นายประยูร อองกุลนะ กรรมการบริหารแผนสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไปและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า
ในเทศกาลวาเลนไทน์จะไม่ใช่ช่วงเสี่ยงเลยถ้าเยาวชนตระหนักรู้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความรัก ไม่มีเรื่องของเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้พ่อแม่และสังคมต้องเข้าไปช่วยเหลือ โดยที่เราต้องทำความเข้าใจว่า ฮอร์โมนบางอย่างอาจจะไปกระตุ้นให้พวกเขาเสี่ยงกับการดำรงชีวิต
"โครงการแผนที่สุขภาพฯ เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของสสส.ที่ต้องการวัยรุ่นได้ศึกษาวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาว่าพื้นที่ไหนเสี่ยง พื้นที่ไหนดี ก่อนตัวสินใจว่าพื้นที่ไหนเหมาะสำหรับตัวเขา แต่ทั้งนี้สังคมต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับเขาด้วย" นายประยูรกล่าว
นายประยูรกล่าวด้วยว่า จากการสำรวจตามโครงการแผนที่สุขภาพ เพื่อเพิ่มพื้นที่ดี ลดพื้นที่เสี่ยงรอบโรงเรียน ของสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ โดยการสนับสนุนของสสส. ซึ่งมีโรงเรียนกว่า 150 โรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วม โดยกลุ่มนักเรียนในโครงการจะทำการสำรวจพื้นที่รอบๆ โรงเรียนในรัศมี 5 กิโลเมตร
อาจารย์นงนุช สุขประเสริฐ อาจารย์โรงเรียนเทพมงคลรังสี หนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์อาจารย์จากทุกโรงเรียนในเขตอำเภอเมือง กาญจนบุรี จะคอยสอดส่องดูแลนักเรียนตามพื้นที่เสี่ยงต่างๆ และแพเธคกลางแม่น้ำแคว ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสถานที่มั่วสุมสำคัญของวัยรุ่นในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี
"เราพยายามบอกกับนักเรียนมาโดยตลอดว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เสี่ยงสำหรับพวกเขา และเหมาะสมกับวัยแค่ไหนถ้าเข้าไปสถานที่แบบนั้น
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาล ทางโรงเรียนของเราก็หาทางป้องกันทุกรูปแบบ อย่างเช่นช่วงวันที่ 14 ก.พ. เราก็จะพานักเรียนในโรงเรียนทุกคนไปเข้าค่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เขาใช้โอกาสในวันวาเลนไทน์ไปมั่วสุมกัน" อาจารย์นงนุชกล่าว