เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 มี.ค.
พ.ต.ต.สาโรจน์ เวชกามา สารวัตรสภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุช้างไล่ทำร้ายคนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าร้านเจ๊จุก 2 ม.2 ต.นาเกลือ จึงพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รีบเดินทางไปตรวจสอบ พบร่างน.ส.พรอุมา ผาสุกเมือง อายุ 24 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 184 ม.8 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช นอนสลบไม่ได้สติ บริเวณใบหน้ามีรอยเขียวช้ำ เนื่องจากถูกช้างกระทืบก่อนที่จะวิ่งเตลิดลงทะเล จึงช่วยนำส่งร.พ.กรุงเทพพัทยา ให้แพทย์ช่วยรักษา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหน่วยกู้ภัยทางทะเล นำเรือยางลอยลำไล่ประกบเพื่อไม่ให้ช้างว่ายน้ำทะเลลึกไปมากกว่านี้
โดยใช้เวลานาน 1 ช.ม. ช้างจึงสงบและยอมขึ้นจากน้ำทะเลให้ควาญช้างขี่คอและนำกลับไปล่ามโซ่ไว้ได้ ซึ่งนายใหญ่ จันลา อายุ 35 ปี ควาญช้างชาว จ.สุรินทร์ ให้การว่า นำ "เจ้าเจมส์" ช้างพลายอายุ 2 ขวบ มาจากจ.สุรินทร์ เพื่อโชว์ความสามารถให้นักท่องเที่ยวดูที่สวนนงนุช แต่ยังไม่มีงานจึงนำช้างมาเร่ขายอ้อยให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดติดกับร้านเจ๊จุก เพื่อหารายได้เสริม ซึ่งปกติช้างตัวดังกล่าวจะมีนิสัยขี้เล่นเหมือนเด็กๆ และไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน
สอบสวนนางอรยา ผาสุกเมือง อายุ 28 ปี พี่สาวคนเจ็บ ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุพาครอบครัวรวม 4 คน มาเที่ยวพักผ่อนที่หาดพัทยาและมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารเจ๊จุก ขณะกำลังจะเดินทางกลับ ควาญพาช้างพลายเดินมาที่ร้านเพื่อขายผลไม้จำพวกอ้อยและกล้วย น.ส.พรอุมาซื้ออ้อยซึ่งบรรจุไว้ในถุงพลาสติก 1 ถุง แต่ขณะที่กำลังจะยื่นให้ช้าง ปรากฏว่าถุงพลาสติกที่ใส่อ้อยได้หล่นตกลงพื้น น้องสาวตนจึงรีบก้มเก็บ แต่พลายเจมส์เข้าใจว่าจะถูกแย่งอาหาร จึงวิ่งชนจนน้องสาวล้มลงและใช้เท้าขวากระทืบร่างจนสลบ ถึงแม้นายใหญ่ จันลา ควาญช้างยืนอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่สามารถบังคับให้อยู่ในความสงบได้ จากนั้นช้างพลายเจมส์วิ่งเตลิดลงในทะเล ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ กระทั่งมีหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือนำร่างน้องสาวส่งร.พ.ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมนายใหญ่ ควาญช้างดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป