ประชาชนชาวภูฏานออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างคึกคัก ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัม เกล วังชุก ซึ่งทรงต้องการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ เพื่อปรับเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
การเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรภูฏานครั้งนี้
ทางการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ 5,000 นาย ประจำการตามหน่วยเลือกตั้งและมีคณะผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนานาชาติ 42 ชุด เข้าตรวจสอบความโปร่งใส คาดว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า 300,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 800,000 คน พรรคใหญ่ที่แข่งขันกันมี 2 พรรค คือ พีดีพีและดีพีที แต่อุดมการณ์ 2 พรรคนี้ใกล้เคียงกันมาก โดยนำเสนอนโยบายเร่งพัฒนาถนนหนทาง ระบบสื่อสาร และการบริการต่างๆ ของรัฐให้ดีกว่าที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนม.ค. 2551 ชาวภูฏานเพิ่งมีโอกาสลงคะแนนเลือกวุฒิสมาชิก 15 ที่นั่ง เข้าไปทำหน้าที่ร่วมกับวุฒิสมาชิกอีก 5 คน ซึ่งจะได้รับพระราชโองการแต่งตั้งโดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี