วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของยอดรัก สลักใจ เลขที่ 69/359 หมู่บ้านกฤษดานคร 17 ถนนพุทธมลฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. พบว่า
ที่หน้าบ้านมีป้ายกระดาษเขียนข้อความว่า “ยินดีต้อนรับแฟนเพลงทุกท่านที่มาให้กำลังใจ และอุดหนุนเสื้อและซีดี” ติดอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน โดยภายในบ้านมี “เสรี รุ่งสว่าง” นักร้องลูกทุ่งเพื่อนสนิทยอดรัก รวมทั้ง หยอง ลูกหยี ตลกชื่อดัง เดินทางมาให้กำลังใจ
จากนั้น “ยอดรัก สลักใจ” ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ต สีขาวลายจุด กางเกงขายาวสีดำ สวมแว่นตา ใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ร่างกายผ่ายผอมลง ออกมาพบผู้สื่อข่าวและกล่าวว่า เมื่อข่าวนี้ออกไปรู้สึกเครียด อยากจะตายรู้แล้วรู้รอดไป ถ้าเป็นคนอื่นตนจะไม่สนใจเลย เพราะข่าวนี้ออกมานานแล้ว แต่นี่เป็น “สายัณห์ สัญญา” พอทราบสาเหตุแล้วว่าทำไมเว็บไซต์ถึงนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยประกาศขายบ้านผ่านสื่อมวลชน
โดยบอกว่าจะรอเศรษฐีใจดีคนหนึ่งที่จะกลับมาเมืองไทยวันที่ 14 ก.พ. มาซื้อ ซึ่งใครๆก็รู้ว่าเศรษฐีคนนั้นเป็นใคร บังเอิญเว็บไซต์ที่กล่าวหาว่าตนลวงโลกนี้ แอนตี้เศรษฐีคนนี้อยู่ ก็เลยปั้นเรื่องว่าตนไม่ได้ ป่วยเป็นมะเร็งตับขึ้นมา ที่สำคัญหากตนกุเรื่องนี้จริง ทำไมโรงพยาบาลศิริราชถึงให้ตนแถลงข่าวในโรงพยาบาลได้เมื่อตอนที่รู้ตัวใหม่ๆ ก่อนหน้านี้เคยไปตรวจที่โรงพยาบาลธนบุรี 2 หมอจะให้ผ่าตัด แต่ตอนนั้นไม่มีเงินค่ารักษาเลยต้องหยุดไป และทำเรื่องขอย้ายโรงพยาบาลไปที่ศิริราช โดยแพทย์ศิริราชได้ตรวจอีกครั้งและทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ที่ท้อง แพทย์ขอความมั่นใจขอเจาะชิ้นเนื้อตับไปตรวจ พอตรวจเสร็จแพทย์ ยังไม่บอกกับตน แต่ลูกเมียรู้หมดแล้ว ด้วยความที่ตนใจกล้าไปถามหมอว่า ตนทราบว่าเป็นมะเร็ง หมอถึงกับยกนิ้วชมว่า ตนเป็นคนใจกล้ามาก เพราะมะเร็งจะหายหรือไม่ขึ้นอยู่กับกำลังใจ ถึงได้รู้ว่าเป็นมะเร็งจริง บังเอิญมีเพื่อนนำยาสมุนไพรมาให้ กินแล้วอาการดีขึ้นมากจึงกินยานี้มาตลอด กลายเป็นว่าตนมาโฆษณาขายยาเสียอีก
ขุนพลเพลงลูกทุ่งชื่อดังกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า
สายัณห์เคยมาเยี่ยมเหมือนกัน มานอนนวดตน กอดตนอยู่ในห้องนอน บอกว่า “ไอ้ทิดเอ๋ย มึงอย่าเพิ่งตายนะ ทำใจให้เข้มแข็ง” แต่พอกลับไปดันไปให้ข่าวกับเพื่อนว่า “ไอ้แอ๊ว คงอยู่ไม่ถึงหกเดือนก็ตายแล้ว” ล่าสุดก็ให้ข่าวว่า ไม่มั่นใจว่าตนเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ ขอถามว่าสายัณห์นั้นโง่หรือเปล่า ถ้าไม่เป็นมะเร็งจริง โรงพยาบาลศิริราชจะเปิดห้องให้สัมภาษณ์หรือ แต่โดยจรรยาบรรณของหมอจะไม่ออกมาบอกว่าคนไข้เป็นโรคอะไร วงการลูกทุ่งเสียหายเพราะปากของสายัณห์ ไม่รู้ว่าเอาสมองควายมาคิดหรือ น่าเป็นห่วงถ้าหากมีนักร้องลูกทุ่งที่โง่เง่าแล้วอวดฉลาดอย่างนี้ ตอนแรกนึกจะโกรธ แต่มาคิดว่าอย่าไปโกรธคนที่โง่เขลากว่าเรา เพราะคนที่โง่แม้จะอวดฉลาดขนาดไหน ความโง่ก็จะออกมาให้เห็น ตนเห็นสายัณห์แล้วเสียดาย ทั้งที่เขาเป็นพี่ใหญ่ของวงการลูกทุ่ง ตนเป็นนักร้องคู่กับสายัณห์มาตั้งแต่ปี 2518 เป็นหอกข้างแคร่ของสายัณห์มาตลอด เขาเป็นนักร้องที่ขี้อิจฉา เพราะยอดรักทำให้สายัณห์ไม่มีโอกาสเป็นหนึ่ง อายุมากแล้วน่าจะเป็นคนดีได้แล้ว เลิกขี้อิจฉา
นักร้องลูกทุ่งคนดังกล่าวต่ออีกว่า
ที่สำคัญสายัณห์เป็นคนที่ไม่มีเพื่อนฝูง ตนเป็นคนดึงเขาเข้ามาในสังคม เพราะ เกรงว่างานศพสายัณห์จะไม่มีใครไปเผา นึกไม่ถึงว่ายังเป็นคนขี้อิจฉาอยู่ โลโก้สายัณห์ยิ่งใหญ่จริงๆ น่าจะเอาไปเป็นตัวอย่างที่ดีต่อน้องๆ แต่นี่น่าเสียดายมาก เพราะน้องในวงการไม่มีใครศรัทธาสายัณห์สักคน เพราะนิสัยและสันดานเป็นอย่างนี้ รู้ทั้งรู้ว่าตนเป็นมะเร็งอยู่ ไม่เคยให้กำลังใจ ไม่ไปช่วยแสดงคอนเสิร์ตตนก็ไม่ว่า เพราะทุกคนไม่ต้องการให้ไป แฟนเพลงของตนที่มีเพลงของสายัณห์ยังบอกเลยว่าจะเอาเพลงสายัณห์มาทิ้งไว้หน้าบ้าน หลังจากนี้จะปรึกษาทนาย ฟ้องหนังสือพิมพ์ บันเทิงฉบับที่ลงข่าวทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยไม่เรียกร้องเงินสักสตางค์แดงเดียว แต่ต้องการกู้ศักดิ์ศรีคืน ขอให้ลงข่าวขอโทษตัวใหญ่หน้า 1 หนึ่งสัปดาห์เต็ม ส่วนสายัณห์ตนจะไม่ฟ้อง เพราะฟ้องคนบ้าไม่เกิดประโยชน์อะไร หลังจากนี้ ชื่อของเป้า-สายัณห์จะไม่มีอยู่ในสมองและอย่าได้มาเหยียบบ้านตนอีกต่อไป
ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสำนักผู้อำนวยการ
โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รศ.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร รองคณบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ รศ.นพ.อุดม คชินทร หน.ภาควิชาอายุรศาสตร์ พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ และนางจารุวรรณ ลูกชายกับลูกสะใภ้ของยอดรัก ได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อเคลียร์ข้อกังขาของสังคมให้ชัดเจนว่ายอดรักเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ โดย รศ.นพ.อุดม กล่าวว่า ยอดรักได้มาตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ กลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาก่อน แพทย์ศิริราชได้ตรวจเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่า คนไข้เป็นมะเร็งที่ตับ แต่ยังไม่ 100% จากนั้นแพทย์ได้เจาะเอาชิ้นเนื้อที่สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งมาตรวจ ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งที่ตับ 100% แต่จะอยู่ในระยะไหนแล้ว ไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นจรรยาบรรณของแพทย์
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ลูกชายยอดรัก เปิดเผยอีกครั้งว่า
แพทย์ยืนยันแล้วว่า พ่อป่วยเป็นมะเร็งจริง ไม่ใช่เป็นอย่างที่ใครบางคนออกมากล่าวหา ส่วนรายละเอียดว่าจะเป็นระยะไหนแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะกลัวว่าพ่อจะคิดมากยิ่งขึ้น ฝากบอกแฟนเพลงของพ่อว่ายอดรัก สลักใจ ไม่ได้ลวงโลกอย่างที่ถูกกล่าวหา ส่วนจะฟ้องร้องเว็บไซต์หรือไม่นั้น คิดว่าคงฟ้องไม่ได้ เพราะมันเป็นลักษณะกระทู้เข้ามา ตนไม่ทราบว่าสายัณห์เข้าไปดูเอง หรือมีคนบอกมาแต่อย่างใด สายัณห์พิมพ์ WWW. เป็นหรือเปล่า ส่วนจะดำเนินการอย่างไรกับสายัณห์นั้น ขึ้นอยู่กับพ่อ ตนไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะข่าวนี้ออกมาไม่เฉพาะพ่อที่เครียด ครอบครัว รวมทั้งโรงพยาบาลเดือดร้อนกันหมด ส่วนคอนเสิร์ตช่วยเหลือยอดรัก สลักใจ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่ตลาดพระประแดงพลาซ่า จ.สมุทรปราการ ยังจัดเหมือนเดิม แฟนเพลงสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-1827-1559, 08-9922-1212
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่แพทย์โรงพยาบาลแถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง “เป้า-สายัณห์ สัญญา” ปรากฏว่า ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ สายัณห์ สัญญา ได้ให้ สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า
ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยอดรักป่วยเป็นมะเร็งเป็นเรื่องลวงโลก การออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะความอิจฉาริษยา แต่เป็นเพราะความห่วงใยในชื่อเสียงของเพื่อนร่วมวงการด้วยกัน และไม่อยากเอาชื่อเสียงของตนเองเข้าไปมีเอี่ยวกับการกระทำที่เหมือนเล่นละคร
ในส่วนของบรรดาญาติๆ ของยอดรัก สลักใจ ซึ่งอยู่ที่บ้านหาดแตงโม หมู่ 3 ต.งิ้วราย อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายบุญเลิศ ไพรวัลย์ อายุ 63 ปี พี่ชายคนโตของยอดรักเมื่อบ่ายวันเดียวกันนี้ นายบุญเลิศกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า หลังมีข่าวสายัณห์ออกมากล่าวหาน้องชาย ญาติพี่น้องฝ่ายตนเสียความรู้สึกมาก เพราะทั้งยอดรักและสายัณห์สนิทกันมานาน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตัวสายัณห์เองก็เคยมานอนที่บ้านของตนที่ตะพานหิน น่าจะหาข้อมูลก่อนจะกล่าวหาใครอย่างนี้ ไม่รู้ว่าสายัณห์มีจุดประสงค์อะไร ที่ออกมาให้ร้ายน้องชายของตน ต่อไปนี้ห้ามสายัณห์มาเหยียบบ้านของตนอีก และเมื่อรู้ตัวว่าผิดแล้วควรจะไปขอโทษยอดรักด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
หลังจากมีข่าวสายัณห์ กล่าวหายอดรัก บรรดาดีเจสถานีวิทยุชุมชนของพิจิตรเกือบทุกสถานี ต่างพากันเปิดเพลงของยอดรัก ซึ่งเป็นขวัญใจของชาวพิจิตรกันตลอดทั้งวัน และวิพากษ์วิจารณ์ การให้สัมภาษณ์ของสายัณห์ว่า เป็นการใช้ปากพูดแบบไม่สร้างสรรค์ ขณะที่หลายสถานีถึงกับแอนตี้ไม่ยอมเปิดเพลงสายัณห์อีกต่อไป