ไม่ใช่แค่นอต-ฉกป้ายโบราณสถานกรุงเก่า

โจรกรุงเก่าขโมยทุกอย่าง แม้กระทั่งป้ายบอกชื่อสถานที่สำคัญๆ ในเขตโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา โดนถอดหายเรียบนับร้อยๆ แผ่น มูลค่ากว่าล้านบาท ผอ.สำนักกรมศิลป์เผยจัดทำอย่างดีจากวัสดุหลายชนิด ทั้งสแตนเลส อะลูมิเนียม สลักตัวอักษรสวยงาม ป้ายละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่น ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหาป้ายไม้อัด-แผ่นปูนมาติดตั้งแทน

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายเอนก สีหามาตย์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 3 จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า

ขณะนี้กรมศิลปากร พบปัญหาใหม่และเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโบราณสถานและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในเขตโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากป้ายบอกชื่อโบราณสถานต่างๆ รวมถึงป้ายบอกรายละเอียดประวัติความเป็นมาของโบราณสถานและวัดสำคัญแต่ละแห่งถูกขโมยหายไป รวมแล้วกว่า 100 ป้าย มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยป้ายดังกล่าว กรมศิลปากรจัดทำด้วยอะลูมิเนียม สแตนเลส และเสาสแตนเลส หรือเหล็กอย่างดี พร้อมสลักตัวอักษรที่ชัดเจนสวยงาม ไว้บนป้าย ที่ติดตั้งไว้ในวัดต่างๆ เจดีย์ทุกแห่ง โบราณสถานทุกแห่ง ซึ่งต้นทุนแต่ละป้ายไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท

นายเอนก กล่าวต่อว่า


ป้ายบอกชื่อและรายละเอียดของโบราณสถานที่หายไป ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถสืบค้นรายละเอียดเบื้องต้นได้ขณะเข้าเที่ยวชม ทางกรมศิลปากรจึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยจัดทำป้ายจากไม้อัดหรือแผ่นปูน ซึ่งไม่มีราคาอะไรมากมายนัก มาบอกรายละเอียดแทนป้ายที่สวยงามแบบเก่า ซึ่งป้ายไม้อัดถึงแม้จะทาสีแต่ก็ขาดความสวยงามสมคุณค่าเท่ากับป้ายแบบเก่าที่ทำจากโลหะอย่างดี ซึ่งทั้งหมดพบว่าได้เแจ้งความไว้กับตำรวจที่ดูแลในพื้นที่แล้ว

"ไม่เพียงเฉพาะป้ายโลหะเท่านั้นที่ถูกขโมยหายไปจำนวนมาก ยังมีสายไฟขนาดต่างๆ ที่เดินสายไฟไว้เพื่อส่องแสงสว่างในเขตโบราณสถานก็ถูกโจร กรรมไปด้วย มูลค่านับล้านบาท อีกทั้งฝาท่อระบายน้ำที่ทำจากเหล็กที่ทำไว้ในเขตโบราณสถาน เพื่อบริหารจัดการน้ำฝนที่ตกลงมาไม่ให้ท่วมขังในโบราณสถานก็ถูกโจรเข้าไปขโมยเป็นประจำเช่นกัน ทำให้ดินตกหล่นลงไปในท่อระบายน้ำ จึงขอวิงวอนให้โจรอย่าเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สมบัติของชาติเลยเพราะสิ่งของที่โจรกรรมมีความสำคัญต่อโบราณสถานเช่นกัน"
นายอเนก กล่าวย้ำ

พ.ต.อ.อมร สารากรบริรักษ์ ผกก.สภ.พระนคร ศรีอยุธยา กล่าวว่า

การลักป้ายโบราณสถานตามอุทยานประวัติศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เคยมาแจ้งความไว้หลายครั้ง เนื่องจากว่าป้ายโบราณสถานกระจายอยู่ภายในเกาะเมืองและนอกเกาะเมืองหายไป นับตั้งแต่ปลายปี"50 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยจับกุมคนร้ายที่ลักสายไฟภายในอุทยานประวัติศาสตร์ได้ ส่วนป้ายโบราณและฝาท่อได้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษโดยให้ฝ่ายสืบสวนเป็นผู้ปฏิบัติในกรณีนี้โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการลักทรัพย์ของหลวงตามสถานที่ต่างๆ โดยให้ตรวจสอบตามร้านรับซื้อของเก่าภายในพื้นที่รับผิดชอบยังไม่พบ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำไปขายในพื้นที่อื่น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์