พ่อซิ่งจักรยานยนต์รับลูกสาววัย6 ขวบกลับจากโรงเรียน ระหว่างทางลูกนั่งเปิดสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่ดู-ไม่ได้เกาะเอวพ่อ จังหวะพ่อตัดสินใจแซงรถบรรทุกแต่ไม่พ้นทำให้สมุดวาดเขียนเกี่ยวกับตัวรถพ่วงลากร่างเด็กเข้าไปใต้ท้องรถดับอนาถ
เหตุการณ์รถบรรทุกพ่วง18 ล้อทับเด็กหญิงเสียชีวิตขณะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์บิดากลับบ้านพัก ถูกเปิดเผยขึ้น โดยเมื่อเวลา13.00 น. วันที่12 มีนาคม
ร.ต.ท.สุพีร์ชัยสูงเนิน ร้อยเวร สน.ดอนเมืองได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกพ่วงทับเด็กเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าร้านพงษ์การช่าง รับทำสเตนเลส ตั้งอยู่เลขที่ 87/ 388 ปากซอยบูรพา18 ถนนวัดเวฬุวนารามแขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
บริเวณที่เกิดเหตุเป็นถนน2 เลน
เจ้าหน้าที่พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนส่วนหัวลากเลขที่ 80-4370 กรุงเทพมหานครหมายเลขทะเบียนส่วนตัวพ่วงเลขที่ 80-4371 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของบริษัทซีพีดับบลิวโลจิสติกส์ จำกัด บรรทุกปูนซีเมนต์มาเต็มกระบะ ส่วนหัวจอดอยู่ในช่องทางเดินรถฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนสรงประภา
จากการตรวจสอบที่บริเวณล้อหลังด้านขวาของตัวพ่วงพบศพ ด.ญ.ธัญญาลักษณ์หรือ น้องเชอร์รี่แซ่ฉั่วอายุ 6 ขวบ
นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนวัดเวฬุวนารามอยู่บ้านเลขที่ 28/135 หมู่บ้านบูรพา12 แขวงสีกันเขตดอนเมือง เสียชีวิตในลักษณะนอนคว่ำหน้า อยู่ในสภาพสวมชุดนักเรียน ที่บริเวณศีรษะจนถึงลำตัวช่วงอกถูกล้อรถทับจนร่างแหลกสมองกระจาย
ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีน้ำเงินคาดดำ หมายเลขทะเบียน พยบ 351 กรุงเทพมหานครซึ่งผู้ตายโดยสารมาล้มคว่ำอยู่ด้านข้างรถบรรทุก นอกจากนี้ยังพบสมุดวาดเขียนของผู้ตายตกอยู่ข้างศพ 1 เล่มเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายย่งหลีแซ่ฉั่ว อายุ 56 ปีอาชีพพ่อค้าถุงพลาสติก ซึ่งเป็นบิดาของผู้ตาย และเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ให้การด้วยอาการมึนเมาว่า
ตนมีลูกสาว 3 คนน้องเชอร์รี่เป็นคนสุดท้อง ปกติแล้วตนมีหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับส่งลูกสาวที่โรงเรียนทุกวัน และวันนี้ก็เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอมอีกด้วย ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับน้องเชอร์รี่กลับบ้านตามปกติ แต่วันนี้ลูกสาวนำสมุดวาดเขียนกลับมาด้วยจึงขออนุญาตไปนั่งซ้อนท้าย ซึ่งระหว่างที่ตนกำลังขี่รถ ปรากฏว่าน้องเชอร์รี่เปิดดูสมุดวาดเขียนของตัวเองอยู่ตลอดเวลาจึงไม่ได้เกาะเอวตนไว้ จนกระทั่งเมื่อรถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุผมพยายามจะเร่งเครื่องแซงรถบรรทุกพ่วง ซึ่งขับขวางอยู่ทางด้านหน้า เพื่อออกมาทางเลนขวาของถนน แต่ปรากฏว่ามีรถเก๋งสวนทางมาทำให้ผมต้องหักรถหลบ ทำให้รถเสียหลักไถลเข้าไปหารถพ่วงกะทันหัน จนสมุดภาพวาดของน้องเชอร์รี่ซึ่งมีขนาดใหญ่เข้าไปเกี่ยวกับตัวถังรถพ่วง เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มพาร่างของน้องเชอร์รี่มุดเข้าไปใต้ล้อรถพ่วงจนถูกทับตายอนาถ นายย่งหลีกล่าว
ด้านนายอำพร ทับสมบัติ อายุ 50 ปีซึ่งเป็นคนขับรถพ่วง ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถพ่วงไปส่งปูนซีเมนต์ให้ลูกค้าในย่านวัดนาทอง เมืองเอก จ.นนทบุรีจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายลูกมะพร้าวแตกที่ล้อหลัง และมีเสียงชาวบ้านร้องโวยวาย เมื่อเหลือบไปดูที่กระจกเห็นรถจักรยานยนต์ของนายย่งหลีล้มคว่ำอยู่ ตอนแรกคิดว่านายย่งหลีขับมาเพียงคนเดียวไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บอะไรมาก จึงรีบจอดรถลงไปดู ปรากฏว่าเห็นน้องเชอร์รี่ กลายเป็นศพไปแล้ว จึงตัดสินใจรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่โดยไม่คิดหลบหนีแต่อย่างใด
ขณะที่ร.ต.ท.สุพีร์กล่าวว่า
เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตแก่นายอำพรเอาไว้ก่อน ส่วนนายย่งหลีซึ่งขณะนี้ยังมีอาการตกใจ จะเรียกมาสอบสวนภายหลังพร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกหลายคน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
