รวบกะเทยตุ๋นเงินพนักงานอุปกรณ์คอมพ์ เลียนเสียงเป็น "พอลล่า" วีเจชื่อดังโทรคุย-ส่งข้อความเชิงชู้สาวจนเหยื่อหลงเชื่อ ออกอุบายยืมเงินหลายครั้งได้ไปเกือบ 2 แสน ชะล่าใจขอยืมเงินอีกครั้ง เหยื่อเอะใจโทรเช็กต้นสังกัด ประสาน ตร.จับขณะนัดให้มารับเงินในห้างดัง ตร.คาดทำเป็นขบวนการ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์
พ.ต.ต.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ สว.สป.สน.ปทุมวัน นำกำลังเข้าจับกุม นายภาณุพงษ์ จิตระพรหมา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 432 หมู่ 10 แขวงและเขตหนองแขม กทม. ซึ่งลักษณะคล้ายกะเทย ที่หน้าร้านอาหารแบล็คแคนยอน ชั้น 7 ในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน โดยมี นายณทภช เทียนศาสตร์ อายุ 29 ปี ชี้ให้จับกุม
นายณทภช กล่าวว่า
เป็นพนักงานขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว เข้าไปเล่นแชทอินเทอร์เน็ตจนรู้จักกับผู้ต้องหา ซึ่งอ้างว่าชื่อ พอลล่า ทำงานอยู่แชนแนลวี ไทยแลนด์ และมีการแลกเบอร์โทรศัพท์พูดคุยติดต่อกันมาตลอด ผู้ต้องหาอ้างว่ามีที่พักหลายแห่ง อาทิ ย่านสุขุมวิท สาทร ศรีนครินทร์ ฯลฯ ต่อมาผู้ต้องหาแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในสามของผู้จัดการส่วนตัวของพอลล่า กระทั่งมีการนัดเจอกับผู้จัดการส่วนตัวตามสถานที่ต่างๆ
"มีการส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือกันตลอด ข้อความที่ส่งมาให้ผม ส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะเชิงชู้สาว ไม่ว่าจะเป็นการเคานท์ดาวน์ทางโทรศัพท์ และมีการแอบอ้างว่าไปดูหมอชื่อดังหลายคน หมอดูต่างทำนายไปในทางเดียวกันว่าผมกับคนที่อ้างตัวเป็นพอลล่าเป็นเนื้อคู่กัน รวมทั้งพูดถึงแฟนคนเก่าที่ชื่อเก้า ไฮโซ และยังมีการส่งของขวัญมาให้ในวันวาเลนไทน์ ทำให้ผมหลงเชื่อว่าผู้หญิงที่ผมติดต่อด้วยเป็นพอลล่าตัวจริง" นายณทภช กล่าว
นายณทภช กล่าวต่อว่า
กระทั่งประมาณปลายเดือนมกราคม ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ คนที่อ้างตัวเป็นพอลล่าเอ่ยปากขอยืมเงิน อ้างว่ามีปัญหาต้องจ่ายค่าเช่าร้านขายเสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น จี จำนวน 2.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าเช่ารายปี และยังอ้างว่าเพื่อนนักแสดงสาวชื่อดังคนหนึ่งช่วยเหลือออกเงินให้แล้วจำนวน 2.2 ล้านบาท ยังขาดเงินอีก 8 หมื่นบาท พร้อมกับเอ่ยปากขอยืมเงินจากตน โดยให้คนชื่อต้น ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวดำเนินการทำสัญญาเงินกู้แทน จากนั้นได้นัดโอนเงินและทำสัญญาเงินกู้ที่ห้างบิ๊กซี สาขาเพชรเกษม นัดคืนเงินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่ได้คืนเงินตามที่สัญญา อ้างว่ายังไม่พร้อมคืนเงิน ต้องนำเงินไปลงทุนทำอย่างอื่น
นายณทภช กล่าวอีกว่า
ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ช่วงเวลา 02.00-03.00 น. ผู้ที่อ้างชื่อว่าพอลล่าร้องไห้ โทรมาเล่าให้ฟังว่าไปงานเลี้ยงมาที่แชนแนลวี ขากลับเจอด่านตรวจแฮลกอฮอล์ทำให้ต้องขับรถหนี แต่กลับวิ่งไปชนรถกระบะในพื้นที่ สน.มักกะสัน และถูกจับ ต้องไปนอนที่ห้องขังบนโรงพัก นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ได้เสนอเงินขอปิดข่าวกับตำรวจจำนวน 3-4 ล้านบาท โดยให้คนชื่อต้นที่อ้างเป็นผู้จัดการส่วนตัวไปยืมเงินจากเพื่อนๆ และคนที่รู้จักกัน
"เขาอ้างว่าพ่อแม่เดินทางไปต่างประเทศ จึงอยากจะขอยืมเงินผม 5 หมื่นบาท ผมก็หลงเชื่อ โอนเงินให้ไป แต่หลังจากนั้นก็โทรศัพท์มาอ้างอีกว่า ต้องการเงินไปยัดให้อัยการอีก 3 ล้านบาท เขาก็ขอยืมเงินผมอีก 8 หมื่นบาท โดยบอกว่าเงินไม่พอ แต่ครั้งนี้ผมปฏิเสธ บอกว่ามีเงินเพียง 5 หมื่นบาทเท่านั้น เสียงผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นพอลล่าก็บอกกลับมาว่า แค่นี้ก็ได้ ที่เหลือจะหายืมเงินเพิ่มเติมเอาเอง" นายณทภช กล่าว
นายณทภช กล่าวอีกว่า
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก็โทรศัพท์มาขอยืมเงินอีก 7.5 หมื่นบาท อ้างว่าจะเอาไปเสียภาษีย้อนหลัง เนื่องจากพ่อโอนเงินจำนวน 58 ล้านบาท จากต่างประเทศมาให้ โดยนัดหมายนำเงินไปให้ที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง
"ครั้งนี้ผมรู้สึกเอะใจ จึงเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.จรูญ สังขารา พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พร้อมกับโทรศัพท์สอบถามที่แชนแนลวี ไทยแลนด์ ว่ามีผู้จัดการพอลล่าชื่อต้นหรือเปล่า ซึ่งได้คำตอบปฏิเสธ จึงประสานงานกับตำรวจ พร้อมกับวางแผนนัดให้ผู้ต้องหามารับเงินจนกระทั่งจับกุมได้" นายณทภช กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.อภิวัชร์ กล่าวว่า
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายภาณุพงษ์ว่าร่วมกับพวกที่หลบหนีอยู่ทำการฉ้อโกง เนื่องจากเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ เพราะมีผู้หญิงดัดเสียงสวมอ้างตัวเป็นพอลล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป