ครูยุ่นรับม.1ขอนแก่นท้องดูแลหวั่นพยานถูกข่มขู่

"ครูยุ่น" ส่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก ชิงเด็กหญิงชั้นม.1 วัย 13 ปีที่ตั้งท้องพร้อมเพื่อนอีก 4 คนไปดูแล หวั่นพยานถูกข่มขู่ ชี้เป็นเรื่องเศร้าที่เหตุการณ์ครูข่มขืนลูกศิษย์ในพื้นที่ขอนแก่นเกิดซ้ำซาก แพทย์ตรวจพบเด็กท้อง 6 เดือนกว่า ไม่มีอาการแทรกซ้อน ขณะที่เทปเสียงชัดครูอ้อนเด็กไปหากลางคืนในห้องพักครูแถมต่อรองค่าตัว

กรณีครูสอนภาษาไทยโรงเรียนขยายโอกาสแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น

ถูกกลุ่มนักเรียนหญิง ชั้น ม.1 และม.2 หลายคนกล่าวหาว่า มีพฤติกรรม โทรศัพท์เรียกนักเรียนหญิงที่หน้าตาดี ไปรับประทานอาหารและหลอกให้เข้าไปในห้องพักครูช่วงกลางคืน จากนั้นได้มีการลวนลามและข่มขืนจนสำเร็จความไคร่ กระทั่งนักเรียนหญิงชั้นม.1 อายุ 13 ปี ตั้งท้องนั้น
 

ความคืบหน้าล่าสุด หลัง "คม ชัด ลึก" นำเสนอข่าว

 นายมนตรี สินทวิชัย หรือ”ครูยุ่น” อดีตส.ว.สมุทรสงคราม จากมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ได้ติดต่อและส่งเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯเดินทางมาที่จ.ขอนแก่น เพื่อรับตัวเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่คาดว่าจะตั้งท้องประมาณ 6 เดือน พร้อมกับเพื่อนๆ พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งบางคนระบุว่าเคยถูกครูคนดังกล่าวหลอกไปข่มขืน อีก 4 คนไปสอบสวนโดยเร็วที่สุด
 

นายมนตรี  กล่าวว่า

หลังทราบข่าวกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนหญิงใน จ.ขอนแก่น ก็รู้สึกหดหู่มาก ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกหลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ตั้งแต่ปี 2546-2547 จนข้าราชการครูหลายคนถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว ซึ่งเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ตัวเด็กกระทบกระเทือนต่อจิตใจไปมากกว่านี้ และถ้าหากปล่อยให้เด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่วพยานอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุต่อคงไม่เป็นผลดีกับเด็กและพยานแน่
 

ดังนั้นมูลนิธิฯจึงได้รีบส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับเด็กมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ถ้าหากเด็กยินยอมที่จะเดินทางไปพักสภาพจิตใจที่มูลนิธิฯ ชั่วคราวหรือต้องการให้มูลนิธิช่วยเหลือก็ยินดีที่จะรับตัวเด็กมาโดยเร็วที่สุด เพื่อบำบัดจิตใจของเด็กไม่ให้กระทบกระเทือน อีกทั้งเพื่อไม่ให้เด็กถูกข่มขู่และถูกทำร้าย  จนอาจทำให้พยานหลักฐานที่มีอยู่นั้นหายไป  

“เรื่องทั้งหมดก็ขอสอบสวนและตรวจดูข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นก่อน เนื่องจากยังไม่รู้ว่าเด็กท้องกับใคร อีกทั้งกรณีที่เด็กบอกว่าถูกครูลวงข่มขืนจริง และมีหลักฐานพยานชัดเจนจากเทปบันทึกเสียงของครูที่โทรศัพท์ติดต่อเรียกเข้าไปพบและเสนอเงินให้นั้น ในส่วนนี้ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล หลักฐานชิ้นนี้ศาลจะรับฟังหรือไม่ ก็ต้องขอดูและตรวจสอบก่อน ถ้าผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายได้" นายมนตรี กล่าว
  

 นายมนตรี กล่าวว่า

หลังจากที่สอบตัวเด็กเสร็จและถ้ามีหลักฐานเพียงพอว่าครูคนดังกล่าวทำผิดจริง ก็จะนำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ตำรวจเข้าจับกุมตัวครูคนนี้ได้ทันที อีกทั้งจะพาเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิเด็ก และให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปตามกฎหมาย เพื่อให้ตัวครูได้รับผลกรรมที่กระทำไปถ้าเด็กถูกครูข่มขืนจริง
  

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ปกครองยินยอมที่จะปล่อยให้มูลนิธิคุ้มครองเด็กดำเนินการ

ก็จะนำตัวเด็กมาอยู่ภายใต้มูลนิธิคุ้มครองเด็กไปก่อนและในเรื่องการช่วยเหลืออื่นๆก็ค่อยว่ากัน เนื่องจากขณะนี้ตัวเด็กเองก็กำลังตั้งท้องและอยู่ในระหว่างการสอบสวนจากหลายฝ่าย จนทำให้เด็กนั้นอาจเกิดการสับสน ต้องให้เด็กมีจิตใจสบายๆก่อนเพราะเด็กตอบคำถามจากคนหลายครั้งถ้าตอบไม่เหมือนกันแล้วมันจะยุ่ง
 

 ส่วน น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ที่กำลังตั้งท้อง กล่าวว่า

ยินดีที่จะเดินทางไปมีชีวิตใหม่กับมูลนิธิคุ้มครองเด็กของครูยุ่น เนื่องจากถ้าหากถูกจับแต่งงานกับนักเรียนชายด้วยกัน ที่จะให้มารับผิดชอบแต่งงานด้วยนั้นก็ไม่รู้ว่านานไปจะรักและดีกับเราหรือไม่ อีกทั้งได้ยินแว่วๆว่าผู้ใหญ่ให้แต่งกันให้เรื่องจบๆไป ลูกที่เกิดมาจะได้มีพ่อ ซึ่งคิดว่าถ้าหากแต่งงานไปก็คงจะอยู่ด้วยกันไปไม่นาน
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กเดินทางมารับตัว น.ส.น้ำ  พร้อมเพื่อนๆ พยานอีก 4 คนไปสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่โครงการพิทักษ์สิทธิเด็ก และสตรี รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น นำโดย พญ.ศรีนารี แก้วฤดี หัวหน้าโครงการฯก็ได้นำตัว ด.ญ.น้ำ เข้าไปตรวจสุขภาพฝากครรภ์ เนื่องจากเด็กท้องโตมาก ซึ่งจากการตรวจครรภ์พบว่าเด็กมีอายุ 6 เดือนเศษแล้ว ซึ่งตัวเด็กในท้องมีสุขภาพแข็งแรงดีและไม่มีโรคแทรกซ้อนแต่อย่างใด
 

ขณะที่ผู้นำชุมชนอีกรายที่รู้เห็นพฤติกรรมของครูคนนี้ กล่าวว่า

คนทั้งหมู่บ้านรู้เห็นพฤติกรรมของครูคนนี้ดีและพยายามบอกเด็กผุ้หญิงระมัดระวังอย่าหลงเชื่อและระวังถูกครูคนนี้ลวงไปซื้อบริการ เนื่องจากเด็กในระแวกนั้นหลายคนตกเป็นเหยื่อมาแล้ว ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดของครูคนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถเอาผิดเข้าได้หรือไม่เนื่องจากเขาไม่เกรงกลัวกับการกระทำที่เกิดขึ้นเลย
 

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ครูชายที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนลูกศิษย์ เปิดเผยว่า

การนำเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ที่ตั้งท้องไปตรวจ และจะมีการดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวและต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงกัน และเรื่องนี้ไม่มีครูในโรงเรียนทราบเรื่องมาก่อน
 

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบหลักฐานที่เด็กนักเรียนแอบบันทึกเสียงการสนทนากับ ครูคนดังกล่าว

โดย น.ส.ฝน (นามสมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.4 เพื่อนของ ด.ญ.น้ำ ที่ตั้งท้อง ระบุว่า เป็นการพยายามเก็บหลักฐานเพื่อมัดตัวครูคนดังกล่าว หลังจากเธอถูกหลอกไปลวนลามและข่มขืนในห้องพักครู โดยการบักทึกเสียงดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ครูคนดังกล่าวเข้าเวรที่โรงเรียน  

การสนทนาเริ่มจากครูคนดังกล่าวโทรหา น.ส.ฝน และกล่าวชวนให้ไปหา และบอกจะให้เงิน 1,500 บาท แต่ น.ส.ฝน ตอบกลับว่า ทำไมเพื่อนได้ 1,800 บาท ถ้าไปก็ต้องได้ 1,800 บาท เหมือนกัน และน.ส.ฝนถามว่า "ถ้าไปหาแล้วจะทำอะไร" เสียงผู้ชายตอบกลับว่า "มาเถอะน่า อยากเห็นหน้าแล้วจะให้... รอที่เดิมแหละ" และในวันนั้น น.ส.ฝนก็ไม่ได้ไปหาครูคนดังกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์