เอเน็ตวันแรก-คุมเข้ม แจกถุงดำ

สอบ"เอเน็ต"วันแรกผ่านฉลุย คุมเข้มป้องกันน.ร. ทุจริต ซ้ำรอยสอบ"โอเน็ต" ติดประกาศย้ำทุกสนามสอบ ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้ามาเด็ดขาด รวมถึงนาฬิกามือถือ นาฬิกาดิจิตอล ก็ไม่ได้ หากพบมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ต้องถอดฝากไว้ ที่สนามสอบร.ร.เตรียมอุดมฯ ใช้วิธีแจกถุงดำให้ใส่มือถือ แล้ววางไว้กับพื้นห้อง "สกอ."ปิ๊งไอเดีย เตรียมนำวิธีนี้ไปใช้ในการสอบปีหน้า กำหนดในคู่มือให้เป็นระบบเดียวกัน ขณะที่น.ร.โวยข้อสอบวิชาภาษาไทยผิดพลาด มีคำตอบที่ถูกต้อง 2 ข้อ จี้ตรวจสอบแก้ไขด่วน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 มี.ค.


ที่สนามสอบโรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขา ธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือเอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2550 ซึ่งเป็นวันแรกของการสอบ โดยก่อนถึงเวลาเข้าสอบในเวลาประมาณ 07.00 น. อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดินทางมาประชุมร่วมกับอาจารย์และเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบโรงเรียนหอวัง เพื่อกำชับมาตรการตรวจสอบการทุจริต ภายหลังจากเรื่องอื้อฉาวนักเรียนใช้นาฬิกามือถือทุจริตในการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ถึงวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

นอกจากนี้ ที่สนามสอบโรงเรียนหอวัง ยังนำประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตการสอบเอเน็ต ที่ได้แจ้งเตือนไปยังศูนย์สอบต่างๆ 18 แห่งทั่วประเทศ ติดไว้ภายในห้องสอบด้วย โดยประกาศระบุว่า
1.ให้ตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ โดยรูปที่ติดบัตร ต้องตรงกับบัตรผู้เข้าสอบ
2.ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ทุกชนิดติดตัวไว้ เช่น นาฬิกาข้อมือที่เป็นโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือ และวิทยุติดตามตัว ในกรณีที่มีผู้เข้าสอบนำเข้ามา จะต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดให้เรียบร้อย และวางไว้ใต้เก้าอี้ของตนเอง หากมีเสียงสัญญาณเข้า หรือรับสัญญาณสื่อสาร ให้ถือว่าทำผิดกติกา และปรับตกในวิชานั้นทันที และ
3.ให้กรรมการคุมสอบตรวจสอบการฝนรหัสเลขที่นั่งของผู้เข้าสอบให้ตรงกับบัตรประจำตัวของผู้เข้าสอบ รวมทั้งให้สังเกตพฤติกรรมของผู้เข้าสอบทุกคนตลอดระยะเวลาที่สอบ เพื่อป้องกันการทุจริต


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
 
จากการสังเกตพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ ยังคงสวมใส่นาฬิกาข้อมือมาเข้าสอบ แต่เจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบตรวจตราอย่างเข้มงวด หากตรวจสอบพบเป็นนาฬิกาแบบดิจิตอล และมีขนาดใหญ่ผิดสังเกต ทางอาจารย์ผู้คุมสอบจะเก็บไว้ แต่หากเป็นนาฬิกาข้อมือปกติ จะอนุญาตให้นักเรียนใส่เข้าไปภายในห้องสอบได้ แต่ให้ถอดวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายบุญลือ และคณะผู้บริหาร สกอ. เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามสอบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

โดยเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบซักซ้อมเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น และนำประกาศ สกอ.เรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตติดไว้ภายในห้องสอบเช่นเดียวกัน โดยในช่วงเช้าก่อนการเข้าสอบ นางพิศวาส ยุติธรรมดำรง ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เรียกประชุมกรรมการและเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบทั้งหมด เพื่อกำกับมาตรการป้องกันการทุจริต ไม่ให้ซ้ำรอยการสอบโอเน็ตที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังจัดเตรียมถุงดำไว้สำหรับใส่อุปกรณ์สื่อสาร และนาฬิกาที่นักเรียนนำติดตัวมาด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ทางเจ้าหน้าที่ประจำสนามสอบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตรวจสอบอุปกรณ์สื่อสาร และนาฬิกาที่นักเรียนนำติดตัวมาอย่างเข้มข้น หากนักเรียนใส่นาฬิกาแบบดิจิตอล จะให้ถอดฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่ หรือกรณีจำเป็นต้องนำโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เข้าไปในห้องสอบด้วย ทางอาจารย์ผู้คุมสอบจะให้ปิดเครื่อง และนำไปใส่ไว้ในถุงดำ แล้วอนุญาตให้นักเรียนนำเข้าไปวางไว้ที่พื้นภายในห้องสอบได้

นายบุญลือ กล่าวว่า

การสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี เชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นซ้ำรอยการสอบโอเน็ต ส่วนกรณีที่คณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) มีมติให้ปรับตกทุกวิชาสำหรับเด็กนักเรียนที่ทุจริตสอบโดยใช้โทรศัพท์มือถือนั้น ในเมื่อเป็นมติของบอร์ด สทศ. ก็ต้องยอมรับ และเห็นด้วยกับการลงโทษดังกล่าว เพราะเท่าที่พิจารณาจากหลักฐาน ถือว่าเด็กมีเจตนากระทำการทุจริต และอาจกระทำกันเป็นขบวนการ จึงจำเป็นต้องมีวิธีการลงโทษที่รุนแรงและเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เด็กคนอื่นเอาเป็นแบบอย่าง แต่การลงโทษก็ไม่ถือว่ารุนแรงเกินไป และนักเรียนเองก็ควรจะต้องยอมรับผลจากการกระทำของตนเอง

จากการสอบถามนักเรียนหญิงชั้นม.6 คนหนึ่ง ที่เข้าสอบวิชาภาษาไทย 2 สนามสอบโรงเรียนหอวัง กล่าวถึงการสอบเอเน็ตว่า

ข้อสอบเอเน็ต วิชาภาษาไทย มีข้อผิด 1 ข้อ เนื่องจากมีคำตอบที่ถูกต้อง 2 ข้อ นอกจากนี้ ข้อสอบโอเน็ต ในวิชาภาษาไทย ยังมีข้อผิดมากกว่า 2 ข้อ ส่วนใหญ่เกิดจากการพิมพ์ผิด ทำให้ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่นักเรียน

ด้านนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า

 มาตรการป้องกันการทุจริตโดยใช้ถุงดำใส่โทรศัพท์มือถือของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นความคิดที่ดีมาก เป็นตัวอย่างให้โรงเรียนอื่นๆ ได้ ในการจัดสอบปีต่อไป สกอ.อาจจะต้องกำหนดให้อยู่ในคู่มือปฏิบัติผู้เข้าสอบ เพื่อให้เป็นระบบเดียวกันของโรงเรียนทั่วประเทศด้วย ในส่วนของนักเรียนที่ประสบเหตุสุด วิสัยไม่สามารถเข้าสอบในครั้งนี้นั้น ทางสกอ.คงไม่จัดสอบให้ใหม่อย่างแน่นอน คงต้องรอการสอบเอเน็ตในปีต่อไป เพราะเอเน็ตสามารถสอบได้หลายครั้ง ไม่เหมือนกับการสอบโอเน็ต ที่สามารถสอบได้เพียงครั้งเดียวในปีที่จบการศึกษาเท่านั้น และคาดว่าผลสอบเอเน็ตจะประกาศได้ในวันที่ 5 เม.ย.

เลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อว่า

สำหรับกรณีที่นักเรียนแจ้งว่าข้อสอบเอเน็ต วิชาภาษาไทย ผิด 1 ข้อ เนื่องจากมีคำตอบหลายข้อนั้น มั่นใจว่าข้อสอบไม่น่าจะผิด เพราะตรวจทานกันหลายรอบ และก่อนที่จะ ตรวจข้อสอบทุกวิชา อาจารย์ที่ออกข้อสอบจะมาดูกันอีกครั้งอยู่แล้ว รวมทั้งมั่นใจมาตรฐานของข้อสอบ เอเน็ตด้วย แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรคงต้องมาดูกัน

ส่วนนางอุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ. กล่าวว่า

 สทศ.กำหนดปฏิทินการสอบโอเน็ตสำหรับนักเรียนที่เกิดเหตุสุดวิสัย รายชื่อตกหล่น และนักเรียนกลุ่มเทียบเท่า ไว้เรียบร้อยแล้วดังนี้ รับสมัครวันที่ 10-20 มี.ค. ทางเว็บไซต์ www.niets.or.th โดยนักเรียนจะต้องสมัครด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ เลขที่นั่งสอบ และสนามสอบ ในวันที่ 24 มี.ค. สอบวันที่ 29-30 มี.ค. ประกาศผลวันที่ 15 เม.ย. ผู้สมัครจะต้องส่งหลักฐานที่แสดงเหตุผลชัดเจนของการขาดสอบมาที่ สทศ. ภายในวันที่ 20 มี.ค.

ผอ.สทศ. กล่าวต่อว่า

 พร้อมกันนี้ขอย้ำว่าในการสอบผู้สมัครอาจจะไม่ได้เข้าสอบทุกคน เพราะต้องดูเหตุผลเป็นหลัก ส่วนกรณีที่นักเรียนระบุว่ามีข้อสอบโอเน็ตวิชาภาษาไทยผิดหลายข้อนั้น ได้ยินมาเช่นกัน แต่นักเรียนไม่ได้บอกว่าผิดข้อไหน ดังนั้นจึงอยากให้นักเรียนแจ้งด้วยว่าผิดข้อไหน เพื่อจะได้ตรวจสอบต่อไป ขณะเดียวกัน จะสอบถามไปยังอาจารย์ผู้ออกข้อสอบให้ช่วยตรวจทานอีกครั้ง หากพบว่ามีข้อสอบผิดจริง ต้องยกประโยชน์ให้เด็ก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์