โจรปล้นปั๊มอาละวาดเมืองชลเผยเป็นโจรสูง-เตี้ย ทำทีเป็นเติมน้ำมันก่อนใช้ลูกซองจี้ชิงเงินจากเด็กปั๊มไปกว่า 6 พันบาท ใช้เวลาลงมือไม่ถึงนาที ตร.เปิดภาพวงจรปิดล่าตัว มั่นใจเป็นคน ในพื้นที่ ส่วนปั๊มที่เกิดเหตุถูกปล้นมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว อีกคดีลงมือกลางวันแสกๆ ใช้ปืนจี้ได้ไปอีกหมื่นบาท
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 22 มี.ค.
พ.ต.ท.อภิมุข อำนาจมั่นคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา (สาขาย่อยโค้งดงตาล) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาพัทยาใต้ เลขที่ 80/2 หมู่ที่ 12 ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งสัตหีบขาเข้าพัทยา เยื้องหน้าโรงเรียนเมืองพัทยา 7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก., พ.ต.ต. ภาสกร ไพจิตต์ สว.สป., พ.ต.ต.วิทยา ยืนยง สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุพบนายบุญถนอม ทองใบ อายุ 26 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.4 ต.เขาพระงาม อ.เมือง ลพบุรี ผู้จัดการสาขา พร้อมด้วยพนักงานเติมน้ำมันต่างกำลังช่วยกันตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดที่จับภาพขณะคนร้ายก่อเหตุ โดยในภาพที่บันทึกไว้พบว่าคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีเขียวคาดบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กธ 66 ชลบุรี คนขับรถสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีเขียวอ่อน นุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกแก๊ปกันแดดลายพราง รูปร่างสูงประมาณ 170 ซ.ม. ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายรูปร่างเตี้ยสูงประมาณ 150 ซ.ม. ตัดผมสั้นเกรียนคล้ายสาวทอม แต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีดำแขนเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ ทั้งสองคนสวมรองเท้าผ้าใบ ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 นาที
นายสมควร เกตุแสนสี อายุ 25 ปี อยู่ต.หนองโพธิ์ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม พนักงานเติมน้ำมัน ซึ่งถูกคนร้ายใช้ปืนจี้บังคับชิงเอาเงินไป ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ตนกับนายสุธรรม ทองใบ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 4 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมเพื่อนรวม 4 คน กำลังเติมน้ำมันให้ลูกค้า มีรถเก๋งของลูกค้าประจำขับมาจอดเติมน้ำมันอยู่ที่ช่องบริการ 1-2 เมื่อรถเก๋งเติมน้ำมันเสร็จขับออกไป คนร้ายทั้งสองก็ขับรถจักรยานยนต์มาจากทางสัตหีบเลี้ยวเข้าเติมน้ำมันที่ช่องบริการที่ 3-4
นายสมควรให้การต่อว่า
คนร้ายทำทีจอดรถเติมน้ำมัน 50 บาท หลังจากเติมเสร็จคนร้ายจ่ายเงินให้ 100 บาท ตนจึงทอนเงินให้ไป คนร้ายสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วชักปืนแบบลูกซองสั้นจี้บังคับให้ส่งเงินให้ พร้อมกับกระชากแย่งเอากระเป๋าเก็บเงินแบบคาดบ่าจนขาด ภายในมีเงินจากการเติมน้ำมันกว่า 6,000 บาท โดยคนร้ายลักษณะเตี้ยคอยคุมเชิงทำทีจะชักปืนออกจากเอว จากนั้นทั้งคู่ก็เร่งเครื่องแต่ก่อนจะออกจากปั๊ม คนขับที่มีปืนได้จี้นายสุธรรม เพื่อนพนักงานที่คุมโต๊ะเก็บเงิน แต่เมื่อเปิดดูลิ้นชักมีแต่เงินเหรียญ ทั้งคู่จึบรีบขับออกจากปั๊มน้ำมันโดยย้อนศรไปทางเดิม หนีเข้าซอยชัยพฤกษ์ 2 ฝั่งรับผิดชอบของสภ.บางละมุง ทั้งนี้คนร้ายลงมือรวดเร็วมากใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 นาทีตามที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับไว้ได้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง ออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายแต่ยังไม่พบร่องรอยเบาะแส
อย่างไรก็ตาม พนักงานปั๊มให้ข้อมูลว่าคนร้ายทั้งสองเคยมาเติมน้ำมันบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าทั้งสองน่าจะเป็นวัยรุ่นที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากรู้ระยะเวลาที่ปลอดคนพลุกพล่าน และน่าจะมาเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าวเพื่อดูลาดเลาก่อนลงมือ
สำหรับปั๊มน้ำมันดังกล่าว ถือเป็นปั๊มน้ำมันที่ถูกคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์บ่อยครั้งที่สุดในเมืองพัทยา
เนื่องจากตั้งอยู่นอกตัวเมืองเปลี่ยวกว่าที่อื่น จากสถิติเมื่อปี 2550 เคยถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง และยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยได้ ปี 2551 ก็เคยเกิดเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง แม้ทางปั๊มจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้นานแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนร้ายเกรงกลัวแต่อย่างใด
อีกคดีปล้นปั๊ม วันเดียวกันเวลา 10.00 น.
พ.ต.ต.วินัย โห้เหรียญ พนักงานสอบสวน สภ.บาง ละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงเงินเด็ก ปั๊มน้ำมันเจ็ท ของบริษัทปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด สาขาชลบุรี-พัทยา เลขที่ 11015 ริมถ.สุขุมวิท ฝั่งขาเข้าสัตหีบ พัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.
ที่เกิดเหตุเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ บริเวณหน้าร้านจิฟฟี่
ซึ่งเปิดเป็นมินิมาร์ทประจำปั๊ม พบนายวิษณุ นาสวนกำจร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตำแหน่ง ผจก. ลานหัวจ่าย ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยความตื่นตระหนก เนื้อตัวสั่นเทา หลังตั้งสติได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะยืนเติมน้ำมันให้กับลูกค้าบริเวณหัวจ่ายล็อกแรกติดกับถนนสุขุมวิท ระหว่างนั้นมีชายวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ มาจอดใกล้ๆ ตน คนขับสวมหมวกกันน็อกสีขาวแบบเต็มใบ สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อคลุมสีแดง สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ กางเกงยีนส์เหมือนกัน
นายวิษณุกล่าวอีกว่า
จากนั้นคนนั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนสีดำไม่ทราบขนาด ออกมาจี้ศีรษะบังคับเอากระเป๋าสะพายสีดำที่คล้องคออยู่ ภายในมีเงินสดที่ได้จากการเติมน้ำมันประมาณ 10,000 บาท ขณะที่คนร้ายกำลังจะหลบหนียังไปจี้เอาเงินของชายชาวต่างชาติที่กำลังกดตู้เอทีเอ็มอยู่บริเวณข้างร้านจิฟฟี่ ทำ ให้ชายต่างชาติคนดังกล่าวถึงกับตกใจวิ่งหนีแบบไม่ คิดชีวิต คนร้ายจึงเร่งเครื่องหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.สัตหีบ อย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.สรายุทธเปิดเผยว่า
คดีนี้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของคนร้ายไว้ได้ แต่ตำรวจเองก็ยังไม่ได้รับภาพ เพราะต้องรอผู้บริหารระดับสูงของปั๊มอนุมัติ แต่ทราบว่าทางปั๊มจะดำเนินการก๊อบปี้ภาพวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ส่งให้กับตำรวจในภายหลัง เบื้องต้นส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป