หลังจากมีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมสัตว์ในสวนสัตว์ เปิดซาฟารีปาร์ค เลขที่ 40/2 หมู่ 5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอยจ.กาญจนบุรี แล้วพบว่าสัตว์หลายตัวมีลักษณะซูบผอมไม่สมบูรณ์ราวกับอดอยากไม่ได้กินอาหาร และยังสกปรกขนหลุดมองดูคล้ายเป็นโรคผิวหนัง จึงแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งมูลนิธิเพื่อสัตว์ป่าให้เข้าไปช่วยเหลือ
ขณะที่ผู้บริหารของสวนสัตว์เผยว่า
เคยทำธุรกิจค้าพลอยมีฐานะร่ำรวย ต่อมาลงทุนสร้างสวนสัตว์เปิด ซื้อที่ดินและสัตว์ไป 360 ตัว ใช้เงินกว่า 250 ล้านบาทระยะแรกกิจการไปได้ดี แต่ถูกพนักงานบัญชีโกงเงินไปจำนวนมาก ประกอบกับนักท่องเที่ยวลดลงทำให้ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ ซึ่งต้องใช้ประมาณ 2 หมื่นบาทต่อวัน แต่ยังหาอาหารมาให้สัตว์กินประทังชีวิต เช่น สิงโตปกติต้องกินเนื้อวันละ 5 กิโลกรัม ก็ได้กินแค่โครงไก่ หรือกวางก็ให้กินข้าวโพดแทน พร้อมกับขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ โดยอาจต้องขายทิ้งเพื่อนำเงินมาใช้หนี้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มี.ค.
นายถิน พิสูจน์ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 7 ส่วนอนุรักษ์ สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วยสัตวแพทย์หญิงลักษณา ประสิทธิ์ชัย สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปที่สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค นายปัญญา ประสพสุขโชคมณี และนางพรกนก ประสพสุขโชคมณี ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการบริหารนำคณะทั้งหมดขึ้นรถดูทั่วบริเวณและตรวจดูสัตว์ชนิดต่างๆ
หลังจากนั้นนายถิน พิสูจน์ เปิดเผยว่า
สวนสัตว์มีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกต้อง จะดูว่ามีอะไรที่พอช่วยได้บ้าง เบื้องต้นพบว่าโครงสร้างบางส่วนอาจต้องปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับการดำรงชีวิตของสัตว์เหล่านี้
ส่วนสัตวแพทย์ หญิงลักษณา ประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า
สัตว์ส่วนใหญ่แข็งแรงพอสมควร บางตัวที่มีรอยช้ำ หรือขนหลุด อาจมาจากการที่สัตว์ทะเลาะกัน เพราะแย่งอาหารที่นักท่องเที่ยวนำไปให้ ต้องแยกสัตว์เหล่านี้ออกจากกันต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.ปิยาภัสร์ นครชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาและนายไซม่อน เพอร์เวอร์ ชาวอังกฤษ เจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าจังหวัดเพชรบุรี นำผลไม้และอาหารสัตว์ใส่รถกระบะ 1 คัน มามอบให้ โดย น.ส.ปิยาภัสร์กล่าวว่า จะประสานกับผู้บริหารสวนสัตว์ว่า ต้องการให้จัดทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือหรือไม่ โดยพร้อมให้การช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
ด้านนายปัญญาและนางพรกนก ประสพสุขโชคมณีประธานและรองประธานกรรมการ สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค กล่าวว่า
ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่พยายามช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้บริหารจะขอยืนหยัดสู้ต่อไปพร้อมกับคนงานกว่า 300 ชีวิต ทุกวันนี้เป็นหนี้หลายสิบล้านบาท และยังเป็นหนี้คนงานของตัวเองด้วย แต่หากมีใครต้องการซื้อ ก็คงขายประมาณ 300 ล้านบาทเพื่อนำเงินไปใช้หนี้
“อยากฝากบอกผู้ที่จะซื้อสวนสัตว์แห่งนี้ว่าจะต้องดูแลเอาใจใส่เหมือนผม แม้จะขาดทุนมาตลอดก็ตาม ผมยอมรับว่าไม่มีทุนในการโฆษณา ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่าที่นี่มีสวนสัตว์เปิด หากมีทุนในการประชาสัมพันธ์ที่ดีคงช่วยได้มาก ทุกวันนี้ขาดทุนตลอดเป็นเวลา 13 ปีแล้ว ได้แต่พยุงตัวเองมาเรื่อยๆ และอยากขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่ช่วยเหลืออีกครั้ง” นายปัญญากล่าว
ส่วนนายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า
สั่งให้นายชัยภัทร สุนทรหงษ์ นายอำเภอบ่อพลอย ประสานกับผู้บริหารของสวนสัตว์เพื่อให้ความช่วยเหลือเช่น อาหารและการฉีดวัคซีน แต่จะดำเนินการมากนักคงไม่ได้เพราะเป็นของเอกชน อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของยินดีให้หน่วยราชการช่วยเหลือ ก็พร้อมดำเนินการเท่าที่ทำได้ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.กาญจนบุรี และจะประสานกับการท่องเที่ยวฯแจ้งให้ทราบว่าสวนสัตว์เปิดแห่งนี้มีสัตว์นานาชนิดเหมาะแก่การท่องเที่ยว
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า
คงไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ เว้นแต่ได้รับการร้องขอให้เข้าไปช่วย เช่น การรับช่วงเลี้ยงสัตว์ในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถเลี้ยงต่อไปได้ ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯมีสวนสัตว์อยู่ในความรับผิดชอบ และทุกแห่งได้รับการดูแลอย่างดี สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ได้รับรางวัลการจัดการสวนสัตว์ได้มาตรฐานโลก จากองค์การสวนสัตว์ ระหว่างประเทศ และจะส่งเรื่องของสวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์ เชียงใหม่ และสวนสัตว์นครราชสีมา ให้หน่วยงานดังกล่าวพิจารณามาตรฐานต่อไป