|
ข่าวดีสำหรับมวลมนุษยชาติต้อนรับปี 2550 และถือว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการแพทย์ นั่นก็คือการค้นพบตัวยารักษาโรคเอดส์ให้หายขายได้โดยสามารถค้นพบวิธีฆ่าไวรัสเอดส์หรือเชื้อ HIV ในร่างกายมนุษย์ให้หมดไปได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ ชาวสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คิดค้นตัวยาดังกล่าว
เป็นที่ทราบกันดีทุกคนว่า โรคเอดส์ คือโรคที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน เพราะถ้าใครที่ได้รับเชื้อเข้าไปแล้วโอกาสที่จะรอดแทบจะเรียกว่ามืดมิด อีกทั้งยังเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคนี้จะต้องเข้ารักษาตัวอยู่ตลอดเวลา ต้องทานยา ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการบรรเทาหรือชะลอการแพร่เชื้อในร่างกายของผู้ป่วยเท่านั้น เพราะปัจจุบันยังไม่มียาตัวไหนที่สามารถจะฆ่าเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ลงได้
กล่าวกันว่า โรคเอดส์ หรือ เชื้อ HIV เป็นไวรัสที่เกิดมาจากการผสมข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างยีนส์ของมนุษย์กับลิง เป็นโรคที่มีอายุยาวนานมากว่า 30 ปี แท้จริงแล้วไม่ใช่ว่าทางการแพทย์จะไม่สามารถคิดค้นตัวยาเพื่อที่จะมายับยั้งเชื้อโรคตัวนี้ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าเจ้าเชือ้ HIV สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของตัวมันเองพัฒนาไปได้เรื่อยๆ
พอแพทย์คิดค้นตัวยาที่จะใช้ปราบเจ้าเชื้อตัวนี้สำเร็จ ก็สายไปเสียแล้ว เพราะมันได้กลายพันธุ์ไปเป็นแบบอื่นเข้าไปสู่ร่างกายของมนุษย์แล้ว ยาที่คิดได้จึงไม่มีประโยชน์และไม่สามารถใช้รักษาใครได้เพราะผู้ที่ป่วยด้วยเชื้อแบบเก่าก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว นี่คือความจริงที่ใครต่อใครต่างตั้งคำถามว่า ทำไมจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครคิดค้นหายาที่จะรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้?
แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์เพราะไม่นานมานี้นักวิจัยชาวสหรัฐฯ หนึ่งในทีมวิจัยจากสถาบัน NIAID (the National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ได้ค้นพบวิธีกำจัดเจ้าโรคร้ายขนิดนี้ได้แล้ว แม้ว่ามันจะกลายพันธุ์พัฒนารูปแบบไปเป็นอย่างไรก็ตามสุดท้ายเจ้าเชื้อโรคตัวนี้ก็มีจุดอ่อนที่สามารถกำจัดได้
เพราะจากผลการวิจัยพบว่า ที่ส่วนเล็กที่สุดของเชื้อ HIV ที่มีลักษณะคล้ายกับเดือยซึ่งเรียกเป็นภาษาฝรั่งว่า glycoprotein 120 หรือ (gp120) นั้นจะไม่เปลี่ยนสภาพตามไปด้วย คือมีลักษณะคงที่เป็นเป้านิ่ง จากนั้นได้ทำการจำลองรูปภาพผิวหน้าของ HIV Protein เมื่อทำปฏิกิริยากับสารแอนติบอดี้ ซึ่งโปรตีนชนิดนี้หรือที่เรียกกันว่า B 12 นั้นสามารถโจมตีเชื้อ HIV ได้
ดร. Kwong ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อ HIV มากเท่าไร เราก็ยิ่งค้นพบว่าเชื้อไวรัสนี้สามารถต่อต้านการทำลายเชื้อโรคจากระบบภูมิคุ้มกันได้ในหลายๆ ระดับ
เมื่อพบเป้านิ่งอย่างนี้แล้ว นักวิจัยนี้ก็พบต่อไปว่า มีสารแอนตี้บอดี้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า B12 สามารถจดจำและพุ่งเข้าเกาะบริเวณเดือยหรือ gp120 ของเชื้อ HIV ได้ และเมื่อเกาะแล้วก็จะระงับฤทธิ์เดชของเชื้อ HIV ไม่ให้เป็นอันตรายได้ คือทำให้เชื้อ HIV ไม่สามารถทำลายเนื้อเยื้อหรือเซลล์อื่น ๆ หรือโมเลกุลอื่น ๆ ของร่างกายได้ จึงสรุปผลได้ว่า สารแอนตี้บอดี้ B12 เป็นสารที่สามารถหยุดยั้งและทำลายไวรัสเอดส์หรือเชื้อ HIV ได้
Anthony S. Fauci ผู้อำนวยการสถาบัน NIAID กล่าวว่า ผลงานชิ้นเยี่ยมของ ดร. Kwong และทีม คือรูปภาพที่เป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งเป็นการทำปฏิกิริยาระหว่าง gp120 หรือส่วนที่เล็กที่สุดของเชื้อ HIV กับสารแอนติบอดี้ชนิดนี้ การค้นพบครั้งนี้ก่อให้เกิดการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อ HIV ต่อไป
นักวิจัยกล่าวต่อว่าสำหรับสารแอนตี้บอดี้ B12 นี้ สามารถพบได้ในเลือดของคนที่มีร่างกายสามารถต้านทานเชื้อ HIV ได้เป็นเวลานาน และต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างของเลือดที่มีลักษณะดังกล่าวเพื่อนำไปสังเคราะห์เป็นสารแอนตี้บอดี้ B12 หากการวิจัยที่กล่าวมาแล้วเสร็จเมื่อใด การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับการแพทย์อีกต่อไปแล้ว
ดร. Nabel ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเขียนงานวิจัยได้กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของเราก็คือการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อ HIV ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดต่อต้านสารแอนติบอดี้อย่างกว้างขวาง การค้นพบครั้งนี้เป็นหนึ่งในหนทางที่ดีที่สุดที่จะนำเราสู่การพัฒนาในปีต่อๆ ไป
ในอนาคตเราคงจะต้องจารึกเจ้าโรคร้ายที่ชื่อว่า เอดส์ ไว้ข้างๆ กับมหันตภัยที่ร้ายแรงในอดีตอย่าง อหิวาต์ หรือโรคร้ายอื่นๆที่ได้สูญพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ตัวยาตัวนี้ได้ออกมารักษาผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ไวๆ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะแสงสว่างอันสดใสกำลังรอพวกท่านอยู่ข้างหน้า. . .
|
|