ในหลวงทรงห่วงใย ปัญหาควันภาคเหนือ

วานนี้ (25 มี.ค.) นายอำนาจ เดชะ ผู้ดูแลพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่
 
เปิดเผยในการประชุมแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันบนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกับภาครัฐและเอกชนในจังหวัดวันนี้ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน และรับสั่งให้รายงานสถานการณ์ไปยังสำนักพระราชวังเป็นประจำทุกวัน หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นจะพระราชทานฝนหลวงเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน  

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า

ทางจังหวัดเร่งสำรวจป่าทุกอำเภอเพื่อแก้ปัญหาบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะการเผาป่าที่ทำให้เกิดหมอกควัน หากพื้นที่ใดมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้องจะใช้กำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 เข้าสนับสนุน ส่วนคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่วันนี้เริ่มดีขึ้น ฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่าค่ามาตรฐาน โดยที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่วัดได้ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์วัดได้ 119 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 

วันเดียวกัน นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการดูแลผลกระทบสุขภาพประชาชนใน 8 จังหวัดภาคเหนือ จากปัญหาฝุ่นละอองหมอกควันไฟ ว่า

ได้สั่งการกรมควบคุมโรคสำรองหน้ากากอนามัยจำนวน 200,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีปัญหาปริมาณฝุ่นหมอกควันสูงเกินค่ามาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้สูดฝุ่นควันเข้าร่างกาย ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า มีปัญหามลพิษทางอากาศ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือที่เรียกว่าพีเอ็มเทน (PM10) เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งตรวจวัดโดยกรมควบคุมมลพิษ โดยปริมาณฝุ่นละอองจะแตกต่างกันในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม ได้ให้สถานพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่สถานีอนามัยจนถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกแห่ง เฝ้าระวังปัญหาการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ และให้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานพยาบาลแต่ละแห่งมียาและเวชภัณฑ์อยู่แล้ว สามารถให้การรักษาได้ทันที นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุข รณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านเผาป่า เผาขยะหรือเผาหญ้า  เพื่อลดจำนวนฝุ่นละอองในอากาศให้น้อยลง และลดผลกระทบต่อสุขภาพ              

ด้าน นพ.ธวัช  สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า

จากการเฝ้าระวังจำนวนผู้เจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ยังไม่พบผิดปกติ เช่น ที่จังหวัดลำพูน ตลอดเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 มีทั้งหมด 29,190 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีจำนวน 29,200 คน กรมควบคุมโรคได้จัดสรรหน้ากากอนามัยให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต 10 จ.เชียงใหม่ และลำพูนจำนวน 50,000 ชิ้น    

ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยว่า ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละอองควันไฟ ไม่ว่าจะสูงเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ก็ตาม
 
กลุ่มประชาชนที่อาจเจ็บป่วยได้ง่ายจากฝุ่นละอองควันไฟ ซึ่งมี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่น ผู้ป่วยโรคหอบหืด ถุงลมปอดโป่งพอง เนื่องจากหากสูดฝุ่นละอองเข้าไปจะกระตุ้นทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น กลุ่มที่ 2 คือผู้สูงอายุ ซึ่งอยู่ในวัยที่อวัยวะในร่างกายเสื่อมลงตามอายุ และกลุ่มที่ 3 คือเด็กเล็ก เนื่องจากยังดูแลตัวเองไม่เป็น ระบบทางเดินหายใจยังเจริญไม่เต็มที่ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมองเห็นว่ามีฝุ่นละอองในอากาศมาก ควรอยู่ในบ้าน งดออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง  ขอให้สวมหน้ากากอนามัย ถ้าไม่มีขอให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาด ๆ ปิดปากปิดจมูก เพื่อช่วยให้กรองฝุ่นละอองได้ดีขึ้น โดยกรมควบคุมโรคได้จัดทำเอกสารแนะนำการดูแลสุขภาพและการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชน แจกจ่ายไปยังโรงพยาบาล สถานีอนามัยใน 8 จังหวัดแล้ว