นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมผู้ค้าสุกรแห่งชาติ
กรมปศุสัตว์ หน่วยงานขายปลีก เช่น ตลาดสด แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เดอะมอลล์ บริษัทที่ทำการเลี้ยงหมูรายใหญ่ และกลุ่มผู้เลี้ยงลูกหมู ว่า กรมการค้าภายในเตรียมเสนอปรับสูตรคำนวณราคาขายปลีกหมู แก่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ พิจารณา 2-3 ทาง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการให้กรมการค้าภายในทบทวนและดูแลราคาสินค้า รวมถึงการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากอาหารสัตว์มีราคาปรับเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดปรับราคาขึ้นเฉลี่ย 20% กากถั่วเหลืองปรับราคาขึ้น 40% และรำข้าว 30% รวมถึงโรคระบาดในกลุ่มลูกหมูส่งผลให้ลูกหมูตายจำนวนมาก
"ที่ผ่านมาทางกรมฯ ประกาศให้ผู้ขายปลีกหมูหน้าเขียงใช้สูตรคำนวณ คือ ราคาหมูเป็น คูณ 2 บวก 2
เช่น ราคาหมูเป็น 50 บาทต่อกิโลกรัม คูณ 2 บวก 2 เท่ากับ ราคาขายปลีกหมูอยู่ที่ 102 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการปรับสูตรดังกล่าวจะช่วยให้ราคาขายปลีกหมูหน้าเขียงลดลง จากการหารือยอมรับว่าเนื้อหมูมีการขายปลีกในราคาค่อนข้างสูง 15-20% โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทางผู้เลี้ยงหมู ผู้ขายปลีก โรงชำแหละ ยินดีให้ความร่วมมือ ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้สูตรคำนวณราคาขายปลีกหมูสูตรใด เพราะต้องรอการตัดสินใจจาก รมว.พาณิชย์ ซึ่งทางกรมฯ ได้เสนอสูตรดังกล่าวให้นายมิ่งขวัญพิจารณาแล้ว โดยในวันที่ 22 ก.พ. จะมีการหารือกับผู้เลี้ยงหมูอีกครั้ง เพื่อดูข้อมูลและเสนอแนวทางการแก้ไขให้ผู้ประกอบการรับทราบ ทั้งนี้ต้นทุนการเลี้ยงหมูเฉลี่ยอยูที่ 51.81 บาทต่อกิโลกรัม และราคาหมูมีชีวิตอยูที่ 59 บาทต่อกิโลกรัม" นายยรรยง กล่าว