เมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 21 มี.ค. ร.ต.อ.เมธา รัตนวรุณรัตน์ ร้อยเวร สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันบริเวณสี่แยกบ้านกกโอ ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก หมู่ 4 บ้านน้ำชุน ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฏากุล ผกก. นำกำลังตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัย ไปให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพฟอร์ดแรนเจอร์
สีน้ำเงินเทา ทะเบียน บฉ 9392 เลย ถูกชนข้างด้านซ้ายจนรถพังยับเยินพลิกตะแคง โดยมีเสาสัญญาณไฟจราจรหัก 1 ต้น ท่ามกลางผู้บาดเจ็บจำนวนมากนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่เกลื่อนถนน ตำรวจและหน่วยกู้ภัยจึงช่วยเหลือลำเลียงส่ง รพ.หล่มสัก
ส่วนคู่กรณีเป็นรถปิกอัพอีซูซุ สีน้ำเงิน
ทะเบียน บพ 5045 เพชรบูรณ์ สภาพด้านหน้าพังยับ คนขับชื่อนายโกทัณฑ์ หรือ ธนวัฒน์ ศักดิ์เจริญชัยกุล อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 100/231 หมู่ 13 ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยมีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคือ นางพิศมัย ศักดิ์เจริญชัยกุล อายุ 33 ปี ภรรยา และ ด.ญ.เตตินันท์ ศักดิ์เจริญชัยกุล ลูกสาววัย 10 ขวบ ส่วนที่กระบะท้ายมีญาติอีก 2 คนคือนางปิยาภรณ์ เสนชัย อายุ 38 ปี และ ด.ญ.นภาลัย แสนหาญ อายุ 11 ขวบ ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน
นายธนวัฒน์ให้การว่า
ขับรถพาลูกเมียและญาติมุ่งหน้าไป ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ เมื่อมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุมีสัญญาณไฟจราจรกะพริบสีเหลือง ไม่มีสัญญาณไฟเขียวหรือไฟแดง จึงชะลอรถ แต่จังหวะนั้นรถปิกอัพฟอร์ดวิ่งผ่านมาตัดหน้าพอดี เบรกไม่อยู่พุ่งชนเข้ากลางลำอย่างจังจนกระเด็นพลิกคว่ำหลายตลบ
ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบที่ รพ.หล่มสัก มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง 14 คน
ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารที่มากับรถปิกอัพฟอร์ด เสียชีวิตในเวลาต่อมา 2 คนคือ นางเกษร มีศรีแก้ว อายุ 39 ปี และ ด.ญ.จุฑาทิพย์ มีศรีแก้ว อายุ 9 ขวบ ลูกสาวของนางเกษร ส่วนที่เหลือ 12 คน มีอาการสาหัส 4 คนคือ นายสมบัติ นามมนุษย์ศรี อายุ 42 ปี นางทองชิด ยงยุทธ อายุ 53 ปี นางไพรัตน์ นามมนุษย์ศรี อายุ 46 ปี และ ด.ญ.วาลิยา ขาวหนู อายุ 10 ขวบ ถูกส่งต่อไปรักษาตัวที่ รพ.เพชรบูรณ์
สอบสวนนายคมเดช ยงยุทธ อายุ 28 ปี พนักงานบริษัทเอ็นโดรฟิน นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ให้การว่า
เป็นว่าที่เจ้าบ่าว นำญาติพี่น้องพร้อมขบวนขันหมากเดินทางจาก จ.เลย จะไปสู่ขอเจ้าสาวเข้าพิธีแต่งงานที่ จ.นครสวรรค์ ในช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค. โดยขับรถปิกอัพไปด้วยกัน 2 คัน กลุ่มคนเจ็บและผู้ตายเป็นคันแรกนำหน้าไปก่อน โดยมีนายประจักษ์ น้าชายเป็นคนขับ ส่วนตนนั่งรถปิกอัพอีกคันตามหลังมา เมื่อมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุเห็นสัญญาณไฟจราจรกะพริบสีเหลือง รถปิกอัพคันนำหน้าที่น้าชายขับจึงชะลอรถ คิดว่าอีกฝ่ายจะชะลอรถเช่นกัน และเห็นว่าอยู่ห่างกันจึงเร่งเครื่องตรงไป แต่กลับไม่พ้นถูกรถคู่กรณีพุ่งชนเข้ากลางลำจนพลิกคว่ำ 3 ตลบ เทกระจาดผู้โดยสารที่นั่งในกระบะท้ายกระเด็นตกรถบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ภายหลังจากว่าที่บ่าวนำญาติส่งโรงพยาบาลแล้ว ได้นำคณะญาติที่เหลือมุ่งหน้าเดินทางต่อไปทำพิธีแต่งงานตามกำหนดที่ จ.นครสวรรค์
ในช่วงเช้าจนเสร็จ จากนั้นจึงเดินทางกลับมาดูแลญาติที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สี่แยกที่เกิดเหตุถูกขนานนามว่าสี่แยกผีสิง เพราะมักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมกรมทางหลวงมีไฟสัญญาณไฟจราจรไว้แต่กลับเปิดเป็นไฟกะพริบไม่ยอมเปิดไฟเขียวไฟแดง ทางด้านคดีตำรวจได้ประสาน ตำรวจวิทยาการมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นได้อายัดตัวคนขับรถทั้ง 2 คันไว้สอบสวนดำเนินคดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
