เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดเบญจคีรี
ตั้งอยู่บนเนินเขาเบญจคีรี หรือเขาหม้อแตก หมู่ 5 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อขอพบพระจิรวัฒน จันทรังสี อายุ 58 ปี รักษาการเจ้าอาวาส หลังมีข่าวว่ามีคนร้ายลักลอบขูดลอกทองคำเปลวบริเวณองค์พระประธาน แต่พระจิรวัฒนไม่อยู่ พระลูกวัดจึงต่อโทรศัพท์มือถือ ให้พูดคุย โดยพระจิรวัฒนเปิดเผยว่า เดิมทีพระประธานองค์นี้เป็นพระพุทธชินราชจำลอง สูง 90 นิ้ว หน้าตักกว้าง 70 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ มีหลังคากันฝนเล็กน้อย ต่อมาอาตมาได้นำเงินที่ญาติโยมบริจาคมาสร้างโบสถ์ก่ออิฐครอบองค์พระประธาน ก่อสร้างไปแล้ว 40 เปอร์เซ็นต์ ตลอดเวลามีคนร้ายลักลอบเข้าไปขโมยวัสดุคิดแล้วเป็นมูลค่านับแสนบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ได้ให้ลูกศิษย์เข้าไปทำความสะอาด พบว่าองค์พระพุทธชินราชจำลองถูกคนร้ายนำน้ำยาเคมีราดแล้วขูดลอกทองคำเปลวบริสุทธิ์ไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จนองค์พระเป็นสีดำ ค่าเสียหายราว 7 หมื่นบาท เห็นแล้วตกใจมาก ตั้งใจจะเข้าแจ้งความตำรวจในวันที่ 24 ก.พ.นี้
ส่วนคดีคนร้ายลักลอบใช้น้ำยาเคมีราดองค์พระพุทธไสยาสน์มงคลสรรเพชญ
ซึ่งเป็นพระนอนขนาดใหญ่ อายุ 131 ปี ประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วขูดลอกทองคำเปลวบริสุทธิ์ไปนั้น พระครูประเสริฐ จันทวโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไปมีหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนรับบูรณะองค์พระอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมีญาติโยมที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาที่วัดเพื่อดูให้เห็นกับตาแทบทุกวัน ถ้าวันหยุดจะมีจำนวนมาก และมีความประสงค์จะร่วมบูรณะปิดทององค์พระนอนคนละเล็กคนละน้อย ทางวัดก็ได้ออกใบอนุโมทนาให้เพื่อรวบรวมสมทบทุน สำหรับคดีคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการ ส่วนที่มีข่าวในทำนองว่าพระทำเองนั้นอาตมาว่าคนที่พูดไม่เคยมาทำบุญวัดนี้ คนทำชั่ว และคนทำดีย่อมรู้อยู่แก่ตัว คิดว่าอีกไม่นานต้องได้คนร้ายมาแน่นอน