ชี้อนาคตหญิงไทยเลิกใช้นางกันหมด

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดสัมมนา "สิทธิความเป็นคนของผู้หญิง : พันธกรณีระหว่างประเทศ กฎหมายและข้อถกเถียง"

มีนักวิชาการ คนทำงานภาครัฐและเอกชนด้านสตรี 50 คนเข้าร่วม โดยนางจุรี วิจิตรวาทการ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า การผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับผู้หญิงในสนช. ยอมรับว่าตนต้องเผชิญกับปัญหาเจตคติมาก โดยเฉพาะจากสนช.สตรีหลายคนที่ต่อต้านในการผลักดันกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คำนำหน้านามหญิงจนออกเป็นกฎหมาย คิดว่าต่อไปผู้หญิงหันมาใช้นางสาวกันหมด คำว่านางคงหายไป อย่างไรก็ตาม เหลืออีก 90 วันที่จะบังคับใช้กฎหมาย อยากให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมการรองรับในการแก้ระบบทะเบียนราษฎร แบบฟอร์มต่างๆ หนังสือ เดินทาง และมีกลไกรองรับให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายจริง

"จากการทำกรณีศึกษาทั่วประเทศทั้งในหน่วยงานราชการและเอกชนในช่วง 4-5 ปีมานี้ เกี่ยวกับเจตคติในการคุกคามทางเพศผู้หญิงในที่ทำงาน พบว่าผู้หญิงมีเจตคติเรื่องนี้แย่กว่าผู้ชายอีก มีข้าราชการหญิงระดับกลางมองว่าผู้หญิงถูกคุกคามทางเพศเพราะแต่งตัวยั่วยุ เห็นว่าผู้หญิงใช้โอกาสความเป็นเพศหญิงเพื่อแลกกับตำแหน่งหน้าที่การงาน คิดลงโทษแต่กับผู้หญิง ไม่ได้มองปัญหาโครงสร้าง ที่น่าตกใจคือ คนทำงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศทุกคนที่เราไปถามยอมรับว่า การคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในหน่วยงาน คนที่ทำงานแล้วจะเจอปัญหาแบบนี้ ต้องทนๆ กันไป พยายามหนีออกมาจากปัญหาให้ได้ ไม่มีใครกล้าที่จะแก้ระบบที่ทำให้เกิดปัญหานี้" นางจุรีกล่าว

นางมาลี พฤกษ์พงศาวลี ผอ.โครงการสตรีและเยาวชนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า
 
เจตคติทางเพศเป็นปัญหามาก ตนเป็นอาจารย์มานาน พบว่าอาจารย์ผู้ชายบางคนมีพฤติกรรมชัดเจน โดยเฉพาะระดับปริญญาโท เช่น เลือกเป็นกรรมการวิทยานิพนธ์ให้กับนักศึกษาที่เป็นผู้หญิง หรือการเรียกนักศึกษาที่มีอายุมากกว่าว่า "อีแก่"

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์