ตร.แฉม้งยิงหน.พิทักษ์ป่าสั่งปูนบำเหน็จสูงสุด

ตำรวจเผยม้งหัวรุนแรงในพื้นที่ลงมือสังหารโหดหน.หน่วยอุทยานฯและตำรวจ สภ.วังเจ้า จ.ตาก คาดเกี่ยวพันแก๊งยาบ้าและตัดไม้ทำลายป่า "อนงค์วรรณ" ปูนบำเหน็จขั้นสูงสุด ประธานมูลนิธิสืบฯ โอดเสียมือดีด้านงานอนุรักษ์ป่า ยอมรับทุกคนมเสี่ยงแต่ไม่ท้อ ยันส่งลูกเหยื่อมอดไม้เรียนจบปริญญาตรี ยึดไม้กระยาเลยถูกลำเลี่ยงจากอุทยานทุ่งแสลงหลวง
 

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิงนายวิโรจน์เชื้อขาวพิมพ์ อายุ 52 ปี หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานคลองวังเจ้า-ผาผึ้ง 

ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า บ้านผาผึ้ง หมู่ 6 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก และยิง ส.ต.ท.อนุสรณ์ ตุ้ยนะ อายุ 35 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.วังเจ้า เสียชีวิตขณะนำกำลังเข้าไปตรวจสอบเหตุ
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 มีนาคม

นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าฯ ตาก พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธารินทร์จันทราทิพย์ ผบก.ภ.จว.ตากพล.ต.ต.สมานพรมมา รอง ผบช.ภ.6 นายสุวิทย์รัตนมณี ผอ.สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่12 นครสวรรค์นายโอภาส เพียรสถาพร ผอ.สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่14 ตากและทหารจากหน่วยกองกำลังนเรศวร กองวิทยาการภาค 3 ประชุมร่วมกันเพื่อติดตามคนร้ายและติดตามความคืบหน้าของคดีเนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ การประชุมใช้เวลานานร่วม 4 ชั่วโมงโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและผู้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าฟัง เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี
 

คาดปมยาเสพติด-ลอบตัดไม้
 

รายงานข่าวแจ้งว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าการยิงถล่มตำรวจ สภ.วังเจ้าน่าจะเป็นความตั้งใจของกลุ่มคนร้ายที่หวังล่อให้ตำรวจเข้ามาติดกับเพื่อแก้แค้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ถูกเจ้าหน้าที่กวาดล้างปัญหาอาชญากรรม สิ่งเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอย่างจริงจัง สาเหตุหนึ่งเชื่อว่าน่าจะมาจากความเข้าใจผิดของคนร้ายที่เชื่อว่านายวิโรจน์น่าจะอยู่เบื้องหลังการแจ้งข่าวหรือเป็นสายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมาตำรวจมักจะเข้าไปแวะพักในหน่วยอุทยานฯ เป็นประจำ ส่วนอีกสาเหตุอาจจะมาจากนายวิโรจน์เป็นคนตรงไปตรงมา เคยเข้าไปตักเตือนกลุ่มชาวบ้านไม่ให้แผ้วถาง ตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่อุทยานฯ จึงกลายเป็นชนวนให้ถูกยิงจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ค้นแฟ้มประวัติอาชญากรรมในพื้นที่ อ.วังเจ้าและกลุ่มคนร้ายที่ใช้อาวุธสงคราม เชื่อว่าน่าจะพบเบาะแสคนร้ายในลักษณะเดียวกัน
 

มีรายงานด้วยว่าในพื้นที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้เคยเป็นแหล่งพักยาเสพติด 

ก่อนที่จะกระจายไปหลายจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ยาบ้าส่วนใหญ่ทะลักเข้ามาจากชายแดน อ.แม่สอด อ.พบพระ โดยกองทัพมดขนยาบ้า มักจะเข้ามาพักที่หมู่บ้านปางสังกะสี และหมู่บ้านผาผึ้ง ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า บ่อยครั้ง จากการปราบปรามอย่างหนักทำให้ขบวนการยาบ้าโกรธแค้น จึงตอบโต้ด้วยการทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พอรู้เบาะแสบ้างแล้วว่าคนร้ายเป็นกลุ่มชาวเขาเผ่าม้งหัวรุนแรงในหมู่บ้านผาผึ้ง ที่เคยดักยิงเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บมาแล้ว 2 ครั้งจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 นายวิโรจน์เคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์เพื่อข่มขู่มาแล้วครั้งหนึ่งจึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจเป็นกลุ่มเดียวกัน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปทางชายแดนไทย-พม่าด้าน อ.พบพระเพื่อข้ามไปยังฝั่งพม่ากับกลุ่มขบวนการยาเสพติดแล้ว
 

นายสุวิทย์รัตนมณี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่12 นครสวรรค์กล่าวว่า 

การเสียชีวิตของนายวิโรจน์มีสาเหตุมาจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการปราบปรามผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและบุกรุกที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ทำให้ผู้เสียผลประโยชน์คิดปองร้ายและถือโอกาสที่เจ้าหน้าที่เผลอลอบยิงจนเสียชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่เสียขวัญ ไม่กล้าออกไปปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเหลือเจ้าหน้าที่เพียง 4 นายเท่านั้นอีกทั้งยังขาดแคลนทั้งอาวุธและกำลังสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่และอาวุธเข้าไปเสริมแล้ว
 

ช่วงบ่ายวันเดียวกันพ.ต.อ.สุรัตน์บุญกำเนิด สบ.4 กองวิทยาการ3 นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพรถตราโล่สายตรวจป้องกันปราบปราม202 

สภ.วังเจ้ายี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูทะเบียน 33954 เพื่อหาวิถีกระสุนปืนพบว่าเป็นอาวุธปืนอาก้า ขนาด 7.62 มม.ยิงเข้าใส่กระจกฝากระบะท้าย ไฟสัญญาณบนหลังคาและมุมขอบเก๋งหลังด้านบนซ้าย รวม 4 นัดเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุบนถนนสายนาโบสถ์-ผาผึ้งเบื้องต้นพบว่าเป็นกระสุนปืนที่ใช้ยิงจากกระบอกปืนชุดเดียวกัน สันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คนและเชื่อว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนอาก้ารุ่นเก่า ซึ่งยิงได้ทีละนัด ขณะที่การตรวจพิสูจน์หลักฐานรอยกระสุนปืนตามร่างกายของนายวิโรจน์ พบบาดแผลที่บริเวณหน้าอก เป็นรอยกระสุนปืนขนาดเล็ก แต่ไม่พบปลอกกระสุนปืนตกในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนขนาด .22 ซึ่งยิงในระยะไกลจากบริเวณป่าด้านหน้าอุทยานฯ 

วันเดียวกันนางสงบ เชื้อชาวพิมพ์ อายุ 67 ปีมารดาของนายวิโรจน์ เดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่วัดประตูขาว ต.สะเดียงอ.เมืองจ.เพชรบูรณ์ส่วนศพ ส.ต.ท.อนุสรณ์ญาติได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด หมู่ 9 บ้านปางส่านต.ด่านแม่ละเมาอ.แม่สอดจ.ตากพร้อมกับจะขอพระราชทานเพลิงศพในวันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคมนี้
 

 ทบทวนขอปืนให้จนท.อุทยานฯ
 

นางอนงค์วรรณเทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า

 ได้สั่งการให้นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าไปดูแลช่วยเหลือครอบครัวนายวิโรจน์อย่างเต็มที่เป็นกรณีพิเศษ เท่าที่ทราบนายวิโรจน์เป็นผู้ที่ทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการดูแลปราบปรามป้องกันอย่างเต็มที่ และเคยถูกปองร้ายมาแล้ว กระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัว กระทรวงจะปูนบำเหน็จขั้นสูงสุดให้ นอกเหนือจากสวัสดิการที่ได้รับอยู่แล้ว ส่วนเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจะมี 2 ส่วน คือ จากสวัสดิการ 1 แสนบาท และเงินประกันชีวิตอีก 1 แสนบาท
 

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า 

ที่ผ่านมาได้รับทราบมาตลอดว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งกรมป่าไม้ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับกลุ่มนายทุนและผู้บุกรุกเข้ามาทำลายทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่ามาก แต่ยังมีปัญหาเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในการป้องกันปราบปราม โดยเฉพาะอาวุธปืน ซึ่งกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลที่แล้วมีการขอคืนปืนเอชเค 33 สำหรับใช้ในการตรวจลาดตระเวนป่ากลับคืนไปประมาณ 1,000 กระบอก เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ กรมอุทยานฯ ก็เคยทำหนังสือเพื่อให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเจรจากับกระทรวงกลาโหมมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้หารือกับทางกลาโหม
 

เหตุการณ์การยิงบุคลากรของกรมอุทยานฯครั้งนี้ มาจากปัญหาการบุกรุกป่าที่เกิดขึ้นมากในขณะนี้ 

ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะมีการทบทวนการขอใช้อาวุธปืนจากกระทรวงกลาโหมเร็วๆ นี้ พร้อมกับอาจนำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นถึงปัญหาและความจำเป็นของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั่วประเทศด้วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าว
 

โอดเสียมือดีด้านงานอนุรักษ์ป่า
 

นางรตยาจันทรเพียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นการสูญเสียบุคลากรที่สำคัญของวงการอนุรักษ์ป่า เนื่องจากนายวิโรจน์มีความเชี่ยวชาญด้านแผนที่ภูมิศาสตร์ในพื้นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ และทำงานร่วมกับมูลนิธิสืบฯ มากว่า 5 ปี โดยเฉพาะการทำงานด้านมวลชนเน้นส่งเสริมและสร้างความเข้าใจเพื่อให้ชุมชนเป็นมิตรกับป่า และไม่รบกวนทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าในปัจจุบัน แต่ยอมรับว่าพื้นที่เกิดเหตุบริเวณบ้านผาผึ้งและบ้านปางสังกะสี ถือเป็นจุดเสี่ยงและมีอันตรายมาก เป็นเส้นทางยาเสพติดและกระบวนการตัดไม้ทำลายป่า

"ทางมูลนิธิสืบฯ เสียใจมากต่อการสูญเสียนายวิโรจน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ปฏิบัติงานอยู่แถวหน้า และมีความรู้เกี่ยวกับผืนป่าตะวันตกอย่างดี แต่ยิ่งทำงานด้านอนุรักษ์มีประสิทธิภาพมากเท่าใด ก็ทำให้ขัดผลประโยชน์คนบางกลุ่มมากเท่านั้น โอกาสเสี่ยงอันตรายก็มีสูง ประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างเข้าใจและยอมรับชะตากรรม แต่พวกเรายืนยันว่าไม่ท้อ แม้ว่าในอนาคตอาจเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้กับใครก็ตาม เราพร้อมจะยืนหยัดสู้กับอิทธิพลมืด เพื่อรักษาผืนป่าของเมืองไทยต่อไป" นางรตยากล่าว
 

ประธานมูลนิธิสืบฯกล่าวอีกว่า 

ส่วนความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้น เบื้องต้นกองทุนผู้พิทักษ์ป่าของมูลนิธิสืบฯ พร้อมยื่นมือเข้ามาดูแลเรื่องการศึกษาของ ด.ญ.วิภาพร เชื้อขาวพิมพ์ อายุ 14 ปี ลูกสาวของนายวิโรจน์ เพื่อให้มีโอกาสเล่าเรียนถึงระดับปริญญาตรี
 

ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงจ.สุราษฎร์ธานี 

ปะทะกับคนร้ายที่ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ช่องรอยต่อเขตป่าสงวนแห่งชาติท่าชนะ ทำให้คนร้ายได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายมานพ งามประดิษฐ์ อายุ 25 ปี นายสุรชัย ณะนากูล อายุ 37 ปี และสามารถจับกุมได้อีก 1 คน คือนายสุทธิพงศ์ อินทกูล อายุ 27 ปี  ล่าสุด นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้สั่งตั้งชุดไล่ล่าติดตามขยายผลจับกุมผู้ที่หลบหนีไปได้อย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะนี้พื้นที่ป่าของ จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถูกบุกรุกโดยกลุ่มต่างๆ ประมาณปีละ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะต้องลดลงให้เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ ให้ได้
 

ยึดไม้กระยาเลยถูกลำเลี่ยงจากอุทยานทุ่งแสลงหลวง
 

วันที่ 24 มีนาคม พ.ต.อ.ปรีชา หงส์จร ผกก.กก.ตชด.31 ค่ายเจ้าพระยาจักรี จ.พิษณุโลก นายสุรินทร์ เหมือนฤทธิ์ ปลัดอาวุโสอ.วังทอง จ.พิษณุโลก และนายธนพล บุญยงค์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สนธิกำลังนำเจ้าหน้าที่อส. ตชด.และป่าไม้ 30 นาย ออกตรวจสอบการลักลอบตัดไม้บริเวณบ้านปากน้ำปอย หมู่ที่ 16 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการลักลอบตัดไม้ขนาดใหญ่จำนวนมาก และกำลังรอจังหวะเตรียมขนย้ายออกไปแปรรูป
 

 ที่เกิดเหตุพบว่า มีไม้กระยาเลย ที่ประกอบด้วยไม้ประดู่ ไม้เต็ง-รัง จำนวนหลายต้นถูกเลื่อยยนต์โค่นลงมา และมีการซอยเป็นท่อน ความยาวท่อนละประมาณ 4-5 เมตร แต่ละท่อน วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 70-100 เซนติเมตร อายุแต่ละต้นเกิน 100 ปีขึ้นไป รวมไม้ที่ตรวจสอบพบจำนวน 22 ท่อน ระหว่างตรวจสอบไม่พบผู้กระทำผิด
 

 แต่จากการจับพิกัดในแผนที่พบว่า พื้นที่ดังกล่าว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นพื้นที่ผ่อนปรนให้ราษฏรที่อยู่อาศัยมานานได้ทำกินในบริเวณดังกล่าวได้ชั่วคราว และพบว่า ตามผังแสดงพื้นที่ทำกินราฏรแปลงสำรวจ CN 6 อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ท้องที่บ้านปากน้ำปอย หมู่ที่ 16 ต.วังนกแอ่น เป็นแปลงของนางปราณี เหล่าเรืองรินทร์ มีเนื้อที่ 28 ไร่ ระหว่างตรวจสอบไม้ที่ถูกโค่น ไม่พบตัวนางปราณี เจ้าหน้าที่จึงได้ยายัดไม้ของกลางทั้งหมดและทำการสืบหาผู้กระทำผิดต่อไป
 

 นายสุรินทร์ เหมือนฤทธิ์ ปลัดอาวุโสอ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า

นายอำเภอวังทองได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ดังกล่าว ที่แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ผอ่นปรนให้ราษฎรทำกินในเขตอุทยาน แต่ผู้ทำกินก้ไม่มีสิทธิ์ตัดต้นไม้ได้ ขณะที่ฝ่ายอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ก็ทราบข้อมูลมาแล้วร่วมสัปดาห์ ได้มาทำการตรวจสอบเบื้องต้นและจัดเจ้าหน้าที่มาซุ่ม เพื่อเตรียมจับในขณะมาลำเลียงออก แต่คาดว่ากลุ่มมอดไม้คงไหวตัวทัน ไม่เข้ามานำไม้ออก จึงตรวจยึดของกลางไว้ และเตรียมหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป