พบอีกคนร้ายลอกทองประตูพระวิหารหลวง องค์พระปฐมเจดีย์ สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีเจดีย์สูงที่สุด ตร.เชื่อคนร้ายลอกทองเพื่อนำไปหลอมขาย หวั่นย่ามใจย้อนกลับมาทำอีก
โจรใจบาปลอกทององค์พระโผล่อีก คราวนี้ลอกทองประตูพระวิหารหลวง เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์
ร.ต.ท.บุญญศักดิ์ ติ๊บมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุจาก นายสุรเชน จันทร์คูณ หัวหน้าสำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม ว่า ทองคำประตูวิหารหลวงด้านทิศตะวันออกขององค์พระปฐมเจดีย์ ถูกคนร้ายลอกทองคำไปทั้งสองบาน จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่ประตูวิหารหลวงขององค์พระปฐมเจดีย์ด้านทิศตะวันออก เจ้าหน้าที่พบร่องรอยคนร้ายใช้สารเคมีลอกทองคำเปลวที่ประดับประตูบานขวา
ขนาดความเสียหายกว้าง 30 ซม. สูง 130 ซม. และประตูบานซ้าย ขนาดความเสียหายกว้าง 28 ซม. สูง 134 ซม. จึงบันทึกภาพไว้ และประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 15 นครปฐม เข้าร่วมตรวจสอบด้วย
นายสุรเชน จันทร์คูณ หัวหน้าสำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ กล่าวว่า
หลังจากมีข่าวโจรลอกทองคำพระนอน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโบราณสถานที่ประดับด้วยทองคำและทองคำเปลวทั่วองค์พระปฐมเจดีย์ กระทั่งพบความเสียหายที่ประตูวิหารหลวง สมัยรัชกาลที่ 4 ด้านซ้ายในระเบียงคด ด้านทิศตะวันออก ถูกคนร้ายลอกทองไป หากเทียบเคียงกับราคาที่บูรณะปิดทองคำเปลว 100% เมื่อ พ.ศ.2540 ราคาบานละ 250,000 บาท ปัจจุบันมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท คาดว่าน่าจะถูกโจรกรรมช่วงวันธรรมดาเพราะคนไม่พลุกพล่าน
ร.ต.ท.บุญญศักดิ์ กล่าวว่า
จากการตรวจร่องรอยความเสียหายพบว่า คนร้ายอาจใช้สารเคมีทาเพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับทองคำเปลวที่ติดประตู ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 15 นครปฐม ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เสียก่อน ในเบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ดูแล ให้การว่า ไม่มีใครเห็นคนร้าย และภายในวัดไม่มีกล้องวงจรปิด โดยหลังเกิดเหตุได้เฝ้าระวังเพราะเกรงว่าคนร้ายอาจย่ามใจย้อนกลับมาทำอีก