ใช้เวทีเอเอฟ5 สานฝันหาพ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ว่าได้รับการเปิดเผยจาก นายวรวงษ์ วงษ์บุญมา หรือนิว อายุ 19 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 ตำบลด่าน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ หลังเดินทางจากเมืองหลวง ไปถึง จ.ขอนแก่น เพื่อสมัครเข้าคัดเลือก “นักล่าฝัน ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 5” ที่กำลังเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันในภาคอีสาน ที่โรงแรมโซฟิเทล ราชา ออร์คิด จ.ขอนแก่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อตามหาพ่อที่ไม่ได้เคยพบหน้ากันตั้งแต่เกิด
 

นายวรวงษ์ หรือนิว กล่าวว่า เป็นลูกของนางสนิทพันวัน และนายพยอม วงษ์บุญมา โดยแม่เคยเล่าให้ฟังว่า

ตอนที่ตั้งท้องได้ 3 เดือน พ่อกับแม่เกิดมีปัญหาและแยกทางกัน ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งคลอด ตนไม่ได้เคยพบหน้าพ่อมาเลย หลังจากที่แม่คลอดแล้วได้ไปทำงานอยู่ที่ กทม. ทิ้งให้ตนอยู่กับตายายคือนายสงวน ฮวบขุนทด และนางแตน สันวัง เลี้ยงดูมาตลอด โดยทั้งคู่มีอาชีพรับจ้างทำนาฐานะค่อนข้างยากจน ตั้งแต่เล็กมาไม่ได้เคยพบหน้าแม่เลย จนกระทั่งเรียนจบ ป.6 แม่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านถึงได้พบหน้ากัน จากนั้นแม่แต่งงานใหม่อีกครั้ง และมีน้องชายอีก 1 คน จากนั้นแม่มีปัญหากับสามีใหม่ และแยกทางกันไป แล้วมาแต่งงานอีกครั้ง และมีลูกสาวกับพ่อใหม่อีก 1 คน จากนั้น แม่ก็แยกทางกับสามีอีกครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันแม่แต่งงานใหม่และไปสร้างหลักปักฐานอยู่ที่ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
 

หนุ่มนิวกล่าวต่อไปว่า ตอนเด็กๆ สมัยที่เรียนชั้นประถมเห็นเพื่อนๆ เขามีพ่อมีแม่มารับที่โรงเรียน ทำให้ ตนรู้สึกเศร้าใจมาก

เฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอว่า ทำไมเราไม่มีเหมือนเขา ก็มีแต่คุณตาคอยปลอบใจ และเคยสัญญาว่า ถ้าโตจะพาไปพบหน้าพ่อ เพราะรู้ว่าพ่อเป็นคน อ.พนาจ.อุบลราชธานี จนกระทั่งตนเข้ามาหางานทำที่ กทม. อาศัยอยู่กับ น.ส.วันดี ฮวบขุนทด ผู้เป็นป้า ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางนา และได้ฝากตนเข้าไปเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านได้เงินเดือนเดือนละ 2,500 บาท ทำได้เกือบปี จึงลาออกไปเป็นลูกจ้างในฟาร์มเลี้ยงหมูที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จากนั้นไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่พัทยาทำงานเก็บเงินส่งให้แม่และน้องๆ จนแม่สามารถเปิดร้านเล็กๆ ขายส้มตำ เนื้อย่าง ก่อนที่จะย้ายมาเป็นพนักงานขายของอยู่ที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ห้างมาบุญครอง จนกระทั่งมารับจ้างทำงานกับพี่ที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นงานประจำ ทำเป็นจ๊อบๆไป
 

หนุ่มผู้อยากเห็นหน้าพ่อบังเกิดเกล้าอย่างมาก กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า

เหตุที่มาสมัครเอเอฟครั้งนี้ นอกจากจะอยากเป็นนักร้องแล้ว ที่สำคัญต้องการใช้เวทีในการประกวดตามหาพ่อบังเกิดเกล้าที่ไม่เคยพบหน้ากันเลยนานกว่า 19 ปี ก่อนหน้านี้ที่คุณตาเคยสัญญาไว้ว่าจะพาไปหาพ่อนั้น แต่เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา คุณตาได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ตอนนี้มีเพียงแต่รูปถ่ายคู่กับแม่สมัยตอนสาวๆ เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งญาติที่ จ.ราชบุรี เป็นผู้เก็บไว้ และที่อยู่ตามสูติบัตรหรือใบเกิดระบุที่อยู่ของพ่อว่า อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 12 ต.จานลาน อ.พนา จ.อุบลราชธานี เท่านั้น แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่พบว่าพ่ออยู่ที่นั่น ทราบว่าตอนนี้อาจจะอยู่ใน จ.อุดรธานี หรือ จ.ขอนแก่น


“เคยถามแม่เหมือนกันว่าพ่อไปอยู่ที่ไหน แม่บอกเพียงว่า ไม่ต้องตามหรอก เพราะถ้าเขารักเราจริงก็ต้องตามหาเรา ก็รอมาตลอดว่าเมื่อใดพ่อจะมาหาสักที จนกระทั่งโตคิดได้ว่าน่าจะออกตามหาเขาเองดีกว่า เลยคิดว่าถ้าได้เข้าประกวดเวทีทรู อคาเดมี ซึ่งเป็นเวทีที่มี ชื่อเสียง พ่อคงจะได้เห็นบ้าง แค่ได้เจอหน้าพ่อก็ดีใจมากแล้ว อยากจะบอกพ่อว่าไม่ต้องกลัวว่าผมจะเกลียด หรือไม่รักพ่อ แค่อยากจะกราบเท้าพ่อเหมือนลูกคนอื่นๆ เขาทำกัน” หนุ่มนิวกล่าว
 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายวิมล เพชรขำ อายุ 22 ปี ญาติของน้องนิว

ซึ่งเป็นผู้เก็บภาพถ่ายพ่อของหนุ่มนิวที่เหลือเพียงใบเดียวไว้ และได้รับคำตอบว่า ตนเป็นลูกของนางวันดี เพชรขำ ซึ่งเป็นป้าของนิว ตอนเด็กเติบโตมาด้วยกัน พ่อนิวทิ้งนิวไปตั้งแต่เล็กตนเองยังไม่เคยพบหน้าเลย ไม่มีใครรู้ว่าพ่อเขาไปอยู่ ที่ไหน มีเพียงแต่ภาพถ่ายภาพเดียวเท่านั้น ที่ทิ้งไว้ให้นิวได้ดูเวลาคิดถึง อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้นิวทำความฝันตามหาพ่อให้พบในเร็วๆนี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์