รปภ.หึงโหดม่ายสาวบีบคอดับสยองคาร้านอาหาร กลางเมืองเชียงใหม่
เผยรปภ.หนุ่มมาติดพันม่ายสาวลูกหนึ่ง ถึงกับให้พ่อแม่มาสู่ขอหมั้นหมายเอาไว้ แต่ม่ายสาวยังยึดอาชีพเปิดร้านขายอาหารพื้นเมืองตามปกติ มีชายหนุ่มมาแจกขนมจีบอื้อ เพราะเป็นคนหน้าตาดี ทำให้รปภ.หึงหวง มักมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ สุดท้ายน้องชายคู่แฝดมาพบพี่สาวกลายเป็นศพขึ้นอืดสยอง ระบุหลังพี่สาวปิดร้าน รู้สึกสังหรณ์ใจอันสื่อถึงกันได้ จึงเข้ามาดู ตร.ตามล่ายามโหดมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 11 มี.ค.
พ.ต.ท.ปริญญา เพชรมี สารวัตรเวรสภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งพบศพผู้หญิงถูกฆ่าตายที่ร้านอาหารเหล้าตอง ของกิ๋นพื้นเมือง เลขที่ 300/251 หมู่ 10 หมู่บ้านแกรนด์วิว ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.ต.จิรุจจ์ พรหโมบล รองผบช.ภ.5 พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.นพคุณ กีรติการกุล รองผกก. เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ 32 จ.เชียงใหม่ แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง อาหารพื้นเมือง
ด้านในเป็นห้องพักมีจัดพื้นที่เป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นสัดส่วน ประตูเข้าบ้านล็อกไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงงัดประตูเข้าไปตรวจสอบ พบศพน.ส.สายพิญ สุรินทร์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว นอนตายบนกองเลือดที่แห้งติดอยู่บนเตียงลายดอกไม้ หมอนลายการ์ตูน สภาพศพบวมขึ้นอืดส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง สวมเสื้อยืดสีดำเอวลอย ลายดอกไม้ติดดิ้นเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จากการตรวจสอบมีร่องรอยการถูกบีบคอจนเขียวช้ำ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
จากการสอบสวน นายสมพร สุรินทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 8 บ้านหนองแก๋ว ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ผู้พบศพคนแรกและเป็นน้องชายฝาแฝดกับผู้ตายให้การว่า
ก่อนพบศพแฝดผู้พี่ ตนมีความรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับพี่สาวที่เป็นแฝดคนละฝาเกิดวันเดียวกัน และการสื่อใจถึงกันตลอดเวลา จึงโทรศัพท์มาสอบถามเพื่อนบ้านของพี่สาว ทราบว่าไม่ได้เปิดร้านตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. จึงสอบถามหลานที่มาช่วยงานที่ร้านก็บอกเหมือนกัน ทั้งที่ตามปกติพี่สาวจะเปิดร้านตอนบ่าย 3 โมง กลัวจะเกิดเรื่องไม่ได้ดีจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และงัดประตูเข้าตรวจสอบ พบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ที่ผ่านมาได้หมั้นกับนายสนิท หรือเบิ้ม ไม่ทราบนามสกุล รปภ.บริษัทนิยมพานิช จำกัด แต่ก็มีปากเสียงและทะเลาะกันเรื่อยมา จนชาวบ้านทราบกันหมด โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องความหึงหวงในตัวพี่สาว เพราะพี่สาวเป็นคนหน้าตาดี มีชายมาติดพันและมาดื่มกินที่ร้านเป็นประจำ ที่ผ่านมาพี่เคยมาบอกว่าถูกนายเบิ้มขู่ฆ่ามาแล้ว ตนจึงบอกให้มาพักกับตน แต่พี่สาวไม่ยอมมา นอกจากนี้ยังถูกนายเบิ้ม แสดงความเป็นเจ้าของ ด้วยการบอกให้กับแขกที่มานั่งที่ร้านเสมอ สร้างความอับอายให้กับพี่สาวของตนเป็นอย่างมาก แต่เพราะความรักก็ยังคบกันอยู่ ไม่คิดว่าจะมาทำกับพี่ตนเช่นนี้
จากการสืบสวนทราบว่า
ผู้ตายเคยแต่งงานมีลูกกับสามีเก่า 1 คน อายุ 13 ปี ไม่ได้จดทะเบียนกันและเลิกรากันไปแล้ว ส่วนลูกไปพักอยู่กับญาติ ต่อมาเปิดร้านที่เกิดเหตุ โดยจะเปิดร้านเวลาบ่าย 3 โมงทุกวัน ไปจนถึงเวลา 23.00 น. โดยจะบริการขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง อาหารพื้นเมือง ลาบ และกับแกล้ม พร้อมบริการขายเหล้า เครื่องดื่มมึนเมา เนื่องจากเป็นคนหน้าตาดีมีชายหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาติดพันและดื่มกินที่ร้านเป็นประจำ กระทั่งเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา นายเบิ้ม ซึ่งพักอาศัยอยู่หอพักในหมู่บ้านดังกล่าวมาติดพัน ดื่มกินที่ร้านและจีบผู้ตาย จนผู้ตายใจอ่อน นายเบิ้มให้พ่อแม่มาสู่ขอหมั้นหมาย ฝ่ายหญิงจึงตกลงอยู่ด้วยกัน
จากการสอบสวนทราบว่า
ทรัพย์สินที่หายไปจากตัวผู้ตายคือ สร้อยคอทองคำหนัก 1.50 บาท สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท และแหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ รวม 3 บาท นอกจากทีวีสีเครื่องเล็กที่ไว้ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการไว้ดูก็ได้หายไป คิดว่าน่าจะเป็นอำพรางคดีว่าชิงทรัพย์ เพราะทีวีสีเครื่องใหญ่ และทรัพย์สินเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านส่วนใหญ่ยังคงมีอยู่ สอบสวนเพื่อนบ้านใกล้เคียงพบว่าเมื่อคืนวันที่ 9 มี.ค. หลังจากที่ผู้ตายปิดร้านแล้วทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง แต่ไม่มีใครสนใจเพราะจะทะเลาะกันเป็นประจำ จนมาพบว่าถูกบีบคอตายแล้ว ซึ่งจะได้ติดตามตัวนายสนิท มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพราะผู้ต้องสงสัยได้หนีไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป