ตรวจเบื้องต้นวัตถุประหลาดน่าจะเป็นเจลลดไข้สำหรับเด็ก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2549 18:26 น.
สธ.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่งนักกีฏวิทยาตรวจสอบวุ้นประหลาดที่ จ.อุทัยธานี และย่านรามคำแหง กทม.เบื้องต้นสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ ระบุ น่าจะเป็นเจลลดไข้สำหรับเด็ก ด้านปลัด สธ.รุดตรวจวัตถุวุ้นที่เก็บจากย่านสามเสน ยืนยันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่ใช่สัตว์ประหลาดแน่นอน ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจละเอียดทางชีวเคมี
กรณีพบวุ้นประหลาดโปร่งใสคล้ายดักแด้ หล่นจากฟ้า โผล่ที่จังหวัดอุทัยธานี และย่านรามคำแหงในช่วง 2 วันมานี้ โดยลักษณะที่ชาวบ้านพบเห็นเป็นเจล ลำตัวเป็นปล้อง ด้านหลังลายเป็นตาข่าย ส่วนหัวมีตุ่มยื่นออกมาคล้ายหูมีตา 2 ข้าง น้ำหนักประมาณ 370 กรัม พบครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 ขนาดลำตัวยาว 5 นิ้ว ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ค.) ขนาดลำตัวเหลือ 2 นิ้ว ลำตัวเริ่มแห้ง และหลุดลุ่ยออกจากลำตัวหลายชิ้นนั้น
นายสัตวแพทย์เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวภายหลังทดลองนำแผ่นเจลลดไข้เด็กแช่น้ำ เพื่อเปรียบเทียบกับวัตถุประหลาดซึ่งพบในหลายจังหวัด ว่า วัตถุประหลาดไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เบื้องต้นน่าจะเป็นแผ่นเจลลดไข้สำหรับเด็ก เนื่องจากการนำแผ่นเจลมาแช่น้ำ พบว่า มีลักษณะคล้ายกันมาก ซึ่งสิ่งแปลกปลอมที่ชาวบ้านนำส่งให้โรงพยาบาลสัตว์นั้น มีสารสีฟ้าคล้ายกับเจลลดไข้สำหรับเด็ก ตนไม่อยากให้ประชาชนสนใจมากนัก เพราะเป็นวัตถุเครื่องใช้ทั่วไป ไม่ได้หล่นมาจากฟ้าแต่พบบนพื้น
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังร่วมตรวจสิ่งแปลกปลอมที่ประชาชนย่านสามเสน นำส่งโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่า ผลตรวจเบื้องต้นยืนยันได้ว่า วัตถุดังกล่าวไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ผลตรวจเบื้องต้นประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เจลใส เหนียว คล้ายวุ้นไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และอีกส่วนหนึ่งเป็นใยสังเคราะห์ ขนาด 2 นิ้ว ยาว 4 นิ้ว
ฝากประชาชนอย่าตื่นตระหนก สธ.จะร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ว่า เจลดังกล่าวมีองค์ประกอบอะไรบ้าง โดยส่งวัตถุประหลาดดังกล่าวให้กรมวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ ยืนยันว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิต เพราะเส้นใยสังเคราะห์ที่พบ ถูกพบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัดเป็นเส้นตรง หากเป็นสิ่งมีชีวิตจะต้องมีรูปร่าง อย่างไรก็ตาม จะนำตัวอย่างของวัตถุอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันมาตรวจสอบด้วย
วันเดียวกัน นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการดูภาพและสอบถามนักกีฏวิทยา ซึ่งเชี่ยวชาญด้านแมลงและหนอน ได้รับคำตอบว่ายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงยังไม่แน่ใจว่าตัววุ้นที่ชาวบ้านเก็บได้เป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ จะต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และตรวจดูว่ามีความเป็นพิษหรือไม่ ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งนักกีฏวิทยาจากกรมควบคุมโรค 2 คน ร่วมกับนักกีฏวิทยาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่จังหวัดอุทัยธานี และที่ย่านรามคำแหงแล้ว เพื่อให้การพิสูจน์ได้ข้อกระจ่างชัดต่อสังคมและคนไทยทั่วประเทศ จึงขอความร่วมมือผู้ที่เก็บตัววัตถุวุ้นดังกล่าวทุกแห่งให้ส่งให้ภาครัฐตรวจ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานอื่น พร้อมที่จะตรวจพิสูจน์เป็นการด่วน