เผ่นกระเจิงกันทั้งศาลาวัด สาวเมืองคอนหายไปจากบ้านนานหลายวัน
แม่พาคนออกตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ บังเอิญไปพบศพหญิงสาวถูกฆ่าตาย รูปร่างหน้าตาคล้ายลูกสาว มีแผลเป็นที่ข้อมือเหมือนกัน เลยคิดว่าใช่แน่ เลยขอตำรวจนำศพกลับมาตั้งสวดที่วัด ผ่านไป 2 คืน จู่ๆ ลูกสาวโผล่มากลางงานศพ ทำเอาญาติพี่น้องแขกเหรื่อวงแตก นึกว่าผีหลอกกลางวัน สุดท้ายรู้ว่ายังไม่ตายจริง ที่หนีออกจากบ้านเพราะไม่สบายใจ ไปอยู่กับเพื่อนต่างอำเภอ แต่ทนคิดถึงลูกไม่ไหวเลยกลับมา ส่วนศพผู้หญิงในโลงไม่รู้เป็นใคร ต้องส่งกลับไปให้ตำรวจเก็บไว้รอญาติตัวจริงมารับ
เหตุการณ์พิลึกพิลั่นหญิงสาวโผล่กลางงานศพตัวเองครั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.
วันที่ 21 มี.ค. นายมนัส เพ็งสุทธ นายอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากนางบุญธรรม สุดชู อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 7 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน อาชีพทำสวนยางพารา ว่า นางดวงแข สุดชู อายุ 30 ปี ลูกสาวที่หายตัวจากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. แล้วทางบ้านเข้าใจผิดว่าคือศพที่ถูกฆ่า จึงทำพิธีศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลำนาว แต่แล้วจู่ๆ นางดวงแข ได้มาปรากฏตัวกลางงานศพท่ามกลางความตกใจของญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน โดยนางดวงแข ยืนยันว่าตนเองยังไม่ได้เสียชีวิต จึงขอให้เดินทางมาตรวจสอบและคืนสถานภาพให้ว่ายังไม่ตาย
หลังรับแจ้ง นายมนัส จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดลำนาว พบนางบุญธรรม พร้อมด้วยญาติพี่น้อง และนางดวงแข
จากการสอบถามนางบุญธรรม เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า นางดวงแขหายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ตนและลูกชายออกติดตามไปตามสถานที่ต่างๆ แต่ไม่พบ ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีผู้พบศพผู้หญิงถูกฆ่าทิ้งอยู่หนองน้ำ หมู่ 2 ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจนำศพมาฝากเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
เผ่นกระเจิงศาลาวัด ผวาผีสาว! โผล่งานศพตัวเอง
นางบุญธรรมกล่าวต่อว่า พวกตนจึงพากันเดินทางไปดูศพพบว่าเป็นคนรูปร่างอ้วน สูงใหญ่เหมือนกับนางดวงแข
โดยเฉพาะที่ข้อมือขวามีรอยแผลจากมีดบาดเหมือนกัน จึงเชื่อว่าคือศพลูกสาวแน่นอน จึงแจ้งกับ พ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าของคดี เพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดลำนาว ทำพิธีสวดมาแล้ว 2 คืน วันที่ 19 และ 20 มี.ค. กระทั่งช่วงกลางวันของวันเดียวกันนี้ จู่ๆ นางดวงแขก็ปรากฏตัวที่บ้าน ตอนนั้นตนยังอยู่ที่วัด บรรดาญาติพี่น้องพากันตกใจมาก คิดว่าผีหลอกกลางวันแสกๆ กระทั่งนางดวงแขเล่าความจริงให้ฟัง
นางบุญธรรมกล่าวอีกว่า ต่อมานางดวงแขตามมาพบตนที่วัด
ขณะนั้นพระกำลังฉันเพลอยู่ และมีคนมาร่วมงานศพหลายสิบคน เมื่อนางดวงแขมาถึง ทั้งพระและแขกเหรื่อพากันตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน คิดว่าผีหลอก รวมทั้งตนด้วย นางดวงแขจึงบอกกับทุกคนว่ายังไม่ตาย และศพที่อยู่ในโลงไม่ใช่ตนเอง สักพักเมื่อหายตกใจและตั้งสติได้ก็เริ่มกล้าเข้าไปใกล้ จับตัวจึงรู้ว่าเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ผี ส่วนศพในโลงไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงขอให้นายอำเภอมาจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และคืนสถานภาพให้ลูกสาว
ด้านนายมนัส กล่าวว่า งานศพคืนแรก ตนยังเดินทางมาร่วม เพราะเห็นว่าเป็นคนในพื้นที่และเป็นเหตุการณ์สลด
เพราะหายไปจากบ้านแล้วกลายเป็นศพถูกฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม แต่เมื่อเป็นการเข้าใจผิด ก็จะนำนางบุญธรรม และนางดวงแข ไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ที่สภ.บางขัน เพื่อได้ประสานงานตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ สืบสวนหาญาติคนตายในโลงต่อไป โชคดีที่นางดวงแขโผล่มาตอนกลางวัน หากโผล่มาตอนกลางคืนคงจะแตกตื่นกันมากกว่านี้ สอบถามนางดวงแขว่าช่วงที่หายไปอยู่ที่ไหน นางดวงแขบอกว่ามีปัญหาส่วนตัวและไม่สบายใจ จึงไปหาเพื่อนและทำงานที่อ.ทุ่งสง ระหว่างนั้นคิดถึงลูกทั้ง 2 คนที่ทิ้งไว้ให้อยู่กับแม่ จึงกลับมา ส่วนสามีเลิกร้างกันไปนานแล้ว
พ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า
ได้รับการประสานจากทาง สภ.บางขันแล้ว ก่อนจะประสานไปยังมูลนิธิสยามร่วมใจ เพื่อไปรับศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลำนาว มาเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง เหมือนเดิม เพื่อรอญาติจริงๆ มาติดต่อขอรับศพ พร้อมทั้งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ เรื่องที่เกิดขึ้นแปลกมาก เพราะตอนที่นางบุญธรรมมารับศพนั้น ก็ยืนยันหนักแน่นว่าจำรูปพรรณสัณฐานได้ว่าเป็นลูกสาวที่หายไป จึงให้รับศพไปบำเพ็ญกุศล