สลดพ่อเก็บศพลูก รถชนเละ กอบใส่ถุงก๊อบแก๊บ

สุดสลดพ่อเดินเก็บเศษชิ้นส่วน ศพลูกชายกลางถนน หลังลูกนั่งมอเตอร์ไซค์ถูกรถบรรทุกแร่ชนร่างเละ แฉก่อนเกิดเหตุ 4 คนพ่อแม่ลูกออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดนัด มีลูกสาวคนโตเป็นคนขับจยย. น้องชายวัย 12 ซ้อนท้าย พ่อแม่เดินตาม ระหว่างที่เด็กขับรถผ่านตู้ยามบริการประชาชน ถนนสายบ้านกรูด-ซอยสิบ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกรถบรรทุกแร่ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนอย่างแรง ลากศพด.ช.จนเละอวัยวะกระจัดกระ จายเกลื่อนพื้น ต่อหน้าต่อตาพ่อแม่ที่ได้แต่มองน้ำตาไหล ส่วนคนขับรถบรรทุกหลบหนีไปตามระเบียบ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มี.ค.

ร.ต.ท.อุดมศักดิ์ ทิพพะ ร้อยเวร สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนรถจักรยานยนต์บนถนนสายบ้านกรูด-ซอยสิบ หมู่ 4 เขตเทศบาลตำบลช้างซ้าย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธากาญจนดิษฐ์

ที่เกิดเหตุเป็นเขตชุมชนหน้าหน่วยบริการประชา ชนกงตาก

และตลาดนัดประจำหมู่บ้าน มีประชาชนพลุกพล่าน พื้นถนนพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม 125 สีดำ ป้ายทะเบียน ขยก 561 สุราษฎร์ธานี สภาพด้านท้ายรถพังล้มคว่ำอยู่ริมถนน บนถนนมีรอยเลือดเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร และมีชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายเต็มพื้น พบศพ ด.ช.วิรัช สมบูรณ์ อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/3 ม.4 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีแดง สภาพศพเละทั้งร่างจนแทบไม่เหลือเค้าโครงชิ้นส่วน ทั้งมือและศีรษะกระเด็นไปทั่วถนน ทั้งนี้ พบรถบรรทุกแร่ยิปซัม 18 ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ด้านหน้า 81-4114 ตอนหลัง 81-4696 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ ส่วนคนขับหลบหนีไปก่อนแล้ว และทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อน.ส.ภกามาศ สมบูรณ์ อายุ 15 ปี พลเมืองดีนำส่งร.พ.กาญจนดิษฐ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ระหว่างนั้นชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเห็นนายพงศักดิ์ สมบูรณ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/3 ม.4 ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เป็นพ่อด.ช. วิรัช ผู้ตาย และนางมาลินทร์ สมบูรณ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่ เดินเก็บชิ้นส่วนศพลูกชายใส่ถุงก๊อบแก๊บ ด้วยมือเปล่าๆ ได้เกือบเต็มถุง เลือดแดงฉานเต็มไปหมด ใช้เวลาเก็บชิ้นส่วนศพลูกอยู่พักใหญ่ เพราะเศษกระจัดกระจายไปทั่ว ซึ่งระหว่างนั้นนายพงษ์ศักดิ์เดินเก็บไปร้องไห้ไปด้วยความเศร้าใจ นับเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

จากการสอบสวนนายพงษ์ศักดิ์ ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุตนเองภรรยาและลูกสาวลูกชาย ออกจากบ้านมาจับจ่ายชื้อกับข้าวตามปกติ โดยให้ลูกสาวเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์พาน้องชายซ้อนท้ายมา ส่วนตนกับภรรยาเดินตามมาข้างหลัง ซึ่งเห็นลูกๆ อยู่ตรงหน้า เพราะลูกขับรถช้าๆ ระหว่างที่รถของลูกขับมาถึงตรงหน้าหน่วยบริการประชาชน ซึ่งมีการวางกรวยยางไว้กลางถนนให้รถชะลอความเร็ว ปรากฏว่ารถบรรทุกคู่กรณีได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของลูกตนต่อหน้าต่อตา ซึ่งนาทีนั้นหัวใจแทบสลาย ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ส่วนที่เดินเก็บชิ้นส่วนศพลูกก็เพราะไม่ต้องการให้รถคันอื่นมาเหยียบซ้ำ โดยจะนำชิ้นส่วน ศพลูกชายที่เก็บได้ไปรวมกับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า

ถนนสายดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากมีรถบรรทุกแร่ยิปซัมวิ่งกันทั้งวันทั้งคืนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนไปทั่ว นอกจากนี้ ถนนหนทางยังได้รับความเสียหายจากการบรรทุกเกินกำหนดอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาแก้ปัญหาเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่