เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นอุทาหรณ์สอนใจหญิงสาวขี้หลงขี้ลืมได้เป็นอย่างดี ว่าต้องระมัดระวังตัวเองและมีความรอบคอบให้มากขึ้น อย่าลืมกุญแจเสียบคาประตูห้องไว้อย่างเด็ดขาด
พลาดพลั้งไปอาจเสียทั้งตัวเสียทั้งทรัพย์!?!
เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ที่เธอลืมกุญแจห้องเสียบคาประตูไว้แล้วเผลอนอนหลับไป พอตกดึกเกิดมีไอ้หื่นข้างห้องแอบเปิดประตูเข้ามาลักทรัพย์ แล้วเหลือบไปเห็นน.ส.เอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงจึงเกิดอารมณ์หื่นใช้กำลังเข้าข่มขืนก่อนจะหอบเอาทรัพย์สินหลบหนีไป
ยังดีที่คนร้ายไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหนุ่มข้างห้องที่เดินมาเห็นกุญแจเสียบคาไว้แล้วฉวยโอกาสเข้าไปข่มขืน เลยทำให้ตำรวจแกะรอยตามจับกุมตัวได้
สุดท้ายจึงหนีไม่พ้นคุก!
เหตุร้ายที่เกิดกับน.ส.เอ เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่วันที่ 29 ม.ค.
พ.ต.ท.ประจวบ เสนทา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งจากน.ส.เอ ว่า ช่วงเช้ามืดได้มีคนร้ายบุกเข้ามาข่มขืนและลักทรัพย์ เหตุเกิดภายในห้องพักของโรงแรมลิทเทิ้ล คอร์ท ซ.บัวขาว ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรายงานให้พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รองผกก. รับทราบรุดเดินทางไปตรวจสอบทันที
เมื่อไปถึงพบน.ส.เอ ซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนก ละล่ำละลักให้การว่า
ก่อนหน้านี้เดินทางมาจากจ.หนองบัวลำภู มาถึงเมืองพัทยากลางดึกเพื่อพาเพื่อนมาหาแฟนชาวต่างชาติ หลังจากส่งเพื่อนเสร็จจึงเช่าห้องพักหมายเลข 315 ชั้น 3 ของโรงแรมดังกล่าวเพื่อพักผ่อน
อุทาหรณ์ขี้หลงขี้ลืม สาวลืมกุญแจคาประตู ไอ้หื่นไขเข้าไปข่มขืน!
พอตอนเช้าขณะนอนหลับอยู่บนเตียง ก็รู้สึกเหมือนมีคนแอบเข้ามาในห้องพักจึงลุกขึ้นมาดู
เลยถูกคนร้ายต่อยที่จมูกของตนที่เพิ่งไปเสริมดั้งมาจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะใช้กำปั้นต่อยที่ท้องอีกครั้งจนจุกพูดไม่ได้ หลังจากนั้นคนร้ายจึงได้ลงมือข่มขืน แต่ยังไม่สำเร็จความใคร่ ตนจึงออกอุบายว่าปวดท้องฉี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน เมื่อออกจากห้องน้ำมาก็ปรากฏว่าคนร้ายได้หลบหนีไปพร้อมกับเงินจำนวน 2 พันบาท โทรศัพท์มือถือ แว่นกันแดดและเข็มขัดหนังสีดำรูปหัวม้าสีทอง
"เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนั้นเพิ่งตื่นนอนเลยสะลึมสะลือ พอลุกมาเห็นคนร้ายก็โดนต่อยที่จมูกและท้องจนตัวงอ หลังจากนั้นจึงถูกข่มขืน แต่หนูออกอุบายขอเข้าห้องน้ำเพื่อหาทางหลบหนี พอออกจากห้องน้ำก็พบว่าคนร้ายหายตัวไปแล้วและได้ขโมยทรัพย์สินไปด้วย สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะหนูลืมกุญแจเสียบคาไว้หน้าห้อง เลยทำให้คนร้ายฉวยโอกาสเปิดประตูเข้ามาข่มขืนชิงทรัพย์ได้" น.ส.เอ กล่าว
และย้ำว่า แต่ถึงอย่างไรก็จำหน้าตาและรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้อย่างแม่นยำ
หลังได้ข้อมูลคนร้ายพอสังเขป เจ้าหน้าที่จึงตั้งตุ๊กตาไว้ว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในโรงแรมแห่งนี้ เพราะไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก แค่ไขกุญแจห้องที่เหยื่อลืมเสียบคาไว้ก็เข้าไปข้างในได้แล้ว ซึ่งตอนแรกตำรวจมุ่งเป้าไปที่พนักงานโรงแรม แต่พอสอบไม่พบพิรุธจึงหันกลับมาดูแขกที่เปิดห้องข้างๆ พร้อมขอชื่อที่อยู่ในใบลงทะเบียนบุคคลเข้าพักนำมาตรวจสอบ
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำชื่อ-นามสกุลของบุคคลทั้งหมดไปขอภาพถ่ายจากกองทะเบียนประวัติเพื่อนำมาให้ผู้เสียหายดู
ซึ่งทันทีที่น.ส.เอ เห็นภาพนายอดิศร ระวังกลาง อายุ 24 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.2 ต.พะงาด อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ซึ่งมาเปิดห้องพักอยู่ที่ห้อง 314 ใกล้กับห้องผู้เสียหาย น.ส.เอก็ถึงกับตาเหลือกร้องตะโกนเสียงหลงว่าคนร้ายคือนายอดิศรแน่ๆ เพราะจำหน้าได้แม่นยำ
เท่านั้นเป้าหมายก็พุ่งไปที่นายอดิศร!!
เมื่อทุกอย่างชัดเจน พ.ต.ท.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส จึงนำกำลังสายสืบเมืองพัทยาเข้าปิดล้อมโรงแรมลิทเทิ้ลคอร์ททันที เนื่องจากเช็กได้ว่านายอดิศร ยังทำใจเย็นเช่าห้องพักอยู่ ไม่ได้ย้ายออกไปไหน สายวันเดียวกัน ตำรวจนอกเครื่องแบบจึงกระจายกำลังเฝ้าจุดซุ่มรอนายอดิศรอยู่รอบๆ โรงแรม หลังสืบรู้มาว่านายอดิศรออกไปทำธุระข้างนอก พอนายอดิศรย้อนกลับเข้ามาเจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้โดยละม่อม
หมอนี่ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุทั้งหมด
นายอดิศรให้การรับสารภาพ ว่า
ก่อนหน้านี้ตนเปิดห้องพักดังกล่าวติดกับห้องของผู้เสียหาย เพื่อนัดแฟนสาวมาร่วมหลับนอน แต่ปรากฏว่าแฟนสาวไม่มาตามนัด ขณะตนออกมาเดินเล่นที่หน้าห้อง พบว่าห้องของผู้เสียหายมีลูกกุญแจเสียบคาไว้ จึงเปิดประตูเข้าไปเพื่อหวังลักทรัพย์ แต่พบว่าผู้เสียหายนอนหลับในสภาพเปลือยกาย ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ตนจึงตรงเข้าไปบังคับขืนใจจนเกือบสำเร็จความใคร่ แต่ผู้เสียหายออกอุบายไปเข้าห้องน้ำ เลยทำให้เสียอารมณ์ จึงลักทรัพย์ก่อนจะกลับมานอนหลับในห้องของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และย่ามใจคิดว่าตำรวจคงตามจับไม่ได้
แต่สุดท้ายก็ต้องพลาดท่าถูกจับจนได้
ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ฝากเตือนให้ระแวดระวังภัย เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลืมกุญแจคาลูกบิด ลืมล็อกห้องหรือลืมใส่กลอน ล้วนนำพาอันตรายมาได้ทั้งนั้น อย่างเบาะๆ ก็อาจโดนยกเค้าหรือโดนขโมยทรัพย์สินไป แต่ถ้าหากโชคร้ายก็อาจบานปลายถึงขั้นเสียเลือดเนื้อและชีวิต ซึ่งก็มีให้เห็นกันอยู่มากมาย
ทางที่ดีควรระมัดระวังกันเข้าไว้ไม่เป็นคนหลงลืมหรือประมาทเลินเล่อจนก่อให้เกิดอันตราย
เพราะยุคนี้เป็นยุคที่หาความปลอดภัยไม่ได้!?!