เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าว จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่บ้านชะไว ต.ชะไว อ.ไชโย จ.อ่างทอง ว่า
ขณะนี้แมวที่เลี้ยงได้ทยอยล้มตายอย่างต่อเนื่องจนแทบจะหมดทั้งหมู่บ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเดินไปพบนายธนากร เดชพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ชะไว เจ้าของพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายธนากรได้พาผู้สื่อข่าวไปยังบ้านของนายอามาดีน มหิงสุพรรณ์ พบว่าแมวที่เลี้ยงไว้กำลังป่วยตัวซูบผอมนอนซมอาการโคม่าอยู่ในบ้าน
นายอามาดีนเปิดเผยว่า ตามหลักศาสนาชาวอิสลามมักจะนิยมเลี้ยงแมว ไม่เลี้ยงสุนัข
ส่วนใน ต.ชะไว ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านเลี้ยงแมวไว้ประมาณ 500-600 ตัว โดยเฉพาะที่บ้านตนเลี้ยงไว้ร่วม 10 ตัว เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สังเกตเหตุแมวที่เลี้ยงไว้เริ่มมีอาการเซื่องซึมผิดปกติ ไม่กินอาหาร กับมีน้ำลายไหลยืด และอาเจียนมีเลือดปนออกมามีกลิ่นเหม็น เพียงวันเดียวก็ตายไป จากนั้นได้ทยอยล้มตายลงจนขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2 ตัว ขณะเดียวกันแมวของชาวบ้านในหมู่บ้านเลี้ยงไว้ก็ทยอยล้มตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน คาดว่ารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 300-400 ตัว ส่วนแมวที่ตายจะถูกนำซากไปฝังกลบเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
นายอามาดีนเปิดเผยด้วยสีหน้าสลดหดหู่ว่า
ช่วงเช้าวันเดียวกัน แมวของตนชื่อ “เจ้าลาย” ที่เหลืออยู่ก็เริ่มมีอาการล้มป่วยนอนซม พอตกบ่ายก็ทรุดหนักเดินไม่ไหว จึงพาไปให้สัตวแพทย์ตรวจรักษา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นคาดว่าโอกาสที่จะรอดมีน้อยมาก นายประจวบ รุ่งกำจัด อดีตผู้สมัคร ส.ส.สิงห์บุรี พรรคไทยเป็นไทย อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.ชะไว ผู้ที่ รักสัตว์เลี้ยงและชื่นชอบแมวเป็นพิเศษ เปิดเผยว่า ที่บ้านของตนได้เลี้ยงแมวไว้ 20 ตัว จู่ๆก็ล้มตายไปจำนวน 18 ตัว ตอนนี้เหลือเพียง 2 ตัวเท่านั้น และได้จับขังกรงเอาไว้บนบ้าน ไม่ให้ออกไปนอกบ้าน เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อโรคล้มตายไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากในพื้นที่ ต.ชะไว แล้วในพื้นที่หมู่ 1 ต.จรเข้ร้อง และหมู่ 1 ต.หลักฟ้า ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน ก็มีแมวของชาวบ้านทยอยล้มตายลงจำนวนนับร้อยตัวเช่นกัน
โดยนายโสภณ งามรุ่งโรจน์ อดีตเทศมนตรีเทศบาลตำบลจรเข้ร้อง เปิดเผยว่า ได้เลี้ยงแมวไว้ 5 ตัว ล้วนเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียที่มีราคา แพงมาก และแมวทั้งหมดได้ล้มป่วยมีอาการเซื่องซึมและอาเจียนเพียง 2 วัน ก็ตายไปหมดเกลี้ยงทั้ง 5 ตัว ด้านนายธนากร เดชพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ชะไว อ.ไชโย เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งว่าแมวของลูกบ้านทยอย ตายมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้รวมแล้ว กว่า 300 ตัว จึงแจ้งให้นายอำเภอไชโยทราบและได้ประสาน ไปทางปศุสัตว์อำเภอไชโยส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เบื้องต้น คาดว่าน่าจะติดเชื้อโรคปากเท้าเปื่อย พร้อมทั้งแนะนำให้ นำซากแมวที่ตายฝังกลบทันทีเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ระบาด แต่ก็ยังมีแมวล้มตายลงจนเกือบหมดทั้งตำบล จนทำให้ ประชาชนต่างวิตกกังวล เนื่องจาก ต.ชะไว เป็นแหล่งผลิต เนื้อวัวรายใหญ่ส่งขายในพื้นที่ จ.อ่างทอง และใกล้เคียง รวมทั้งในกรุงเทพฯ อาจทำให้เกรงว่าเชื้อโรคร้ายจะลามไปติดวัว-ควาย จนชาวบ้านไม่กล้าสั่งซื้อเนื้อในพื้นที่ ต.ชะไว ไปบริโภค ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ ผู้ค้าโค-กระบือ
ส่วนนายสุรชน ต่างวิวัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า
ได้รับรายงานเรื่องแมวของชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไชโย ล้มตายแล้ว และได้สั่งให้นายนิรันดร์ มังคลาทร ปศุสัตว์อำเภอไชโย และนายอมรเทพ ทองเชื้อ เจ้าพนักงานสัตวบาล เดินทางไปตรวจสอบพร้อมทั้งขอซากแมวที่ตาย รวมทั้งแมวของนายอามาดีนที่ล้มป่วยส่งไปตรวจหาสาเหตุ ที่ศูนย์ตรวจสถาบันสุขภาพสัตว์ กรมปศุสัตว์ พร้อมทั้ง นำยาฆ่าเชื้อไปฉีดพ่นทั่วพื้นที่ ส่วนที่ชาวบ้านลือกันว่า แมวที่ตายเกิดจากการติดเชื้อโรคไข้หวัดแมวนั้น ขอยืนยัน ว่า ขณะนี้ยังไม่มีโรคไข้หวัดแมว ส่วนสาเหตุที่ทำให้แมวตายเป็นจำนวนมาก เท่าที่ดูจากอาการเชื่อว่าน่าจะเกิด จากการติดเชื้อไวรัสโรคหัดแมว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจ สอบขณะนี้พบว่า การตายของแมวมีปริมาณลดลง สำหรับการป้องกันเชื้อไวรัสโรคหัดนั้น ทางกรมปศุสัตว์ไม่มีวัคซีนสนับสนุน เพราะแมวไม่ใช่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ทางเจ้าของแมวต้องพาแมวไปให้สัตวแพทย์ฉีดยาป้องกันโรคด้วยตนเอง