ไทยมีโอกาสหิมะตกน้อยกว่าลาว

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(สตาร์ท) ให้สัมภาษณ์ถึงสภาพอากาศหนาวช่วงเช้าและฝนตกช่วงบ่ายในระยะนี้ ว่า

เป็นผลจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่กระจายลงมา ส่งผลให้พื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม เมืองซำเหนือ ประเทศลาว เกิดปรากฏการณ์คล้ายหิมะตก ซึ่งเป็นหมอกแข็งหรือหินน้ำค้างแข็ง แต่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากเทือกเขาหิมาลัย จะมีแค่ฝนตกและอุณหภูมิลดลงบ้างเท่านั้น โอกาสเกิดแบบที่เวียดนามหรือซำเหนือมีน้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมืองไทยมีโอกาสหิมะตกหรือไม่ ดร.อานนท์กล่าวว่า

โอกาสมีน้อยมาก หมายถึงว่าโอกาสเกิดมี แต่เกิดจากสภาพของอากาศแปรปรวนมากกว่าเกิดจากสภาพวิกฤตของภูมิอากาศ เพราะสภาพอากาศแปรปรวนนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ลานีญ่า แต่คงไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าความแปรปรวนนี้จะมาจากสภาพของโลกร้อน ทั้งนี้เรื่องของโลกร้อน สามารถยืนยันได้จากข้อมูลอื่นๆ ที่ชัดเจนกว่าเรื่องของสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น สถิติพายุ เช่น ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ไอพีซีซี) เคยระบุว่า สถิติการลดลงของพายุขนาดเล็ก และการเพิ่มขึ้นของพายุขนาดใหญ่ เป็นตัวแปรสำคัญที่บอกว่า เราได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนแล้ว

ดร.อานนท์กล่าวด้วยว่า

ล่าสุดบันทึกสถิติการเกิดพายุ พบว่าช่วง 50 ปีที่ผ่านมา พายุขนาดเล็กในอ่าวไทยเกิดขึ้น 60 ลูก ต่อ 30 ปี แต่ปัจจุบันลดเหลือ 40 ลูก ต่อ 30 ปี ส่วนพายุขนาดใหญ่ เช่น ไต้ฝุ่น และไซโคลน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยเกิด 3 ลูก ในเวลา 30 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 7 ลูก ในเวลา 30 ปี แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ศึกษาเชิงลึก เป็นแค่ข้อสังเกตเบื้องต้นที่ค่อนข้างมีอิทธิพลเท่านั้น จะต้องใช้เวลาวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น