อ้างไม่คิดยิงผจก. ปล้นแบงก์ทำแผน

ตร.เชียงใหม่คุมเสี่ยรับเหมาทำแผนปล้นแบงก์ รับสารภาพทุกข้อหา
 
แต่ยืนยันไม่มีเจตนายิงผจก. เผยหลังก่อเหตุแล้วยังกลับมาซ่อนตัวอยู่กับไทยมุงดูเหตุการณ์ หลังได้เงินก็ไปใช้หนี้แล้วมานั่งดื่มเบียร์จนโดนจับ ยันไม่คิดหนี ผบช.ภาค 5 ระบุได้เบาะแสจากเจ้าหนี้ หลังคนร้ายก่อเหตุแล้วนำเงินไปใช้หนี้เป็นปึกๆ ปลอกรัดเงินยังเป็นตราแบงก์ไทยพาณิชย์ จึงตามแกะรอยจนรวบตัวได้

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นแบงก์ไทยพาณิชย์ สาขาย่อยแยกหนองหอย จ.เชียงใหม่ และถูกจับกุมได้

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 มี.ค. พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ชูกิจคุณ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต. บรรฑป สุคนธมาน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ. มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.หน.ศสส.ภ.5 พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กริช กิตติลือ ผกก.สภ.แม่ปิง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายทิวากร ถาเล็ก หรือ "ฟลุก" อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 8 บ้านเชียงแสน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เจ้าของบริษัทซี-ลักษ์ รับเหมาก่อสร้าง ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน พยายามฆ่า มีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า

ก่อนการจับกุมตัวนายทิวากรนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของนายทิวากรว่า นายทิวากรนำเงินสดจำนวนมากมาใช้หนี้ ที่ปลอกเงินเป็นตราของธนาคารไทยพาณิชย์ จึงสงสัยว่านายทิวากรเอาเงินจากที่ไหนจำนวนมากมาใช้หนี้ ในตอนเย็นวันที่ 12 มี.ค. พอเช้าวันที่ 13 มี.ค. ก็มาเห็นภาพข่าวว่ามีโจรปล้นแบงก์แล้วรูปในวงจรปิดหน้าตาคล้ายกับนายทิวากร จึงแจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงทำการสืบสวนแล้วทราบว่านายทิวากรมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และมีหนี้สินนอกระบบจำนวนมาก และถูกตามทวงเช้าเย็นจนครอบครัวเดือดร้อน

เบื้องต้น นายทิวากรยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่า

เหตุที่ยิงผจก.สาขานั้น เป็นเหตุ สุดวิสัยเพราะปืนลั่น ซึ่งทางเราก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนออัยการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ในส่วนของเงินที่คนร้ายนำไปชดใช้หนี้สินนอกระบบนั้น ทางเราก็จะเร่งติดตามคืนมาทั้งหมด เพราะถือเป็นของกลาง หากผู้รับไปมีเจตนาอื่นใดหรือรู้เห็นเป็นใจเราก็จะดำเนินการต่อไป

ต่อมาเวลา 10.00 น.

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายทิวากรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยแยกหนองหอย ถ.เชียงใหม่-ลำพูน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และจุดเส้นทางหลบหนีรวม 12 จุด มีประชาชนมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก ทำให้การจราจรบริเวณหน้าธนาคารติดขัด โดยเริ่มตั้งแต่นายทิวากรขับรถเก๋งวีออส สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดบริเวณข้างธนาคาร โดยติดเครื่องยนต์ไว้ แล้วมานั่งดื่มกาแฟข้างธนาคาร ก่อนจะเดินไปดูลาดเลาแล้วบุกปล้น ใช้เวลาแค่ 2 นาที ก่อนวิ่งกลับมาขึ้นรถแล้วขับหนีไปตามถนนเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ไปเปลี่ยนเสื้อ ถอดหมวก ถอดแว่น แล้วขับรถวนกลับมาจอดที่ธนาคาร แล้วลงมายืนดูบริเวณหน้าธนาคารที่เกิดเหตุก่อนจะขับกลับบ้าน แล้วนำเงินไปใช้หนี้สินนอกระบบทั้งหมด จากนั้นตอนค่ำวันที่ 13 มี.ค. ตนพาแฟนไปนั่งดื่มเบียร์ที่บริเวณลานเบียร์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้วถูกตำรวจบุกรวบตัวไว้ได้

นายทิวากรเปิดเผยว่า
 
ตนได้เปิดบริษัทซี-ลักษ์ รับเหมาก่อสร้างขึ้น ช่วงหลังกิจการรับเหมาก่อสร้างขาดทุนและขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงนำเอารถโตโยต้า วีโก้ ไปจำนำในราคา 130,000 บาท และรถธรรมดาอีกคันราคา 80,000 บาท ขณะนี้เลยกำหนดมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว กลุ่มนักเลงที่ดูแลผลประโยชน์ก็มาทวงถามที่บ้านเช้า-เย็น ทำให้แฟนตกใจและตนก็เครียด งานที่ทำก็ยังไม่ได้เงิน จึงได้ตัดสินใจจะปล้นแบงก์ แล้วตอนจะหลบหนีอาวุธปืนที่ถืออยู่ในมือเกิดลั่นใส่ผู้จัดการได้รับบาดเจ็บ ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจยิง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ด้านพ่อแม่ของนายทิวากร ถาเล็ก ซึ่งมายืนดูลูกชายทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย ได้เปิดเผยว่า อยากให้ทางตำรวจตรวจเช็กเรื่องสุขภาพจิตของนายทิวากร เพราะนายทิวากรเป็นคนทะเยอทะยานและคิดว่าตนเองนั้นเป็นฮีโร่ เป็นพวกเจมส์บอน 007 อะไรปานนั้น

นายประกิต โล่ประเสริฐ ผู้จัดการเขตธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาภาคเหนือ เปิดเผยว่า
 
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้จัดการสาขาที่ถูกยิงนั้น ในเรื่องของประกันและสวัสดิการ ธนาคารดูแลผู้จัดการคนนี้อย่างดีอยู่แล้ว สำหรับเรื่องเงินที่คนร้ายเอาไปก็ต้องดูว่าทางตำรวจติดตามคืนมาได้เท่าไหร่ หากขาดเหลืออย่างไรก็ต้องไปเคลมกับบริษัทประกันต่อไป ทางธนาคารเคยบอกกับพนักงานของธนาคารเสมอว่า หากมีการปล้นธนาคารหรือคนร้ายบุกเข้ามาในธนาคารเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ห้ามพนักงานต่อสู้หรือขัดขวางคนร้าย สาขานี้เป็นสาขาแรกที่เจ้าหน้าที่ธนาคารของเราถูกยิง เราอยากรู้เจตนาของคนร้ายว่ายิงเพื่ออะไร

ด้านพ.ต.อ.กริช เปิดเผยว่า
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเพิ่มเติมเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็พบว่าเป็นปืน 9 ม.ม. มีนายสุทิต จินาจัย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 5 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนายนัส (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักศึกษาสถาบันมีชื่อ 2 น้า-หลาน เป็นเจ้าของ ได้ประกาศขายไว้กระบอกละ 6 หมื่นบาท นายทิวากรติดต่อขอซื้อไว้แล้ว แต่ขอยืมปืนมาทดลองยิงดูก่อน หลังจากนั้นจึงนำมาก่อเหตุ แล้วคืนให้ 2 น้า-หลาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเราจะตรวจสอบว่าปืนดังกล่าวมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่อย่างไร ก่อนจะดำเนินการต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์