม่ อีกทั้งการดำเนินการในเด็กอายุเพียง 16 ปี จะเกิดอันตรายกับตัวเด็กอย่างไรบ้าง หากเกิดขึ้นจะรับ ผิดชอบอย่างไร เนื่องจากเด็กยังอยู่ในวัยเจริญเติบโต หากผ่าตัดลูกอัณฑะไปแล้ว จะไปผ่าตัดแปลงเพศในอนาคตจะดำเนินการยากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่มีผิวหนังลูกอัณฑะ เหลือพอจะสร้างอวัยวะเพศหญิง จนต้องนำลำไส้มาแทน 

“ตนไม่ต้องการเห็นแพทย์มากำหนดชีวิตเด็กและหากินกับเด็ก เพราะเมื่อมาผ่าตัดลูกอัณฑะด้วยเงินเพียง 4-5 พันบาท แล้วในอนาคตก็จะต้องกลับมาผ่าตัดแปลงเพศกับคุณหมอคนเดิม ซึ่งการผ่าตัดแปลงเพศจะมีค่ารักษาพยาบาลเป็นแสนบาท เกรงว่าเด็กจะหลงเชื่อสิ่งเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับตัวเขา เป็นเรื่องใหญ่ ของประเทศชาติ ที่แพทย์จะมากำหนดอนาคตของชีวิตเด็กเช่นนี้ แม้จะไม่ทราบว่าขณะนี้มีกลุ่มชายรักชาย แห่ไปผ่าตัดลูกอัณฑะจำนวนเท่าใด แต่จากที่ได้รับข้อมูล จากการจัดรายการวิทยุเกี่ยวกับกลุ่มรักร่วมเพศพบว่า กระแสดังกล่าวเพิ่มขึ้นและตื่นตัวอย่างมาก ภายหลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับประเด็น ที่กลุ่มสาวประเภทสองสามารถใช้คำนำหน้าว่า น.ส.ได้นั้น ก็สร้างความตื่นตัวในกลุ่มสาวประเภทสองอย่างมาก จึงมีความคิดว่าจะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่กฎหมายจะมีการบังคับใช้”


ด้าน นพ.สิทธิพร ศรีนวลนัด อาจารย์ประจำสาขาวิชาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า

ทางการแพทย์ไม่มีการยืนยันว่าจะใช้การผ่าตัดลูกอัณฑะเพื่อวัตถุประสงค์ ให้ไม่มีฮอร์โมนเพศชาย ผิวพรรณจะดีเหมือนเพศหญิง ไม่มีลักษณะแสดงความเป็นชายเหมือนผู้หญิง แต่จะผ่าตัดเฉพาะรายสำหรับการรักษาโรค อาทิ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะ ซึ่งการผ่าตัดลูกอัณฑะในช่วงอายุ 16 ปี ที่ถือว่าเป็นวัยที่การเติบโตของร่างกายเต็มที่แล้ว จะไม่ได้ผลเท่าใดนัก เนื่องจากร่างกายได้มีการพัฒนาการไปแล้ว อาทิ อกกว้างเหมือนผู้ชาย มีขน หนวดเครา ฯลฯ หากจะดำเนินการต้องเป็นในช่วงวัยก่อนที่มีการพัฒนาการของร่างกายคือช่วงอายุ 13-14 ปี ก็พอมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นเพศหญิงได้ การตัดลูกอัณฑะจะส่งผลต่อการร่างกายในช่วงสูงอายุขึ้น จะทำให้มีอาการอ้วนลงพุง ศีรษะล้าน ความจำแย่ลง เป็นอัลไซเมอร์ จากเดิมที่เข้าสู่วัยทองช่วงอายุ 45-60 ปีขึ้นไป ก็อาจเร็วกว่าคนปกติ ขณะเดียวกันความต้องการทางเพศอาจลดลงด้วย


ขณะที่ นพ.ศิรชัย จินดารักษ์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า

การผ่าตัดลูกอัณฑะจะทำให้การผ่าตัดแปลงเพศในอนาคตดำเนินการได้ยากขึ้น เพราะเมื่อผ่าตัดลูกอัณฑะทิ้งจะทำให้ผิวหนังที่ห่อหุ้มลูกอัณฑะมีขนาดเล็กลง ซึ่งโดยปกติการผ่าตัดแปลงเพศจะดำเนินการผ่าตัดอวัยวะเพศไปพร้อมๆกับการผ่าตัดลูกอัณฑะ จากวิชาการทางการแพทย์จะไม่มีการผ่าตัดลูกอัณฑะก่อนแต่อย่างใด


ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า
 
เป็นไปได้ที่เด็กวัยรุ่นชายรักชาย นิยมไปผ่าตัดลูกอัณฑะ อาจเป็นไปได้ว่าทราบข้อมูลต่อๆ กันมาว่า การผ่าตัดลูกอัณฑะในช่วงวัยไม่ถึง 18 ปี เพื่อให้ร่างกายไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนเพศชาย แต่ก็เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงสำหรับที่วัยรุ่นไม่ถึง 18 ปี จะตัดสินใจผ่าตัดลูกอัณฑะออก แม้ว่าในภาวะขณะนั้นเด็กอาจจะมีร่างกายเป็นชาย แต่ใจอยากเป็นหญิงก็ตาม เพราะปัจจัยด้านจิตใจและการแสวงหาเอกลักษณ์ของตัวเองในช่วงวัยดังกล่าว อาจยังไม่แข็งแรงพอ มีแนวโน้มที่อาจเปลี่ยนแปลง อยากกลับมาเป็นชายใหม่ได้ในอนาคต ซึ่งหากได้ทำการตัดลูกอัณฑะไปแล้ว และในภายหลังเกิดค้นพบว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนเพศไปอีกเพศ อาจเสียใจ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การผ่าตัดอัณฑะกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ของบรรดาสาวประเภทสอง มีการโฆษณาอย่างโจ๋งครึ่มทางเว็บไซต์

ทั้งนี้ นายปัณฑารีย์ ศิวปรียาภรณ์ หรือออฟ นาโอมิ เจ้าของเว็บไซต์ Misslady boys.com เว็บไซต์สาวประเภทสองชื่อดัง เปิดเผยว่า การตัดไข่เริ่มจากสาวประเภทสองที่อยากมีสรีระเหมือนผู้หญิง แต่ไม่พร้อมจะแปลงเพศ หรือมีเงินไม่พอ ไม่ อยากมีขน ไม่อยากให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนผู้ชาย จึงหาวิธีแตกต่างกันไป เช่น กินฮอร์โมนผู้หญิง กินยาต้านฮอร์โมนผู้ชาย ต่อมาบรรดาสาวประเภทสองรู้ว่าจุดกำเนิดฮอร์โมนผู้ชายอยู่บริเวณลูกอัณฑะ จึงนิยมไปตัดลูกอัณฑะออก ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่กำลังมาแรง โดยสนนราคาค่าผ่าตัดอยู่ที่ 7 พัน-1 หมื่นบาท ส่วนอวัยวะเพศหลังการผ่าตัดก็สามารถปัสสาวะได้เหมือนเดิม เพียงแต่ความรู้สึกทางเพศอาจลดน้อยลง นอกจากนี้ ความนิยมตัดลูกอัณฑะจะอยู่ในกลุ่มสาวประเภทสองที่เดินสายประกวดนางงาม เพราะจะเกิดความมั่นใจในสรีระและเก็บอวัยวะเพศได้มิดชิด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์